"ตุ้บ!"
หลังจากอมตะชางเหม่ยล้มหลินต้าเหนี่ยวลงได้ด้วยหมัดเดียว เขาก็กระโจนใส่และกดหลินต้าเหนี่ยวไว้กับพื้น
“ข้ายังไม่ตาย แต่เจ้ามาร้องไห้คร่ำครวญ เจ้ามีเจตนาอันใด”
หลังจากพูดจบ อมตะชางเหม่ยก็ชกลงไปหนึ่งครั้ง
“ข้ามาจากตระกูลที่มีชื่อเสียงและปฏิบัติตัวตามทำนองคลองธรรม ข้าเคยพูดเมื่อไรว่าข้าจะแต่งเมียและสนมหลายร้อยคน ทำไมเจ้าต้องพูดให้ร้ายเพื่อทำลายชื่อเสียงของข้า”
ตุ้บ!
อมตะชางเหม่ยชกเขาอีกครั้ง
“ยังมาบอกให้ข้าหมดห่วง เจ้าอยากให้ข้าตายขนาดนั้นเลยหรือ”
ตุ้บ!
อมตะชางเหม่ยชกไปอีกครั้ง
“ไอ้ไม้จิ้มฟัน ดูทรงแล้วผิวเจ้าน่าจะคัน ต้องเอาอะไรมาเกาสักหน่อย” กำปั้นของอมตะชางเหม่ยกระหน่ำลงบนร่างของหลินต้าเหนี่ยวดัง “ตุ้บตั้บ” ราวกับหยาดฝน
หลินต้าเหนี่ยวถูกอมตะชางเหม่ยคร่อมอยู่บนร่างและทุบตีจนบาดเจ็บ เขาไม่มีแม้แต่แรงจะต่อต้าน มือทั้งสองกุมศีรษะและร้องไห้คร่ำครวญไม่หยุด
ทุกคนอดหัวเราะไม่ได้เมื่อได้เห็นฉากนี้
ผ่านไปสักพัก เมื่ออมตะชางเหม่ยชกต่อยจนเหนื่อย เขาก็ลุกออกจากตัวของหลินต้าเหนี่ยว
โดยไม่มีใครคาดคิด หลินต้าเหนี่ยวพูดอย่างอ่อนแรงว่า “พี่รอง คลายความโกรธหรือยัง ถ้ายังไม่หาย พี่ต่อยฉันอีกสักหมัดสองหมัดก็ได้”
อมตะชางเหม่ยแค่นเสียงอย่างเย็นชา “ไอ้สารเลว”
เมื่อพูดจบ อมตะชางเหม่ยก็เดินไปตรงหน้าเยี่ยชิวพร้อมพูดโอ้อวดด้วยรอยยิ้มระรื่น “ไอ้เด็กเปรต ข้าทะลวงถึงต้งเทียนระดับกลางแล้ว ข้าเก่งหรือไม่”
“ความเร็วในการทะลวงยังสู้ข้าไม่ได้ เก่งตรงไหนกัน” เยี่ยชิวหัวเราะเยาะ
อมตะชางเหม่ยถามโม่เทียนจีด้วย “ศิษย์น้อง ศิษย์พี่เก่งหรือไม่”
“เก่งมาก!” โม่เทียนจีกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“เจ้าช่างเป็นเด็กซื่อสัตย์ ชอบพูดความจริงอยู่เสมอ” อมตะชางเหม่ยเปลี่ยนน้ำเสียงและพูดด้วยสีหน้าเบิกบาน “แต่เจ้าก็ต้องสานต่อจิตวิญญาณในการพูดความจริงต่อไป อย่าเป็นเหมือนคนบางกลุ่มที่รู้จักแต่แดกดันผู้อื่น”
เมื่อพูดจบ อมตะชางเหม่ยก็ชำเลืองมองเยี่ยชิว เชิดคางขึ้นและพ่นลมหายใจฮึดฮัดด้วยท่าทางอวดเก่งไม่มีใครเกิน
เยี่ยชิวยกกำปั้นขึ้นและชูให้อีกฝ่าย
อมตะชางเหม่ยสะดุ้งด้วยความหวาดกลัว เขารีบวิ่งไปหาบรรดาลูกศิษย์ของนิกายดาบชิงอวิ๋นและพูดเสียงดัง “พี่น้องทั้งหลาย มาเถิด มาดื่มและเล่นสนุกกันต่อ”
เพียงครู่เดียว เสียงหัวเราะคึกครื้นก็ดังไปทั่วบริเวณ
เยี่ยชิวพูดกับหยุนซีว่า “ดูสิ แค่ทะลวงถึงต้งเทียนระดับกลางก็จองหองขนาดนี้ หากวันหนึ่งได้กลายเป็นปราชญ์ผู้แข็งแกร่งขึ้นมา ไม่รู้เลยว่าตาเฒ่าคนนี้จะอวดดีขนาดไหน”
หยุนซียิ้มและพูดว่า “เต้าจ่างผู้นี้น่าสนใจจริงๆ เหมือนเฒ่าทารก”
เยี่ยชิวพูดว่า “ตาเฒ่าคนนี้เหมือนเฒ่าทารกเล็กน้อยก็จริง แต่ใช้คำว่าเฒ่าทารกกับเขาก็ไม่ค่อยถูกต้องเท่าไรนัก”
“งั้นควรใช้คำว่าอะไรล่ะ” หยุนซีถาม
เยี่ยชิวยิ้มจางๆ และพูดว่า “ไอ้คนหน้าไม่อาย!”
หยุนซีหัวเราะคิกคักแล้วพูดว่า “ใครเขาอธิบายถึงเพื่อนตัวเองแบบนี้กัน”
“ถ้ารู้จักเขาเป็นเวลานาน คุณก็จะรู้เองว่าคำอธิบายของผมนั้นเหมาะมาก” เมื่อเยี่ยชิวเห็นอมตะชางเหม่ยและลูกศิษย์ของนิกายดาบชิงอวิ๋นกำลังดื่มเหล้าและเล่นกันอย่างมีความสุข รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา จากนั้นเขาก็พูดว่า “นานแล้วที่ไม่ได้เห็นตาเฒ่ามีความสุขขนาดนี้”
หยุนซียิ้มและพูดว่า “ไม่ต้องเกรงใจหรอกเต้าจ่าง คุณกับเยี่ยหลางเป็นพี่น้องร่วมเป็นร่วมตายกัน คุณก็ถือว่าเป็นเพื่อนของฉัน ขอบคุณที่ดูแลเยี่ยหลางมาโดยตลอด ในอนาคตหากคุณไปที่นิกายดาบชิงอวิ๋น ฉันจะมอบของล้ำค่าให้คุณอย่างแน่นอน”
อมตะชางเหม่ยเป็นคนรักเกียรติรักศักดิ์ศรี เมื่อได้ยินสิ่งที่หยุนซีพูด เขาก็ยิ้มจนหุบปากไม่ลง
“เซียนจื้อไม่ใช่แค่งดงามอย่างเดียว แต่ยังพูดจาน่าฟังอีกด้วย ไอ้เด็กเปรต เจ้าต้องเรียนรู้จากเซียนจื้อมากๆ นะ”
อมตะชางเหม่ยพูดกับหยุนซีอีกครั้ง “เซียนจื้อ ไม่ต้องกังวล ฉันจะช่วยคุณดูแลไอ้เด็กนี่เอง ไม่เปิดโอกาสให้เขาไปทำตัวหมาหยอกไก่ที่ไหน”
“ถ้าเขากล้าทำอะไรให้คุณเสียใจ ฉันจะเป็นคนแรกที่สับ...ไม่สิ ฉันจะดูไอ้เด็กนี่ไว้ เขาจะไม่มีโอกาสได้ทำเรื่องที่ทำให้คุณเสียใจ”
หยุนซีปิดปากหัวเราะ “ขอบคุณมาก เต้าจ่าง”
“ไม่ต้องเกรงใจ ฉันแค่หวังว่าเซียนจื้อจะจำคำสัญญาในวันนี้ไว้ เมื่อฉันไปที่นิกายดาบชิงอวิ๋นในวันข้างหน้า ฉันหวังว่าเซียนจื้อจะมอบของล้ำค่าให้ฉัน” อมตะชางเหม่ยพูดกลั้วเสียงหัวเราะ “ฉันก็เป็นคนธรรมดา ไม่มีงานอดิเรกที่รัก รักก็แค่ของล้ำค่า”
หยุนซีรับปาก “ไม่มีปัญหา”
“พี่รอง เล่นแรงไปหน่อยนะ พี่เกือบทำฉันตาบอด” หลินต้าเหนี่ยวบ่นอุบขณะเดินเข้ามาพร้อมกับตาหมีแพนด้าสองดวง
“ถ้าข้าไม่ออมมือ เจ้าคงถูกต่อยจนตายไปแล้ว ให้ตายเถอะ ข้ายังไม่ตาย แต่เจ้ากลับร้องไห้คร่ำครวญถึงข้า แค่คิดข้าก็โมโห” อมตะชางเหม่ยก่นด่าด้วยความโกรธเคือง
เยี่ยชิวยิ้มและถามว่า “ฉันได้ยินมาว่าก่อนหน้านี้เว่ยอู๋จี้กับพรรคพวกมาล้อมพวกคุณ เพราะต้าเหนี่ยวได้รับตำราแห่งสวรรค์มาเล่มหนึ่งซึ่งเกี่ยวข้องกับความลับของภูเขาอมตะ จริงหรือเปล่า”
หลินต้าเหนี่ยวพยักหน้า “มันเป็นเรื่องจริง”
“แล้วตำราแห่งสวรรค์อยู่ที่ไหน” เยี่ยชิวพูด “เอาออกมาให้ฉันดูหน่อย”
หลินต้าเหนี่ยวหยิบกระดูกออกมาจากวงแหวนอากาศทันทีและโยนมันไปตรงหน้าเยี่ยชิว
“หมายความว่าอะไร” เยี่ยชิวขมวดคิ้ว
หลินต้าเหนี่ยวชี้ไปที่กระดูกแล้วพูดว่า “พี่ใหญ่ สิ่งนี้คือตำราแห่งสวรรค์!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
เรื่องนี้มีเติมเงินอ่านไหมครับ แนะนำหน่อย...
ทำไมลงวันละตอนแล้วครับ ช่วยชี้แจงหน่อยครับ...
ทำไมช่วงนี้ลงวันละตอนล่ะครับอีกอย่างช่วงแรกได้อ่านตั้งแต่7โมงเช้าแต่พอลงตอนเดียวต้องอ่านตอน3โมงเย็น...
ไอ้ชิบหาย มีแต่หน้าเปล่าๆมา3วันแล้ว พอๆเลิกอ่านบล็อคแม่งออกเลย หนังสือที่อื่นมีอ่านเยอะแยะ...
หลังๆทำไมลงแต่หน้าเปล่า ไม่มีตัวหนังสือสักตัว...
จะอ่านบท1611-1616ยังใงคับ...
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...