วิสารทแพทย์เทวัญ นิยาย บท 1369

หม้อเฉียนคุนทั้งสี่ลอยอยู่เหนือศีรษะของเยี่ยชิว โดยมีแสงสีทองตกลงมาเพื่อปกป้องเยี่ยชิวไว้

ทว่าขณะนี้เอง สายฟ้าสีดำสี่สิบแปดลูกที่เดิมตกลงมาจากที่สูงดูเหมือนจะหวาดกลัวอย่างมาก และถอยกลับเข้าไปในเมฆฝนฟ้าคะนองด้วยความเร็วดุจสายฟ้า

หายไปในชั่วพริบตา

"อะไรกัน!"

ผู้คนที่อยู่บริเวณเชิงเขาต่างพากันเบิกตากว้างเหมือนเห็นผียังไงยังงั้น

พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่าการลงโทษของสวรรค์ที่ร้ายกาจเช่นนี้จะหดตัวกลับไปหลังจากที่มันเห็นหม้อเฉียนคุนปรากฏตัวขึ้น

พวกแกคือการลงโทษของสวรรค์เชียวนะ เป็นตัวแทนของเจตจำนงของสวรรค์ แต่ทำไมถึงขี้ขลาดได้ขนาดนี้?

ไม่รู้สึกอับอายบ้างหรือไงกัน?

"ไม่แปลกเลยที่เป็นของวิเศษ มันไม่เพียงระงับความเปลี่ยนแปลงได้เท่านั้น แต่ยังทำให้การลงโทษของสวรรค์หวาดกลัวได้ด้วย สุดยอดไปเลย!"

ชงซวีเต้าเหรินแสดงสีหน้าอิจฉาและแอบพึมพำในใจ หากข้ามีของวิเศษแบบนี้บ้าง ข้าจะกักขังเจ้าหมอนี่สักร้อยปีเลย

แววตาของนางฟ้าไป๋ฮวาเต็มไปด้วยความสวยงาม เธอมองไปที่หม้อเฉียนคุนและมองไปที่เยี่ยชิวและจากนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างแจ่มใส ซึ่งดูแล้วสวยงามสะดุดตาอย่างมาก

ตั้งแต่ที่เยี่ยชิวเริ่มถูกการลงโทษจากสวรรค์ ลู่หลัวก็เริ่มเป็นกังวลเกรงว่าเยี่ยชิวจะได้รับบาดเจ็บและเป็นห่วงว่าเขาจะรับมือกับการลงโทษของสวรรค์ไม่ได้

ขณะนี้เอง เมื่อเห็นว่าการลงโทษของสวรรค์หดตัวกลับไปก็ร้องอุทานด้วยความดีใจ "คุณชายเยี่ยสุดยอดไปเลย!"

หู่จื่อทำสีหน้าภาคภูมิใจ "เขาคืออาจารย์ของผม!"

อมตะชางเหม่ยกล่าวด้วยความตกใจ "น่าอิจฉาเยี่ยชิวจริงๆ ไม่เพียงมีชีพจรมังกรมาเสริม แถมยังมีของวิเศษคอยคุ้มกันอีกด้วย โชคดีเหลือเกิน"

หู่จื่อรู้สึกพึงพอใจอย่างมาก "เขาคืออาจารย์ของผม!"

เซียวจ้านกล่าว "ลูกพี่โคตรเจ๋งเลย!"

หู่จื่อกล่าว "แหงอยู่แล้ว นั่นคืออาจารย์ของผม!"

ทันใดนั้นเอง อมตะชางเหม่ยและลู่หลัวพร้อมกับเซียวจ้านก็หันไปมองหู่จื่อด้วยแววตาที่ไม่เป็นมิตร

ทำไมพวกเขาจะไม่รู้ว่าเยี่ยชิวเป็นอาจารย์ของเขา ทำไมนายต้องคอยพูดย้ำไปมาอยู่นั่นว่าเขาคืออาจารย์ของเจ้า?

ต้องการอะไรกันแน่?

อวด? ทำให้อิจฉา?

ต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอ?

"ทำไม? ผมปิดตรงไหนเหรอ?" หู่จื่อกล่าว "เขาคืออาจารย์ของผมจริงนี่นา!"

ปัดโธ่ ยังพูดไม่หยุดอีก!

"ฮึ....." ทั้งสามต่างถอนหายใจพร้อมกันและหันหน้าไปทางอื่นโดยไม่สนใจหู่จื่ออีก

.........

บนยอดเขาหิมะ

เยี่ยชิวเองก็ประหลาดใจและคิดไม่ถึงว่าหลังจากที่ตัวเองหยิบหม้อเฉียนคุนขึ้นมาจะทำให้การลงโทษของสวรรค์ต้องหดตัวลงเหมือนเต่าหดเข้ากระดอง

"ถ้ารู้ว่าการลงโทษของสวรรค์ขี้ขลาดมากขนาดนี้ ฉันก็ควรจะเอาหม้อเฉียนคุนออกมาตั้งนานแล้ว เช่นนี้ก็ไม่ต้องเผชิญหน้ากับการลงโทษของสวรรค์แล้ว"

เพียงชั่วพริบตาก็มีลมพัดจนเมฆแตกตัวกระจายออกไป

เมฆหมอกฟ้าร้องหายไปและทุกสิ่งก็กลับสู่ภาวะปกติ

เยี่ยชิวนั่งขัดสมาธิอีกครั้งและหลับตาลงเพื่อใช้จิตสัมผัสถึงความเปลี่ยนแปลงไปของวรยุทธ์

เวลาผ่านไป

"ฟรึ่บ!"

พลังปราณมังกรสีทองก็พุ่งออกมาจากแผ่นหลังของเยี่ยชิวจำนวนมาก และลอยขึ้นกลางอากาศอย่างน่าตกตะลึง

"หนึ่ง สอง สาม........เก้าสิบเก้า!"

"เยี่ยชิวพัฒนาบรรลุไปถึงระดับขั้นราชาสูงสุดแล้ว"

อมตะชางเหม่ยร้องอุทานเสียงดังและจากนั้นก็พูดอย่างเศร้าโศก "ข้าฝึกฝนมาหลายสิบปี แต่กลับไม่มีวรยุทธ์ที่สูงส่งเหมือนเยี่ยชิว น่าอิจฉาชะมัดเลย"

"พระเจ้าช่างไม่ยุติธรรมกับข้าเอาเสียเลย"

"อะไรๆ ก็เยี่ยชิว ทำไมถึงไม่เป็นข้าบ้าง!"

ลู่หลัวกล่าว "อมตะชางเหม่ย ท่านจะว่าพระเจ้าก็ไม่ถูก ที่ท่านไม่มีวรยุทธ์สูงส่งเหมือนคุณชายเยี่ยนั่นก็เป็นเพราะตัวของท่านเอง"

อมตะชางเหม่ยเลิกคิ้ว "ข้ามีปัญหาอะไร?"

"อีกอย่าง ตอนนี้วังร้อยดอกไม้ก็เหลือเพียงฉันและลู่หลัวแล้ว เราทั้งสองต่างก็อยู่ด้วยกันตั้งแต่เล็กจนโตเปรียบเสมือนกับพี่น้องกัน ฉันคิดจะแย่งผู้ชายคนเดียวกับลู่หลัวอย่างนั้นเหรอ?"

"แต่เขาก็หล่อมากจริงๆ นะ!"

นางฟ้าไป๋ฮวาส่ายหน้าเพื่อคิดจะลบภาพเยี่ยชิวออกจากหัว ทว่าเธอกลับพบว่าภาพของเยี่ยชิวได้ถูกผนึกไว้ในจิตใต้สำนึกของเธอไปแล้วและไม่มีทางหลุดออกไปจากสมองของเธอได้

.......

บนยอดเขาหิมะ

เยี่ยชิวลุกขึ้นยืน ขณะนี้พลังปราณมังกรที่อยู่เบื้องหลังจำนวนเก้าสิบเก้าต่างล่องลอยในอากาศเป็นคลื่น

เยี่ยชิวรับรู้ได้ว่าตัวเองมีพละกำลังที่ใช้ได้อย่างไม่จำกัดราวกับแค่ฝ่ามือเดียวก็สามารถถล่มภูเขาทั้งลูกได้ หรือหมัดเดียวก็สามารถถล่มท้องฟ้าลงได้ยังไงยังงั้น

เขาในตอนนี้แข็งแกร่งกว่าเดิมมาก

"ชีพจรมังกรแข็งแกร่งมากจริงๆ ฉันดูดซับมันเข้าไปเพียงนิดเดียวเท่านั้นก็สามารถบรรลุขั้นราชาสูงสุดได้"

"ชีพจรมังกรที่เหลืออยู่กระจุกตัวกันอยู่ที่ดวงดาวระหว่างคิ้ว และไม่รู้ว่าดาวดวงนี้มีประโยชน์ยังไง?"

"ต่อไปฉันสามารถดูดซับพลังชีพจรมังกรจากดาวดวงนี้ได้อย่างนั้นเหรอ?"

เยี่ยชิวขมวดคิ้ว

"แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร วรยุทธ์ของฉันก็พัฒนาขึ้นแล้ว แต่ทักษะมังกรศักดิ์สิทธิ์เก้าชั้นเชิงกลับไม่พัฒนาไปเลย ทักษะนี้ยากที่จะฝึกฝนเหลือเกิน!"

หลังจากนั้นเยี่ยชิวก็มองลงไปที่เชิงเขา

"ฉันได้ชีพจรมังกรมาครองแล้ว ตาเฒ่าจะต้องโกรธมากแน่ๆ?"

เยี่ยชิวรู้สึกไม่สบายใจ "ทุกคนต่างมาที่นี่ด้วยความยากลำบาก ฉันได้ชีพจรมังกรมาครอง หู่จื่อก็ได้จัดการสิงโตไฟไปได้ ส่วนคนอื่นนอกจากจะได้บัวหิมะสามหมื่นปีไปก็ไม่ได้อะไรอีกเลย"

"หรือฉันควรเอายาอายุวัฒนะออกมาแบ่งให้พวกเขาดี?"

เยี่ยชิวนึกมาถึงตรงนี้ก็เปิดกระเป๋าเฉียนคุนเพื่อดู และจากนั้น.....

"ปัดโธ่!"

เยี่ยชิวตกตะลึงอย่างมาก!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ