วิสารทแพทย์เทวัญ นิยาย บท 2007

เยี่ยชิวทั้งสามยังคงดื่มเหล้ากันอยู่ อมตะชางเหม่ยคาราวะเหล้าให้จื่อหยางเทียนจุนอยู่บ่อยครั้ง รอดพ้นจากความตาย จากนั้นค่อยเพิ่มทักษะทางด้านร่างกาย เขาดีใจอย่างมาก

ผ่านไปได้ไม่นาน อมตะชางเหม่ยก็เมาจนเลอะเลือน จึงล้มลงนอนบนพื้นแล้วกรนออกมาเสียงดังราวฟ้าร้อง

เมื่อเห็นเข้ากับฉากนี้ เยี่ยชิวก็รู้สึกเอ็นดูขึ้นมานิดหน่อย

ตั้งแต่ออกจากเผ่าปีศาจ พวกเขาก็อยู่ในความตึงเครียดอย่างสูงตลอดมา หากไม่ใช่เพราะว่าฆ่าผู้อื่น ก็ต้องเป็นเพระว่าถูกผู้อื่นไล่ตามฆ่า จึงไม่กล้าที่จะผ่อนปรนได้เลยแม้แต่ครู่เดียว

จนกระทั่งถึงตอนนี้ อมตะชางเหม่ยที่เพิ่งจะละเลยจากการเฝ้าระวัง เป็นการเมามายครั้งใหญ่

“ให้เขานอนดี ๆ เถอะ! “ จื่อหยางเทียนจุนปล่อยพลังฝ่ามือ เพื่อปิดบังป้องกันอมตะชางเหม่ย

กลายเป็นที่กันเสียงได้ในทันที

“ปรมาจารย์ ขอบคุณท่านมาก ที่ท่านใช้ทักษะคุ้มกันไอ้แก่นี่” เยี่ยชิวกล่าวขอบคุณ

จื่อหยางเทียนจุนพูดขึ้นว่า “ สมบัติได้มาง่าย แต่เพื่อรู้ใจยากจะหา”

“โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่เช่นนี้ในการฝึกตนเป็นเซียนแห่งโลกฝึกเซียน ไม่มีข้อจำกัดทางกฎหมายหรือศีลธรรม เพื่อแย่งชิงทรัพยากรทางการฝึกตนแล้ว หลายคนก็หักหลังเพื่อนได้ อย่างไร้ความหมาย”

“ชางเหม่ยลงเรือลำเดียวกันกับเจ้าแล้ว ทั้งความเป็นละความตายทั้งหมด เช่นนี้หาได้ยากนัก”

“ในช่วงเวลาที่สำคัญ ก็ยังคงเต็มใจเสี่ยงชีวิตเข้ามาเพื่อคุ้มกันเจ้า เรืองแบบนี้ เจ้าจะรักทะนุถนอมชั่วชีวิต เข้าใจไหม?”

เยี่ยชิวพยักหน้า “อืม”

“ข้านับถือท่าทางที่ชางเหม่ยมีต่อเพื่อน ทั้งยังเห็นบนหน้าของเจ้าอีก อย่างนั้นแล้วจึงเป็นสาเหตุท่จะนำวิชาร่างทองจื่อฮวงถ่ายทอดให้เขา”

จื่อหยางเทียนจุนหยุดการกระทำชั่วคราว ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาอีกว่า “เยี่ยชิว โชคชะตาของเจ้าไม่ธรรมดา โดยฉพาะคนข้างกายของเจ้า จึงทำให้ได้มีโอกาสต่าง ๆ เช่นนี้”

“บางคนจะต้องทนทุกข์ทรมานมาก ที่สามารถบินขึ้นไปบนฟ้าได้ แต่ภายในการล่องหนนี้ เจ้าก็มีผลกระทบต่อโชคชะตาของพวกเขาอยู่”

“แต่ว่า ข้าเชื่อว่าพวกเขาล้วนทำได้เพราะว่าเจ้าเองยังดีขึ้นได้ตั้งเยอะ”

จื่อหยางเทียนจุนพูดถึงตรงนี้ ราวกับว่าคิดอะไรบางอย่างออกมาได้ แล้วเอ่ยถาม “ความสัมพันธ์ของเจ้ากับเผ่าปีศาจเป็นอย่างไร?”

“ดีมาก” จากนั้นเขาก็เล่าประสบการณ์ของเผ่าปีศาจหนึ่งรอบ

รวมถึงจิ้งจอกสวรรค์เก้าหางที่อยู่ที่ภูเขาอมตะที่คอยช่วยเหลือเขา จนทำให้เขาได้รับโชคชะตาแห่งเผ่าปีศาจ และเรื่องการรับผู้อาวุโสใหญ่สิบคนของเผ่าปีศาจมาเป็นศิษย์

“อย่างนี้นี่เอง” เมื่อจื่อหยางเทียนจุนได้ยินแล้ว ก็เผยยิ้มออกมา “เยี่ยชิว เจ้าดูสิว่านี่อะไร?”

จื่อหยางเทียนจุนคลายกำปั้น ทันใดนั้น หัววัวตัวใหญ่ปรากฏขึ้นบนฝ่ามือ

“ต้าลี่!”

ทั้งหน้าของเยี่ยชิวเต็มไปด้วยความเซอร์ไพรซ์

หลังกลับจากสุสานมังกร สิ่งที่เป็นกังวลมากที่สุดก็คือความปลอดภัยของเจ้าวัวต้าลี่ เดิมทีก็จะกลับไปหาเจ้าวัวต้าลี่แล้ว คิดไม่ถึงเลยว่า เจ้าวัวต้าลี่จะอยู่ในกำมือของจื่อหยางเทียนจุน

ในตอนนี้เอง เจ้าวัวต้าลี่เหลือเพียงแค่หัวเดียวเท่านั้น ตาสองข้างปิดสนิท อยู่ในอาการโคม่า แต่ก็ยังดีที่ยังคงมีชวิตอยู่

“ปรมาจารย์ เขาชื่อเจ้าวัวต้าลี่ เป็นส่วนหนึ่งของสิบผู้อาวุโสใหญ่แห่งเผ่าปีศาจ เขาอยู่ในมือของท่านได้อย่างไร” เยี่ยชิวเอ่ยถามอย่างตกตะลึง

จื่อหยางเทียนจุนตอบ “ตอนที่ให้บทเรียนก่อนหน้านี้แก่เฉินเป่ยโต่ว ข้าพบว่าเขาอยู่ในวงแหวนอากาศโดยไม่ได้ตั้งใจมีเผ่าปีศาจผู้หนึ่งอยู่ด้วย อย่างนั้นจึงอยากจะลูบมันออกมาอย่างราบรื่น”

“เกรงว่าถึงตอนนี้แล้ว เฉินเป่ยโต่วจะยังไม่รับรู้”

“ก็ไม่รู้ว่าหลังจากที่เข้ารับรู้แล้วนั้น จะโกรธจนกระอักเลือดหรือไม่”

เยี่ยชิวสะเทือนใจ

เขาคิดไม่ถึงว่า ในมือของจื่อหยางเทียนจุนจะขาดความแข็งแกร่งได้ขนาดนี้ นำเจ้าวัวต้าลี่มาได้ตามใจชอบจากด้านในวงแหวนอากาศของผู้อาวุโสตระกูลเฉิน ได้โดยที่ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ

เยี่ยชิวเอ่ยถามด้วยความสงสัย “ท่านปรมาจารย์ ข้าขอถามท่านอีกสักคำ ว่าแท้จริงแล้ท่านฝึกตนอะไร?”

จื่อหยางเทียนจุนยิ้มอย่างลึกลับ “อีกไม่นานเจ้าก็จะรู้เอง”

คำพูดนี้ของปรมาจารย์ ราวกับครอบคลุมความหมายอันลึกซึ้งไว้

แต่ว่า เยี่ยชิก็ไม่ได้ถามต่อ

จื่อหยางเทียนจุนเอ่ยขึ้นมาว่า “เรี่ยวแรงของปีศาจวัวพอไหวอยู่ แต่เผ่ามนุษย์เต็มไปด้วยความเกลียดชังต่อเผ่าปีศาจ หากว่าทำให้คนอื่นรู้ว่าข้างกายเจ้ามีเผ่าปีศาจหนึ่งตน เกรงว่าเจ้าจะยากลำบากทุกระเบียดนิ้วเมื่ออยู่ที่ตงฮวง”

เยี่ยชิวกล่าว “ข้าจะไปที่นิกายดาบชิงอวิ๋น แล้วเฉินเป่ยโต่วจะดูถูกข้าหรือไม่?”

จื่อหยางเทียนจุนพูดด้วยความดูถูก “เฉินเป่ยโต่วถูกข้าทำให้พิการจากการฝึกตนไปแล้วแปดร้อยปี ตอนนี้อยู่ระดับขั้นเทียบเท่ากับหยุนซาน ซึ่งมีหยุนซานปิดบังให้เจ้าอยู่ เขาทำอะไรเจ้าไม่ได้หรอก”

“หากว่าเฉินเป่ยโต่วกล้าลงมือกับเจ้าจริง ๆ ข้าจะใช้หมัดเดียวของข้าตีเขาให้ตาย”

เยี่ยชิวคิดไปคิดมา ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “ท่านปรมาจารย์ ข้าจะเชื่อฟังท่าน จะไปที่นิกายดาบชิงอวิ๋นก่อน”

“ได้ ข้าจะพาพวกเจ้าไป” เมื่อจื่อหยางเทียนจุนพูดจบก็พาเยี่ยชิวและอมตะชางเหม่ย ทั้งยังมีเจ้าวัวต้าลี่ ข้ามผ่านอากาศ มุ่งตรงไปยังนิกายดาบชิงอวิ๋น

……

ในเวลาเดียวกันนั้น

เยี่ยชิวที่ถูกปราชญ์ผู้แข็งแกร่งตามฆ่าอยู่นั้น มีข่าวการตายอยู่ที่สุสานมังกร ราวกับเกล็ดหิมะที่แปรเปลี่ยนเป็นมุมของตงฮวง

แน่นอนว่านี่คือผู้คอยอยู่เบื้องหลังของอู่จี๋เทียนจุนที่ได้รับผลจากการถูกไปคลอก

เขาทำได้อย่างไร ในการไม่ให้ผู้อื่นรู้ว่าเยี่ยชิวยังไม่ตาย เขาคิดอยู่ในใจตลอดเวลาเกี่ยวกับสมบัติในมือของเยี่ยชิว

สำนักหยินหยางและพื้นที่เทพไท่ชูที่ชายแดน เป็นปึกแผ่นเดียวกันกับภูเขาอันสูงตระหง่าน

ในตอนนี้ ที่ป่าเขา เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งการฆาตกรรม

สุดยอดขั้นทงเสินผู้แข่งแกร่งแห่งสำนักหยินหยางทั้งสาม กำลังไล่ฆ่าเยี่ยหวู่ซวง

เดิมทีมีสุดยอดขั้นทงเสินผู้แข็งแกร่งทั้งหมดห้าคน แต่ระหว่างทางที่จะไล่ล่าอยู่นั้น ถูกเยี่ยหวู่ซวงจำกัดไปแล้วสองคน

สุดยอดขั้นทงเสินผู้แข็งแกร่งแห่งสำนักหยินหยางคนหนึ่ง กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “เยี่ยหวู่ซวง เจ้าหนีไม่พ้นหรอก กล้ามาท้าทายกับสำนักหยินหยางของพวกข้า ก็เท่ากับว่าเข้าหาวันสิ้นโลก พวกข้าจะฉีกเจ้าออกเป็นชิ้น ๆ “

“มีความสามารถไล่ตามข้าได้แล้วค่อยพูด” เยี่ยหวู่ซวงวิ่งหนีอย่างสุดชีวิต ไม่หันหลังกลับมาแม้แต่นิด

ในเวลานี้เอง ก็มีบางอย่างที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ