วิสารทแพทย์เทวัญ นิยาย บท 1854

“ฮึ่ม!”

แผ่นหินถูกเปิดใช้งาน มันปล่อยลำแสงสีขาวอันน่าสะพรึงกลัวออกมา ลำแสงสีข่าวกระจัดกระจายไปทั่วพร้อมกับเจตนาฆ่าอันน่าตกใจ

ไม่นานลำแสงสีขาวเหล่านั้นก็กลับมาพบกันในอากาศ ราวกับตาข่ายผืนใหญ่ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า ปกคลุมทั่วทั้งด้านนอกและด้านในของจวนเจ้าเมืองไว้อย่างแน่นหนา

นี่คือค่ายกลสังหารนักบุญ

ทันทีที่เปิดใช้งาน เจตนาค่าจะพลุ่งพล่านอย่างไร้ที่สิ้นสุด

ในเวลานั้น ผู้คนกันที่อยู่ด้านในจวนเจ้าเมือง แต่ละคนรู้สึกหนาวสั่น ขนลุกไปทั้งร่างกาย

“เยี่ยฉังเซิง เจ้าเป็นอาชญากรที่ท่านเจ้าสำนักต้องการตัว คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะกล้าปลอมตัวเป็นศิษย์น้องอวิ๋นเจี๋ย และปรากฏตัวออกมาที่นี่ด้วยความหยิ่งผยอง แถมใช้พิษในการสังหารถังเยี่ย วันนี้เจ้าหนีไม่รอดแล้ว”

ซ่งเชวียชี้ไปที่เยี่ยชิว เจตนาฆ่าบนใบหน้าของเขาไร้ที่สิ้นสุด เขาตะโกนออกมาดังลั่น “ดาบ!”

ดาบหนักไร้คมเล่มนั้นของเขาเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ มันอยู่กับเขามาหลายปีแล้ว และมันก็จดจำว่าเขาคือเจ้าของ

โดยทั่วไปแล้ว อาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่รู้จักเจ้าของ ไม่ว่ามันจะอยู่ไกลเป็นพันลี้ ตราบใดที่พลังยุทธ์ของผู้เป็นนายแข็งแกร่งเพียงพอ แค่เรียกมันก็จะกลับมาในทันใด

แต่หลังจากที่ซ่งเชวียตะโกนเรียกไปครู่หนึ่ง ดาบหนักไร้คมเล่มนั้นกลับไม่ปรากฏออกมา แถมเขายังรู้สึกได้ว่าการเชื่อมต่อระหว่างเขากับดาบหนักไร้คมนั้นขาดออกจากกันไปแล้ว

“นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?”

“เยี่ยฉังเซิงเป็นแค่สูงสุดของต้งเทียน เหตุใดจึงสามารถควบคุมอาวุธของข้าได้?”

ซ่งเชวียไม่อยากจะเชื่อ

แต่เขาจะไปรู้ได้อย่างไรว่า ในตอนที่เขามอบดาบหนักไร้คมให้กับเยี่ยชิว เยี่ยชิวได้เก็บดาบหนักไร้คมเข้าไปในถุงเฉียนคุนแล้ว จากนั้นก็ใช้หม้อเฉียนคุนเก็บดาบหนักไร้คมไว้อย่างสมบูรณ์

การถูกระงับด้วยเทพศาสตรา อย่าว่าแต่ซ่งเชวียเลย แม้แต่นักบุญผู้แข็งแกร่งก็ยังทำอะไรไม่ได้

เยี่ยชิวทำเช่นนี้นั่นก็เพราะเตรียมพร้อมรับมือกับการต่อสู้ ป้องกันไม่ให้ซ่งเชวียเรียกดาบหนักไร้คมกลับไป

ฉายาของซ่งเชวียคือ ดาบสวรรค์ เห็นได้ชัดว่าทักษะการใช้ดาบของเขานั้นไม่ธรรมดา แต่หากไม่มีดาบหนักไร้คมอยู่ในมือ เช่นนั้นความสามารถของซ่งเชวียก็จะลดลงไปอย่างมาก

เยี่ยชิวใช้ประโยชน์จากความเอ็นดูที่ซ่งเชวียมีต่ออวิ๋นเจี๋ยในการหลอกเอาดาบหนักไร้เงามาจากเขา จุดประสงค์ก็เพื่อป้องกันไม่ให้บุตรเทพปลดปล่อยพลังที่แท้จริงออกมา

“ซ่งเชวียอ่า ซ่งเชวีย มีคำพูดอยู่ประโยคหนึ่ง ไม่รู้ว่าเจ้าเคยได้ยินหรือเปล่า สิ่งของที่มอบให้ผู้อื่นไปแล้วก็เหมือนกับโยนทิ้งน้ำ จะเอากลับไปได้อย่างไร?” เยี่ยชิวแสดงรอยยิ้มแห่งความเหยียดหยาม

ใบหน้าของซ่งเชวียซีดขาว พูดออกมาด้วยความโกรธ “เยี่ยฉังเซิง ดีใจตอนนี้ยังเร็วเกินไป”

“แม้ว่าข้าจะไม่มีดาบสมบัติอยู่ในมือ แต่พลังยุทธ์ของข้านั้นเหนือกว่าเจ้า การสังหารเจ้ามันง่ายเสียยิ่งกว่าพลิกฝ่ามือ”

“วันนี้ข้าจะแก้แค้นให้กับศิษย์น้องอวิ๋นเจี๋ย”

ซ่งเชวียพูดจบ แววตาของเขาเฉียบคมขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ทันใดนั้น เจตนาดาบที่น่าสะพรึงกลัวก็ปะทุออกมาจากร่างกายของเขา และโมเมนตัมที่น่าสะพรึงกลัวทำให้ทั้งโลกสั่นสะเทือน

ในตอนนั้น ร่างกายของซ่งเชวียเปรียบเสมือนดาบ เจตนาดาบอันสง่างามทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า แม้แต่ค่ายกลสังหารนักบุญยังสั่นสะเทือน

สายตาของซ่งเชวียจับจ้องมาที่เยี่ยชิว ดวงตาของเขาราวกับตะเกียงวิเศษ น่าหวาดกลัวยิ่งนัก

เยี่ยชิวรู้สึกหายใจไม่ออกในทันใด เนื่องจากพลังยุทธ์ระหว่างเขากับซ่งเชวียนั้นต่างชั้นกันมาก

เขารู้สึกว่าซ่งเชวียในเวลานี้เป็นเหมือนดาบที่ไม่มีใครเทียบเทียม ความคมและพลังของมันไร้เทียมทาน

“ตุบ!”

ซ่งเชวียก้าวไปหาเยี่ยชิว เมื่อเท้าของเขาเหยียบพื้น ทั่วทั้งจวนเจ้าเมืองก็สั่นสะเทือน ราวกับไม่สามารถรองรับแรงกดดันของซ่งเชวียได้

ซ่งเชวียเหมือนกับภูเขาไฟที่ระเบิดออกมา เจตนาฆ่าอันเดือดดาลและคมดาบอันแหลมคมเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน ทำให้ผู้คนขนหัวลุก

“สมแล้วที่เป็นบุตรเทพอันดับที่ 3 แห่งสำนักหยินหยาง สุดยอด!”

“เจตนาดาบของบุตรเทพแข็งแกร่งมาก ข้ารู้สึกว่าพลังชีวิตของข้ากำลังถูกบั่นทอนจนหมด”

“โชคดีที่บุตรเทพไม่ใช่ศัตรูของพวกเรา ไม่อย่างนั้นพวกเราคงไม่เหลือแม้แต่เศษเสี้ยวของกระดูก”

“......”

สีหน้าของผู้คุ้มกันแห่งจวนเจ้าเมืองที่อยู่รอบๆ เปลี่ยนไป สายตาที่พวกเขาจ้องมองมาที่ซ่งเชวียนั้นเต็มไปด้วยความเคารพและศรัทธา

จากนั้นก็มีเสียงหัวเราะเยาะเยี่ยชิวดังตามขึ้นมา

“เยี่ยฉังเซิงช่างไม่กลัวตายเอาเสียเลย รู้อยู่แก่ใจว่าเจ้าสำนักหยินหยางกำลังตามล่าเขาอยู่ แต่เขายังกล้ามาปรากฏตัวที่นี่ ไม่รู้จักรักชีวิตเอาเสียเลย”

“เจ้านั่นสังหารอวิ๋นเจี๋ยไปแล้ว แถมยังวางยาพิษถังเยี่ย สุดท้ายยังหลอกเอาอาวุธศักดิ์สิทธิ์ไปจากบุตรเทพ เจ้าเล่ห์ยิ่งนัก”

“วางใจเถอะ บุตรเทพลงมือ เยี่ยฉังเซิงจะต้องตายอย่างแน่นอน”

ซ่งเชวียเคลื่อนไหว

เขาเหมือนกับมังกรที่ดุร้าย ทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า ดาบของเขาฟันลงมาที่ผู้อาวุโสวัว เจตนาดาบนั้นไม่อาจหยุดยั้ง เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังทำลายอันมหาศาล

“ดาบแห่งการทำลายล้าง!”

ซ่งเชวียคำรามออกมา ดาบศักดิ์สิทธิ์ในมือของเขาส่องแสงเจิดจ้า แสงดาบอันน่าสะพรึงกลัวเอ่อล้นออกมาปกคลุมทั่วท้องฟ้าและพื้นดิน ต้องการจะฟันร่างของผู้อาวุโสวัวให้แหลกเป็นชิ้น

ในตอนนั้น เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีอันแข็งแกร่งของซ่งเชวีย ผู้อาวุโสวัวยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ไม่ได้เคลื่อนไหวแต่อย่างใด ราวกับมองไม่เห็นการโจมตีของซ่งเชวีย ปล่อยให้แสงดาบเหล่านั้นฟันเข้าร่างของเขา

“บูม!”

แสงดาบอันทรงพลังจำนวนมากฟันเข้าร่างของผู้อาวุโสวัว เสียงระเบิดดังกึกก้อง จากนั้นรูม่านตาของซ่งเชวียก็เบิกกว้าง

เนื่องจากเขาพบว่า ในเวลานี้ผู้อาวุโสวัวยังคงยืนอยู่ที่เดิม ไม่ได้ทำการป้องกันหรือเตรียมตัวรับมือกับการโจมตีอันแข็งแกร่งของเขาแต่อย่างใด แต่ร่างกายของเขากลับไร้ซึ่งร่องรอยของบาดแผล

“นี่มัน......นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?”

“เหตุใดร่างกายของเจ้าถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้?”

“นี่เจ้าเป็นสัตว์ประหลาดงั้นหรือ?”

ซ่งเชวียสูดลมหายใจเข้าอย่างเยือกเย็น มองไปที่ผู้อาวุโสวัวพร้อมกับถามออกมาด้วยความตกใจ “เจ้าเป็นใครกันแน่?”

“คนที่จะสังหารเจ้า” ผู้อาวุโสวัวปล่อยหมัดออกไป

ปัง!

ทันใดนั้น หมัดที่ทรงพลังราวกับดวงอาทิตย์ที่แผดเผาของผู้อาวุโสวัวก็กระทบเข้ากับร่างกายของซ่งเชวีย

วินาทีถัดมา พลังหมัดระเบิดตัว

“ตู้ม!”

ซ่งเชวียไม่มีแม้แต่เวลาจะกรีดร้อง ภายใต้สายตาที่เต็มไปด้วยความตกใจของทุกคน ร่างกายของเขากลายเป็นหมอกเลือด

ตายไปอย่างไม่เหลือร่องรอย!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ