“เทียนจุน เจ้าหมายความว่าอย่างไร?” สีหน้าของผู้อาวุโสตระกูลเฉินดูไม่ดีเอาเสียเลย
อู่จี๋เทียนจุนกล่าวทั้งรอยยิ้ม “ข้าผู้สูงส่งนอกจากตัวข้าเอง ก็ไม่มีใครเชื่ออีกแล้ว อย่างนั้น ข้าผู้สูงส่งในแก่นวิญญาณของเจ้า ปลูกถ่ายหยินหยางผนึกหมุดเทพ”
“ภายในหนึ่งเดือน หากหมุดเล่มนี้ไม่ไม่ได้ถอนออกมา อย่างนั้นแก่นวิญญาณของเจ้าก็จะแหลกละเอียด”
ข้าผู้สูงส่งต้องการภายในหนึ่งเดือน เพื่อสังหารหยุนซานและจื่อหยางเทียนจุน”
“เจ้าเป็นตัวแทนภายในของข้า เมื่อทำเรื่องที่เจ้าพูดเมื่อครู่นี้ได้แล้ว ไม่เช่นนั้น เจ้าก็จะตายโดยไม่มีสถานที่ฝังศพ”
สีหน้าของผู้อาวุโสตระกูลเฉินอึมครึม
“เพี๊ยะ!”
อู่จี๋เทียนจุนลงมือในทันที ปล่อยหนึ่งหมัดไปกระแทกหน้าผู้อาวุโสตระกูลเฉิน ทั้งด่าทอ “เจ้าแสดงสีหน้าแย่ ๆ ให้ใครดู ข้าผู้สูงส่งไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่าเมียของเจ้าเสียอีกหรือ?”
“เจ้าจำไว้เถิด ว่าถ้าหากยังอยากมีชีวิติยู่ล่ะก็ ต้องเชื่อฟังข้า”
“ภายในหนึ่งเดือน เจ้าจะต้องจัดการจื่อหยางเทียนจุนเสีย ไม่อย่างนั้นเจ้าก็เตรียมตัวตายซะ”
ผู้อาวุโสตระกูลเฉินไม่เปล่งวาจาสักคำ คิดอยู่ในใจ ว่าหลังจากกลับไปแล้ว จะคิดหาวิธีถอนหยินหยางผนึกหมุดเทพออก
อู่จี๋เทียนจุนดูเหมือนจะเดาถูกว่าผู้อาวุโสตระกูลเฉินกำลังคิดอะไรอยู่ ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาว่า “หยินหยางผนึกหมุดเทพนั้นมีเพียงแค่ข้าผู้สูงส่งเท่านั้นที่จะสามารถใช้เวทย์มนต์ดึงมันออกมาได้ หากว่าเจ้าแข็งแกร่งพอที่จะดึงออกมา อย่างนั้นแก่นวิญญาณก็จะแตกสลายในทันที”
“หากไม่เชื่อเจ้าก็ลองดูได้”
“แน่นอน หากว่าเจ้าสามารถค้นพบจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งได้นั้น อย่างนั้นศักยภาพของจักรพรรดิผู้แข็งแกร่ง ก็สามารถช่วยให้เจ้าถึงหยินหยางผนึกหมุดเทพออกได้”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น สีหน้าของผู้อาวุโสตระกูลเฉินก็ดำมืดราวกับก้นหม้อ
หากว่าภายในวันนี้ เดิมทีแล้วไม่มีจักรพรรดิผู้แข็งแกร่ง
อู่จี๋เทียนจุนเอ่ย “ข้าผู้สูงส่งพูดแล้ว ว่าอย่ามาทำหน้าเหม็นต่อหน้าข้า หากเจ้าจะเป็นเช่นนี้อีก อย่างนั้นก็ไม่ต้องกลับไปยังนิกายดาบชิงอวิ๋นแล้ว”
ใบหน้าของผู้อาวุโสตระกูลเฉินปรากฏรอยยิ้มขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้วอธิบาย “เทียนจุนเจ้าเข้าใจผิดแล้ว ข้ากำลังคิดถึงผู้เป็นอมตะ เกลียดเขามากจนอยากจะถลกผิวหนังของเขา กระตุกกล้ามเนื้อของเขา แล้วหั่นขาออกเป็นชิ้น ๆ “
“เหรอ?” อู่จี๋เทียนจุนไม่ได้ปักใจเชื่อ แต่มันก็ไม่สำคัญอีกต่อไป สิ่งที่สำคัญคือ ผู้อาวุโสตระกูลเฉินนับจากตอนนี้ ก็เป็นเพียงหนึ่งในหมากของเขาเท่านั้น”
อำนาจแห่งชีวิตและความตาย ล้วนอยู่ในกำมือของเขาแล้ว
ผู้อาวุโสตระกูลเฉินกล่าว “เทียนจุนวางใจเถิด ภายในหนึ่งเดือน ข้าจะคิดหาวิธีทำให้ผู้อมตะบาดเจ็บสาหัส แน่นอนล่ะ หากว่าทำให้เขาตายได้จะเป็นการดีที่สุด”
“อย่างนั้นพวกข้าจะใช้เวลาหนึ่งเดือน” อู่จี๋เทียนจุนกล่าว “หลังจากหนึ่งเดือนแล้ว ข้าจะไปยังนิกายดาบชิงอวิ๋น โจมตีจื่อหยางเทียนจุนและหยุนซาน”
“เหล่าเฉิน เจ้าต้องเข้าใจ ว่าข้าผู้สูงส่งนี้ให้โอกาสแก่เจ้า”
“แท้จริงแล้วไม่มีคนวงในอย่างเจ้า สำหรับข้าผู้สูงส่งแล้วไม่ได้สำคัญอะไร เพียงแค่นับว่าจื่อหยางเทียนจุนยังระเบิดออกได้ด้วยพลังการต่อสู้สูงสุด ข้าก็ไม่ได้กลัว”
“หวังว่าเจ้าจะถือเอาโอกาสนี้”
“ขอบใจเทียนจุน” ตอนที่ผู้อาวุโสตระกูลเฉินกล่าวคำนี้ออกมาอยู่นั้น ปราณแค้นในใจก็ทวีคุณขึ้นมา
โถ่เว้ย เจ้าตีข้า ทั้งยังปลูกถ่ายหยินหยางผนึกหมุดเทพไว้ในแก่นวิญญาณข้าอีก ทั้งตอนนี้ยังมาให้ข้าซาบซึ้งใจต่อเจ้าอีก ช่างไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย
เมือคิดถึงตอนนี้ ผู้อาวุโสตระกูลเฉินจึงกล่าวขึ้นมาว่า “เทียนจุน มีเรื่องที่ข้าต้องร้องขอต่อเจ้า...”
“เจ้าอยากจะพูดว่า เมื่อถึงเวลาแล้วให้ปล่อนเยี่ยฉังเซิงให้แก่เจ้าใช่หรือไม่? ไม่ได้” อู่จี๋เทียนจุนตอบ “ข้ามอบเยี่ยฉังเซิงให้เจ้าไม่ได้ แต่ว่า ข้าช่วยแก้แค้นเฉินเทียนมิ่งได้”
“สำหรับเรื่องที่เยี่ยฉังเซิงยังมีชีวิตอยู่นั้น เจ้าต้องเก็บไว้เป็นความลับ”
“ข้าผู้สูงส่งกำลังจะแถลงการณ์ต่อภายนอกให้รับรู้ ว่าเยี่ยฉังเซิงตายไปแล้วที่สุสานมังกร”
“สำหรับข้าผู้สูงส่งเหตุใดจึงต้องทำเช่นนั้น ก็สืบเนื่องมาจากที่เยี่ยฉังเซิงเจ้าเล่ห์เกินไป ข้าจะทำให้เขาเป็นอัมพาติ ทำให้เขาคิดว่าข้าถูกเขาหลอก ต้องการเพียงเท่านี้ แล้วเขาก็อาจจะคลายความระมัดระวังไป”
อย่างนี้จริงหรือ?
ผู้อาวุโสตระกูลเฉินไม่เชื่อ
อู่จี๋เทียนจุนกล่าวต่ออีกว่า “เจ้าจำไว้ หากว่าเจ้าสามารถจับเยี่ยฉังเซิงได้ อย่างนั้นจะต้องส่งให้ต่อหน้าข้าทั้งเป็น”
“ฉีเทียนคือศิษย์น้องคนสำคัญที่สุดของข้า ไม่เข้าใจว่าตายไปแล้วที่สุสานมังกร เรื่องนี้จะต้องเกี่ยวพันธ์กับเยี่ยฉังเซิง ข้าจึงจะสามารถตรวจสอบได้อย่างชัดเจน”
“เอาหล่ะ ข้าผู้สูงส่งจะกลับไปที่สำนักหยินหยางก่อน ข้าจะรอข่าวจากเจ้าอยู่ที่สำนัก”
“จำไว้ หากว่าเจ้ามีโอกาสจับกุมเยี่ยฉังเซิง จะต้องจับเขาทั้งเป็นมาให้ข้า”
“หากว่าภายในเวลาหนึ่งเดือน ข้าไม่ได้ข่าวจากเจ้า อย่างนั้นหลังจากหนึ่งเดือนแล้ว ข้าจะบุกเข้าโจมตีนิกายดาบชิงอวิ๋น”
“ถึงตอนนั้น นิกายดาบชิงอวิ๋นจะราบเป็นหน้ากลอง อย่างไม่เหลือสิ่งใดไว้ด้านหลัง”
อู่จี๋เทียนจุนพูดจบ ก็จากไปกลางอากาศ
เวลาผ่านไปสักพัก
ผู้อาวุโสตระกูลเฉินเพิ่งจะลุกยืนขึ้นมา เจตจำนงฆ่าปรากฏขึ้นระหว่างคิ้ว แล้วแอบกล่าวขึ้นมาว่า “ไอ้เชี่ยเอ้ย จู่ ๆ ก็ว่าข้าเป็นหมา เจ้าให้ข้ารอ อย่างนั้นข้าก็จะหาโอกาสทำให้เจ้าตายอย่างแน่นอน”
“เจ้ายังไม่รู้สินะ ว่าผู้อมตะที่ถูกข้าทำร้าย ก็มีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน”
“ทว่า ก่อนที่เขาจะตายไป ข้าจะใช้เขากำจัดเจ้า”
“ถึงตอนนั้นจะรอให้พวกเจ้าพินาศไปด้วยกัน ส่วนข้าก็จะได้เป็นหัวหน้านิกายดาบชิงอวิ๋น”
“ส่วนเยี่ยฉังเซิง ฮึ่ย ข้าจะส่งมอบเขาให้เจ้าไม่ได้ อย่าคิดนะว่าข้าไม่รู้ ว่าเจ้าเองก็อยากได้มรดกจักรพรรดิมังกรจากร่างของเขา”
“ในไม่ช้าก็เร็วเยี่ยฉังเซิงจะต้องตกอยู่ในกำมือของข้า เพราะเพื่อนปีศาจวัวของเขานั้นก็ยังอยู่ในมือของข้า ข้าจึงไม่เชื่อว่าเขาได้ขอร้องเพื่อนของเขา”
เมื่อผู้อาวุโสตระกูลเฉินคิดถึงจุดนี้ จึงตัดสินใจนำเจ้าวัวต้าลี่ออกมา ทำการทรมาน”
วันนี้ช่างหงุดหงิดเสียจริง เขาจะต้องระบายออกมา มิฉะนั้นจะก่อให้เกิดปีศาจภายในได้
แต่ว่า เมื่อความคิดของผู้อาวุโสตระกูลเฉินเข้าไปสืบเสาะวงแหวนอากาศนั้น จู่ ๆ ก็ค้นพบ ว่าสาเหตุที่หัวของเจ้าวัวต้าลี่ถูกต้องห้ามภายในวงแหวนอากาศ ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว
“พึ้บ.....”
ผู้อาวุโสตระกูลเฉินทนไม่ไหวอีกต่อไป โกรธมากจนกระอักเลือดออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
เรื่องนี้มีเติมเงินอ่านไหมครับ แนะนำหน่อย...
ทำไมลงวันละตอนแล้วครับ ช่วยชี้แจงหน่อยครับ...
ทำไมช่วงนี้ลงวันละตอนล่ะครับอีกอย่างช่วงแรกได้อ่านตั้งแต่7โมงเช้าแต่พอลงตอนเดียวต้องอ่านตอน3โมงเย็น...
ไอ้ชิบหาย มีแต่หน้าเปล่าๆมา3วันแล้ว พอๆเลิกอ่านบล็อคแม่งออกเลย หนังสือที่อื่นมีอ่านเยอะแยะ...
หลังๆทำไมลงแต่หน้าเปล่า ไม่มีตัวหนังสือสักตัว...
จะอ่านบท1611-1616ยังใงคับ...
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...