กลิ่นหอมส่งกลิ่นเล็ดลอดออกมาจากข้างในทำให้ผู้คนต่างรู้สึกเคลิบเคลิ้มเหมือนลอยอยู่ในอากาศ
"ต้องมีสมบัติอยู่ข้างใน!"
อมตะชางเหม่ยพุ่งเข้าไปข้างในเป็นคนแรก
คนอื่นๆ ต่างก็เดินตามเข้าไป
ตำหนักนี้มีขนาดใหญ่มาก เมื่อทุกคนเดินเข้าไปก็สัมผัสได้ถึงคลื่นความร้อนที่ถาโถมเข้าใส่และเมื่อมองดูก็พบว่ามีสระน้ำขนาดใหญ่มหึมาอยู่ตรงกลางตำหนัก
ภายในสระน้ำมีดอกบัวไฟขนาดใหญ่อยู่ดอกหนึ่ง
แต่ละกลีบของดอกบัวไฟมีความยาวประมาณสามเมตรและมีสีแดงมากราวกับไฟที่กำลังลุกไหม้
"นี่คือ.....ดอกบัวไฟหมื่นปี!"
อมตะชางเหม่ยร้องตะโกนด้วยความตื่นเต้นดีใจและจากนั้นก็ลูบมือตัวเองแล้วพูดว่า "ข้าเป็นคนเห็นดอกบัวไฟนี้ ใครก็ห้ามมาแย่งข้า ไม่งั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือนล่ะ"
เมื่อพูดจบก็กระโดดพุ่งเข้าไปบนดอกบัวไฟพร้อมกับยื่นมือเตรียมจะเด็ด
ตอนนี้มือของอมตะชางเหม่ยอยู่ห่างจากดอกบัวไฟเพียงแค่ครึ่งเมตรเท่านั้น จู่ๆ ก็มีลมพัดจนดอกบัวไฟสั่นไหวเล็กน้อย
วินาทีนั้น ดอกบัวไฟก็ปะทุเปลวไฟสูงหลายเมตรขึ้นทันที
อมตะชางเหม่ยรีบดึงมือกลับอย่างรวดเร็ว
"ตาเฒ่า เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม?" เยี่ยชิวถาม
"ข้าไม่เป็นไร......โอ๊ย.....เจ็บเหลือเกิน" อมตะชางเหม่ยร้องโอดครวญ
เยี่ยชิวก้มลงมองและรู้สึกตกใจเล็กน้อย เขาเห็นผิวหนังของอมตะชางเหม่ยฉีกขาดจนเห็นกระดูก ดูแล้วสาหัสอย่างมาก
ต้องรู้ว่าอมตะชางเหม่ยถือเป็นยอดฝีมือที่มีวรยุทธ์ระดับราชาคนหนึ่ง ปกติแล้วเปลวไฟธรรมดาไม่สามารถทำอะไรเขาได้เลยแม้แต่นิดเดียว
สิ่งนี้ทำให้รู้ได้ว่าดอกบัวไฟหมื่นปีนี้ไม่ธรรมดาอย่างที่คิดไว้
"เจ้าอย่าขยับ ข้าจะรักษาให้เจ้า"
เยี่ยชิวพูดจบก็รีบทำแผลให้อมตะชางเหม่ย
ชงซวีเต้าเหรินจ้องมองสระน้ำและพบว่ามีเปลวไฟที่ลุกโชนห่อหุ้มดอกบัวไฟหมื่นปีเอาไว้พร้อมกับกล่าวออกไป "ดอกบัวไฟหมื่นปีนี้ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ!"
เมื่อพูดจบ
ชงซวีเต้าเหรินก็เดินไปข้างหน้าและคิดจะเด็ดดอกบัวไฟนี้เหมือนกัน ทว่าเมื่อเข้าใกล้เปลวไฟเขาก็ต้องรีบถอยหลังกลับออกไป
"เปลวไฟที่ดอกบัวไฟปลดปล่อยออกมาร้ายกาจมาก มันสามารถเผาไหม้ยอดฝีมือระดับราชาได้เลย" ชงซวีเต้าเหรินกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
"ฉันขอลองดูหน่อย" นางฟ้าไป๋ฮวาพูดจบก็เดินก้าวเท้าไปที่สระน้ำเช่นกัน
"คุณระวังตัวด้วย" เยี่ยชิวกล่าวเตือน
"ไม่ต้องเป็นห่วง" นางฟ้าไป๋ฮวาเดินไปที่สระน้ำด้วยความระมัดระวัง จากนั้นเธอก็ยกมือทั้งสองขึ้นพร้อมกับประสานนิ้วมือที่เรียบเนียนของเธอไว้ด้วยกัน
อมตะชางเหม่ยหัวเราะอย่างไม่แยแส "ข้าเป็นถึงยอดฝีมือระดับราชา แม้แต่ข้ายังไม่สามารถจับดอกบัวไฟได้ เธอเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็กๆ คิดจะได้ไปครอง.......ปัดโธ่!"
อมตะชางเหม่ร้องอุทานด้วยความตกใจ
จากนั้นก็เห็นนางฟ้าไป๋ฮวาผนึกฝ่ามือทั้งสองพร้อมกับท่องคาถา เวลาผ่านไปผนึกรูปเปลวไฟที่หน้าผากของเธอก็สว่างขึ้น ทันใดนั้นเอง นางฟ้าไป๋ฮวาก็ถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีแดง
จากนั้นนางฟ้าไป๋ฮวาก็เดินกลางอากาศทะลุเข้าไปในเปลวไฟและเข้าไปถึงดอกบัวไฟหมื่นปีได้สำเร็จ
กลีบดอกกำลังสั่นไหวราวกับต้อนรับนางฟ้าไป๋ฮวา
หลังจากนั้น นางฟ้าไป๋ฮวาก็ยื่นฝ่ามือออกมาแล้วกดลงบนกลีบดอกบัวไฟหมื่นปีทันที
ทันใดนั้น ดอกบัวไฟหมื่นปีก็หลอมละลายและกลายเป็นแสงสีแดงที่ทะลุเข้าไปบนหน้าผากของนางฟ้าไป๋ฮวา
เพียงชั่วพริบตา เปลวไฟก็หายไปจนหมดอย่างไร้ร่องรอย
นางฟ้าไป๋ฮวาหลับตาและรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงในตัวเธอ จากนั้นจึงกลับไปยังที่เดิมและดับแสงสีแดงบนร่างกายของเธอ
เยี่ยชิวรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขาไม่คาดคิดว่านางฟ้าไป๋ฮวาจะได้ดอกบัวไฟหมื่นปีไปครอง
"ยินดีด้วย" เยี่ยชิวกล่าว
นางฟ้าไป๋ฮวายิ้มเล็กน้อย
อมตะชางเหม่ยกล่าวอย่างโศกเศร้า "ข้าเป็นคนค้นพบดอกบัวไฟหมื่นปีนี่เป็นคนแรก....."
เขายังพูดไม่ทันจบ เยี่ยชิวก็กล่าวขึ้นมา "ตาเฒ่า ข้าจำได้ว่าเจ้าเคยพูดไว้ว่า ผู้ที่มีความสามารถเท่านั้นที่จะเก็บรักษาสมบัติเอาไว้"
อมตะชางเหม่ยจ้องตาเขม็ง
เมื่อทุกคนเห็นเข้าก็ต่างพากันหัวเราะชอบใจ
"ฮ่าๆๆ ตาเฒ่าหาเรื่องใส่ตัวจนได้ ขำชะมัดเลย"
อมตะชางเหม่ยวิ่งออกไปนอกตำหนักเพื่อหาจุดปลดทุกข์
เขาปลดทุกข์ไปด้วยและบ่นพึมพำไปพร้อมกัน
"ปัดโธ่ ไม่รู้ว่าใครกันว่าเอาปาโต้วมาทำเป็นยา แบบนี้เรียกว่าแกล้งกันชัดๆ"
"แกล้งกันได้ลงคอ"
"คอยดูเถอะ"
"ถ้าเจ้าตายไปแล้ว ข้าจะหาหลุมศพของเจ้าให้เจอแล้วข้าจะกระโดดไปมาบนหลุมศพของเจ้า"
"ถ้าเจ้ายังไม่ตาย ข้าจะสาปแช่งให้เจ้าตัวเตี้ยลงหนึ่งเซนติเมตร......ไม่ ตัวเตี้ยลงยี่สิบเซนติเมตร......"
อบ!
ทันใดนั้นเอง จู่ๆ ก็มีเสียงเหมือนกับร้องดังขึ้นข้างหูและทำลายความคิดของอมตะชางเหม่ยเข้า
เมื่อหันไปมองก็เห็นว่ามีคางคกตัวหนึ่งอยู่ไม่ไกลออกไป
คางคกตัวนี้ใหญ่พอๆ กับกำปั้นของทารก ตัวของมันมีสีแดงเลือด ผิวหนังหยาบ และหลังมีตุ่มเป็นจำนวนมาก ซึ่งดูน่าขยะแขยงมาก
ขณะที่อมตะชางเหม่ยมองคางคกอยู่นั้น คางคกเองก็มองไปที่อมตะชางเหม่ยพร้อมกับร้อง อบ อบอยู่ตลอดเวลา
"ปัดโธ่ คางคกก็กล้าดูถูกข้าอย่างนั้นเหรอ ข้าจะจัดการเจ้าคอยดู" อมตะชางเหม่ยตบไปทันที
คิดไม่ถึงเลยว่าคางคกตัวนั้นจะพุ่งตัวเข้าใส่อมตะชางเหม่ยอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า
"อ๋า......."
อมตะชางเหม่ยร้องอุทานอ้าปากค้าง แต่วินาทีต่อมาเสียงร้องตะโกนของเขาก็หยุดลง
เพราะ.......
คางคกได้เข้าไปอยู่ในปากของเขาแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
เรื่องนี้มีเติมเงินอ่านไหมครับ แนะนำหน่อย...
ทำไมลงวันละตอนแล้วครับ ช่วยชี้แจงหน่อยครับ...
ทำไมช่วงนี้ลงวันละตอนล่ะครับอีกอย่างช่วงแรกได้อ่านตั้งแต่7โมงเช้าแต่พอลงตอนเดียวต้องอ่านตอน3โมงเย็น...
ไอ้ชิบหาย มีแต่หน้าเปล่าๆมา3วันแล้ว พอๆเลิกอ่านบล็อคแม่งออกเลย หนังสือที่อื่นมีอ่านเยอะแยะ...
หลังๆทำไมลงแต่หน้าเปล่า ไม่มีตัวหนังสือสักตัว...
จะอ่านบท1611-1616ยังใงคับ...
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...