วิสารทแพทย์เทวัญ นิยาย บท 1370

เยี่ยชิวคาดไม่ถึงเลยว่าในบรรดายาอายุวัฒนะพันปีกว่าร้อยชนิดจะไม่มีเหลืออยู่เลย

ทั้งหมดถูกกลืนกินเข้าไปโดยไข่ลึกลับนั่นแล้ว

ขณะนี้ ยาอายุวัฒนะพันปีที่อยู่ในกระเป๋าเฉียนคุนเหลืออยู่เพียงสิบกว่าเม็ดเท่านั้น อีกอย่างไข่ลึกลับนั่นก็ยังไม่มีทีท่าจะหยุดและมันก็กลิ้งไปที่ยาอายุวัฒนะพันปีพร้อมกับปลดปล่อยแสงสีทองมาห่อหุ้มยาเอาไว้ เพียงชั่วพริบตาอายุวัฒนะพันปีก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย

"กิน กิน กิน รู้จักแต่กินเข้าไปนั่นแหละ"

"กินยาอายุวัฒนะเข้าไปมากขนาดนี้ แกไม่กลัวจะอิ่มตายหรือยังไงกัน"

เยี่ยชิวโกรธมากและจากนั้นเขาก็ทำหน้าตกตะลึง

"ต่อให้เป็นยอดฝีมือระดับราชา การกินยาเข้าไปมากเช่นนี้ก็อาจทำให้ท้องแตกตายได้ แต่ทำไมไข่ใบนี้ถึงกลับไม่เป็นอะไรเลย?"

"หรือมันจะเป็นนักกินจุ?"

"ไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ในไข่ใบนี้กันแน่?"

เยี่ยชิวอยากจะเคาะเปลือกไข่ออกมาเพื่อดูว่าอะไรอยู่ข้างในกันแน่ ทว่าความคิดหนึ่งก็พยายามบอกว่าเขามันยังไม่ถึงเวลา

"ห้ามกินอีกแล้วนะ"

เยี่ยชิวกล่าวอย่างเย็นชา "ยาอายุวัฒนะที่เหลือฉันต้องใช้ ถ้าแกกินเข้าไปอีก ฉันจัดการแกแน่"

เหมือนว่าไข่ใบนั้นจะเข้าใจในสิ่งที่เยี่ยชิวพูด มันเกลือกกลิ้งไปมาเหมือนกับกำลังแสดงให้เห็นว่าตัวเองไม่พอใจ

"โอ๊ะ เข้าใจภาษาคนด้วยเหรอ?"

"ฟังให้ดีนะ ห้ามกินอีก ไม่งั้นอย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจล่ะ"

ไข่ใบนั้นเปลี่ยนไปทันทีพร้อมกับกลับเข้าไปอยู่ในกล่องเหมือนเดิม

"เดิมทีอยากจะแบ่งยาอายุวัฒนะเหล่านี้ให้กับทุกคน แต่ใครจะไปรู้ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ทีนี้จะทำยังไงดี?"

เยี่ยชิวรู้สึกลำบากใจและพึมพำกับตัวเอง "ถ้าฉันได้ของวิเศษมาอีกก็คงจะดีไม่น้อย......"

ยังพูดไม่ทันจบ

"ครื่น ครื่น......."

ทันใดนั้นภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรงราวกับว่าเกิดแผ่นดินไหว หลังจากนั้นก็เกิดหุบเขารอยแยกขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นบนยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะทันที

ในรอยแยกของหุบเขามีตำหนักขนาดใหญ่ที่มีความเรียบง่ายในสมัยโบราณอยู่แห่งหนึ่ง

"เป็นไปได้ยังไง ฉันแค่คิดไปเรื่อยเปื่อยเท่านั้น หรือพระเจ้าจะได้ยินในสิ่งที่ฉันพูด?"

เยี่ยชิวรู้สึกประหลาดใจ

และในขณะเดียวกัน แสงสีทองทั้งหมดบนบันไดสีทองก็หายไป และพลังชั่วร้ายอันหนาแน่นบนภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันที

ผู้คนที่อยู่บริเวณเชิงเขาต่างพากันสับสนงุนงง

"เกิดอะไรขึ้น?"

"ทำไมแสงสีทองถึงหายไป?"

"พลังอันชั่วร้ายเหล่านั้นก็ไม่มีแล้ว"

"หรือว่าเราจะขึ้นไปบนเขาได้แล้ว?"

อมตะชางเหม่ยพูดจบก็ก้าวเท้าเดินขึ้นบันได ครั้งนี้ฝ่าเท้าของเขากลับไม่มีควันสีทองออกมาแล้ว

จากนั้นเขาก็ก้าวเท้าขึ้นไปยังบันไดขั้นที่สอง

แสงสีทองยังคงไม่ปรากฏขึ้นมาให้เห็น

อมตะชางเหม่ยรีบเดินขึ้นไปอีกหลายก้าวและยังคงไม่ปรากฏให้เห็นถึงความอันตรายใดๆ

อมตะชางเหม่ยกล่าวด้วยความตื่นเต้น "เราขึ้นไปได้แล้ว"

ชงซวีเต้าเหรินกล่าวอย่างไม่สนใจเท่าไรนัก "เยี่ยชิวได้ชีพจรมังกรไปครองแล้ว ถึงขึ้นไปก็ไม่มีอะไร"

"ทำไมจะไม่มีอะไร เจ้าไม่เคยได้ยินปีนขึ้นไปบนยอดเขาที่สูงที่สุดและมองเห็นภูเขาที่ปรากฏเล็กๆ อย่างนั้นเหรอ?" อมตะชางเหม่ยกล่าว "หลังจากขึ้นไปข้างบนแล้ว ข้าจะทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่"

"ทำอะไร?" ชงซวีเต้าเหรินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

อมตะชางเหม่ยยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ "ยืนบนที่สูงและฉีให้ไกลที่สุด"

ทุเรศ

ชงซวีเต้าเหรินโกรธจนแทบอยากจะตัดหูของอมตะชางเหม่ย เจ้าเองก็เป็นถึงพระอาจารย์ของสำนัก ทว่ากลับทำเรื่องที่ไร้ยางอาย?

"หยาบคาย!" นางฟ้าไป๋ฮวาด่าทออย่างเย็นชา

"ทุกคน ตอนนี้ไม่มีอันตรายแล้ว พวกเจ้าไม่คิดจะขึ้นไปจริงเหรอ? ถ้าพวกเจ้าไม่ขึ้นไป งั้นข้าขึ้นไปแล้วนะ" อมตะชางเหม่ยพูดจบก็เตรียมเดินขึ้นไป

และขณะนี้เอง เสียงของเยี่ยชิวที่ยืนอยู่บนยอดเขาก็ดังขึ้น "พวกคุณรีบขึ้นมาเร็วเข้า ผมพบเจอสิ่งใหม่เข้า"

ทุกคนต่างพากันมองไปที่อมตะชางเหม่ยและต่างคิดว่าบทกลอนนี้ฟังดูมีพลังไม่เลว

อีกอย่าง ตอนนี้พวกเขาก็อยู่ที่เทือกเขาคุนหลุน บทกลอนนี้ของอมตะชางเหม่ยดูเหมาะสมกับสถานที่มาก

"วรรคต่อไปล่ะ?" ชงซวีเต้าเหรินถาม

เยี่ยชิวหันไปมองดูชงซวีเต้าหรินด้วยความสงสัยเล็กน้อย ทำไมเจ้าหมอนั่นถึงดูสนใจอะไรขนาดนั้น?

เขาไม่มีทางรู้เลยว่า อันที่จริงแล้ว ชงซวีเต้าเหรินเป็นคนที่ชื่นชอบบทกลอนกวีคู่มาก ปกติแล้วเขาเองก็มักจะแอบเขียนบทกลอนคู่อยู่เสมอ เพียงแค่ไม่เคยให้ใครดูมาก่อน

อมตะชางเหม่ยเอามือไพล่หลังทำเหมือนตัวเองเป็นยอดปรมาจารย์ที่สูงส่งพร้อมกับกล่าว "วรรคต่อไปของข้าก็คือ ยกแม่น้ำแยงซีขึ้นมาเป็นโถปัสสาวะ"

ฮ่า.......

เยี่ยชิวหัวเราะอย่างชอบใจ

นางฟ้าไป๋ฮวาและลู่หลัวเองก็ต่างหัวเราะอย่างเขินอาย

ส่วนชงซวีเต้าเหรินที่เป็นผู้หลงใหลคลั่งไคล้ในบทกลอนคู่กลับทำหน้านิ่งเฉย

ตอนที่เขากำลังฟังกลอนบทนี้นั้น เขานึกว่าอมตะชางเหม่ยจะทำให้เขาประหลาดใจขึ้นได้ ทว่าวรรคต่อไปของบทกลอนกลับต่ำตมได้ขนาดนี้

เห็นได้ชัดว่าไม่ควรคาดหวังอะไรกับเจ้าหมอนี่

"เป็นยังไงบ้าง บทกลอนคู่ของข้าไม่เลวเลยใช่ไหม?" อมตะชางเหม่ยถามชงซวีเต้าเหรินอย่างภาคภูมิใจโดยไม่รู้เลยว่าชงซวีเต้าเหรินกำลังคิดอะไร

"ฮึ!" ชงซวีเต้าเหรินด่าทอ "หยาบคายต่ำช้า เป็นบทกลอนที่ไร้ยางอายที่สุด"

"ไร้ยางอายยังไงกัน?" อมตะชางเหม่ยกลอกตา "อ้อ ข้ารู้แล้ว เจ้ากำลังอิจฉาข้าใช่ไหม"

ชงซวีเต้าเหรินหัวเราะอย่างเย็นชา "คิดว่าข้าจะอิจฉาเจ้าอย่างนั้นเหรอ?"

อมตะชางเหม่ยกล่าว "เจ้ากำลังอิจฉาที่ข้ามีพรสวรรค์มากกว่าเจ้า หล่อกว่าเจ้า เก่งกว่า......."

"พอได้แล้ว" เยี่ยชิวไม่อยากฟังพวกเขาทะเลาะกันอีกจึงกล่าวออกไป "ตาเฒ่า เจ้าไปเปิดประตูสิ"

"อาจารย์ ให้ผมไปเถอะ!" หู่จื่อเดินไปข้างหน้าพร้อมกับผลักประตูตำหนักทันที

ปัง!

เมื่อประตูถูกเปิดออก ทันใดนั้นเองก็มีกลิ่นหอมฟุ้งกระจายออกมาจากข้างในทันที

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ