บรรดาเหล่าตระกูลใหญ่ๆล้วนแล้วแต่หน้าซีดเป็นไก่ต้ม
เยี่ยหวู่ซวงให้ทางเลือกกับพวกเขาแค่สองทาง หนึ่งคือจะฆ่าตัวตายไปคนเดียวหรือสองจะพาไปทั้งครอบครัว
ไม่ว่าพวกเขาจะเลือกทางไหนพวกเขาก็หลีกเลี่ยงความตายไปไม่ได้
“จะทำอย่างไรดี?”
“พวกเราทุกคนจะตายที่นี่จริงๆเหรอ?”
“ข้ายังไม่อยากตาย...”
“รีบไปข้อร้องผู้อาวุโสถังกันเถอะ ขอให้เขาไปช่วยพูดกับเยี่ยหวู่ซวงแทนพวกเรา ไม่แน่เขาอาจจะไว้ชีวิตพวกเราก็ได้”
และในขณะนั้นเองบรรดาเหล่าตระกูลใหญ่ๆก็พากันขอร้องผู้อาวุโสเยี่ยและผู้อาวุโสถัง
“ผู้อาวุโสเยี่ย ท่านช่วยโน้มน้าวเยี่ยหวู่ซวงให้พวกเราที หากเขาไว้ชีวิตพวกเราครั้งนี้ หลังจากนี้ไปพวกเราจะฟังคำสั่งของตระกูลเยี่ยแต่เพียงผู้เดียว”
“ผู้อาวุโสเยี่ย เห็นแก่เรารู้จักกันมาหลายปีเถอะ และครั้งหนึ่งเราเคยร่วมงานกัน เพื่อประโยชน์ของมิตรภาพในอดีต โปรดช่วยพวกเราร้องขอความเมตตาด้วย!”
“ผู้อาวุโสเยี่ย……”
ใบหน้าของผู้อาวุโสเยี่ยตอนี้นั้นช่างไร้อารมย์:“ในเมื่อทุกท่านคิดเช่นนี้ ทำไมพวกท่านถึงทำเช่นนั้นตั้งแต่แรก”
“พูดกันตรงๆ”
“ถึงแม้ว่าเยี่ยหวู่ซวงไม่ล้างแค้นพวกท่าน ไม่ช้าก็เร็วข้าก็จะล้างแค้นพวกท่านเองอยู่แล้ว”
ไม่มีทางเลือกใดๆ
คนพวกนี้ตอนนี้ทำได้เพียงขอความช่วยเหลือจากผู้อาวุโสถัง
“ผู้อาวุโสถัง เยี่ยหวู้ซวงจะฆ่าพวกเรา ท่านช่วยพูดให้พวกเราที!”
“หากพวกเราทั้งหมดตายไป เมืองทั้งเมืองต้องวุ่นวายเป็นแน่”
“ขอร้องล่ะผู้อาวุโสถัง”
ไม่คิดถึงเลยว่า คำตอบของผู้อาวุโสถังนั้นจะทำให้คนเหล่านี้สิ้นหวังมากยิ่งขึ้น
“พวกท่านทุกคน หวู่ซวงนั้นได้ให้ทางเลือกทั้งสองทางให้แก่พวกท่าน ข้าแนะนำว่าให้พวกท่านจัดการทำด้วยตัวเองเถิด ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อครอบครัวของพวกท่านเอง”
“หลังจากที่พวกท่านตายแล้วนั้น ข้าจะประกาศให้โลกภายนอกทราบว่าพระราชวังต้องห้ามกำลังพยายามวางแผนก่อกบฏ แต่พวกท่านนั้นเสี่ยงชีวิตเพื่อปกป้องข้าและเสียชีวิตไปอย่างน่าเสียดาย”
“เนื่องจากพวกท่านทุกคนเป็นผู้ที่มีเกียรติ ข้าจะมอบเหรียญเกียรติยศให้กับพวกท่านแต่ละคนเพื่อเป็นการแสดงการยกย่อง”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หัวใจของพวกเขาก็ตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม
อยู่ๆหัวหน้าตระกูลคนหนึ่งก็ร้องไห้ออกมาและพูดว่า:“ผู้อาวุโสถัง ข้าไม่ได้อยากได้เหรียญเกียรติยศหรือรางวัลอะไร ข้าแค่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ! ข้าแค่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ!”
ผู้อาวุโสถังกวาดสายตาไปมองหัวหน้าตระกูลคนนั้นและพูดอย่างเย็นชาว่า:“ในตอนนี้ ท่านคิดว่าท่านใช้ชีวิตได้คุ้มแล้วหรือยัง?”
“การฆ่าตัวตายนี้เป็นวิธีที่สง่างามที่สุดในตอนนี้แล้ว”
“หากตอนนี้พวกท่านไม่คว้าโอกาศนี้เอาไว้ เมื่อกลับไปข้าจะประกาศแก่โลกภายนอกว่าพวกท่านสมคบคิดก่อกกบฏกับพวกพระราชวังต้องห้าม และเสียชีวิตในสงคราม”
“หากเป็นเช่นนั้นล่ะก็ พวกท่านก็จะถูกตราหน้าความอัปยศตลอดไป แล้วก็ถูกคนหลายพันคนด่า และนับจากนี้ไป ครอบครัวของพวกท่านก็จะเป็นเหมือนสุนัขข้างทาง”
“พวกท่านต้องการแบบนี้ใช่ไหม?”
ช่างหมดหวัง
พวกคนเหล่านี้บางคนตัวสั่นสะท้านด้วยความกลัว บางคนมีน้ำตาไหลออกมา และบางคนจ้องมองไปที่ร่างบนกำแพงเมือง ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชังที่ยากจะลืมเลือน...
“ทุกท่าน รีบลงมือเถอะ!” อยู่เสียงของเยี่ยหวู่ซวงก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“เยี่ยหวู่ซวง ข้ายอมฆ่าตัวตายก็ได้ แต่ถ้าเจ้ากล้าแตะต้องครอบครัวของข้า ข้าจะไม่ยอมปล่อยเจ้าไปถึงแม้ว่าข้านั้นจะกลายเป็นผีแล้วก็ตาม เอ่อ...”
ชายชราคนหนึ่งตะโกนขึ้น ในมือทั้งสองข้างของเขาถือกริชไว้ และแทงเข้าไปในหัวใจของตัวเอง“” “”
เมื่อคนหนึ่งเป็นผู้นำ คนอื่นจึงเริ่มที่จะทำตาม
เพราะในเวลานี้พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว
หลังจากนั้นไม่นาน บรรดาเหล่าผู้นำตระกูลใหญ่ๆทั้งสี่สิบกว่าคนก็ลงไปนอนจ่มกองเลือด
และเยี่ยหวู่ซวงก็กระโดดลงมาจากกำแพงเมืองและตกลงบนพื้นเบา ๆ
“เอ่อ ใช่แล้ว ผู้อาวุโสถัง ข้ามีเรื่องหนึ่งจากที่จะรบกวนท่าน”การที่จะจากไป อยู่ๆเยี่ยชิวก็พูดขึ้น
“เรื่องอะไรงั้นหรอ?”ผู้อาวุโสถังถามขึ้น
เยี่ยชิวตอบกลับ: “ข้าอยากให้ท่านส่งคนไปปิดล้อมพระราชวังต้องห้ามเอาไว้ และอย่าแตะต้องอะไรแม้แต่ต้นหญ้าต้นเดียวก็ไม่ได้ เดียวข้าจะกลับมาดูที่นี้อีกครั้ง”
ผู้อาวุโสถังยิ้มและพูดว่า: “เรื่องเล็กน้อย ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้าเถอะ!”
“ขอบคุณท่านมาก แล้วพบกันใหม่” หลังจากพูดจบเยี่ยชิวก็เดินตามออกไป
ทันทีที่เขาเดินออกจากประตูเมืองต้องห้าม เขาเห็นถังถังสวมชุดสีแดง
เธอยังไม่จากไป
เมื่อเห็นเยี่ยชิวเดินออกมาจาก ถังถังก็วิ่งไปเข้าอย่างรวดเร็วและกระโดดเข้าไปในอ้อมแขนของเยี่ยชิว โดยไม่คำนึงถึงสายตาของคนอื่นๆ และร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ
เยี่ยชิวรู้สึกเขินอายเล็กน้อย เขาค่อยๆ ผลักถังถังออกไปแล้วถามว่า :“เธอมาทำอะไรที่นี้?”
“ฉันกำลังรอคุณอยู่” ถังถังสังเกตเห็นว่าคนที่อยู่ข้างๆเธอกำลังมองเธออยู่ และใบหน้าที่สวยงามของเธอที่เดิมแดงจากความหนาวเย็นกลับกลายเป็นสีแดงยิ่งขึ้นไปอีก
“เรื่องทุกอย่างจบลงแล้ว ไม่ต้องกังวลแล้ว” เยี่ยชิวกล่าว
“ใช่แล้ว”ถังถังยิ้มและพูดต่อว่า:“เยี่ยชิว ฉัน...”
เธอยังไม่ทันจะพูดจบ เยี่ยหวู่ซวงก็ตะโกนเรียกเยี่ยชิวขึ้น:“เยี่ยชิว ขึ้นรถ”
“ถังถัง ฉันกลับก่อนนะ เธอก็ควรรีบกลับบ้านได้แล้ว แล้วจะโทรหาทีหลังนะ” หลังจากเยี่ยชิวพูดจบ เขาก็รีบขึ้นรถ และรถคันที่เขานั่งคือรถที่มีธงสีแดงของผู้อาวุโสเยี่ย
เยี่ยหวู่เว่ยเป็นคนขับ ส่วนผู้อาวุโสเยี่ยก็นั่งอยู่ในที่นั่งผู้โดยสาร โดยเหลือเบาะหลังนั้นเป็นเยี่ยหวู่ซวงและเยี่ยชิว
ภายในรถก็เงียบสนิท
ทุกคนมีคำพูดมากมายในใจ แต่ไม่มีใครพูด
หลังจากที่รถขับไปได้ไม่ไกล
ทันใดนั้นเยี่ยชิวก็สังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขารีบหันหน้าไปมองเยี่ยหวู่ซวงขอย่างรวดเร็ว และสิ่งที่เขาเห็นก็คือผมสีดำของเยี่ยหวู่ซวงอยู่มันก็กลายเป็นสีขาว ราวกับหิมะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
เรื่องนี้มีเติมเงินอ่านไหมครับ แนะนำหน่อย...
ทำไมลงวันละตอนแล้วครับ ช่วยชี้แจงหน่อยครับ...
ทำไมช่วงนี้ลงวันละตอนล่ะครับอีกอย่างช่วงแรกได้อ่านตั้งแต่7โมงเช้าแต่พอลงตอนเดียวต้องอ่านตอน3โมงเย็น...
ไอ้ชิบหาย มีแต่หน้าเปล่าๆมา3วันแล้ว พอๆเลิกอ่านบล็อคแม่งออกเลย หนังสือที่อื่นมีอ่านเยอะแยะ...
หลังๆทำไมลงแต่หน้าเปล่า ไม่มีตัวหนังสือสักตัว...
จะอ่านบท1611-1616ยังใงคับ...
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...