บนท้องฟ้า เสียงฟ้าร้องดังก้อง ฝนเลือดตกลงมาอย่างหนัก
ในที่นั้นไม่มีใครพูดแม้แต่คนเดียว
สายลมเย็นยะเยือก ฝนสีเลือด…
ทุกคนตกตะลึง
อู่จี๋เทียนจุน และ เซียวฉงโหลว สีหน้าหนักอึ้ง หัวใจของพวกเขาแทบจมดิ่ง ความกดดันของยอดฝีมือระดับเตรียมจักรพรรดิ ทำให้พวกเขาไม่เหลือความมั่นใจใดๆ
ไม่นาน เหล่าศิษย์ของนิกายดาบชิงอวิ๋น ก็ได้สติ
“ผู้อาวุโสสูงสุดไร้เทียมทาน!”
เหล่าศิษย์ของนิกายดาบชิงอวิ๋น ต่างรู้สึกเลือดลมสูบฉีด จนตะโกนออกมา
ผ่านมานานเท่าไรแล้ว ในที่สุดพวกเขาก็สามารถเชิดหน้าชูตาได้อีกครั้ง ไม่ต้องถูกกดขี่อีกต่อไป
จื่อหยางเทียนจุน เงยหน้าดื่มสุราอึกหนึ่ง จากนั้นมองไปที่ อู่จี๋เทียนจุนและเซียวฉงโหลว พร้อมพู
“เหลือแค่พวกเจ้าอีกสองคน รีบลงมือเถอะ หลังจากกำจัดพวกเจ้าเสร็จ ข้ายังต้องกินเนื้อย่างอีก”
เขาไม่ได้ให้ค่าพวกทั้งสองเลยแม้แต่น้อย
อู่จี๋เทียนจุนและเซียวฉงโหลว ยืนนิ่งในที่เดิม ก่อนหันมาสบตากัน
“ท่านเทียนจุน บางทีนี่อาจเป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายในชีวิตของเรา” เซียวฉงโหลวพูด
น้ำเสียงของเขาราบเรียบ ไม่มีทั้งความเศร้าหรือยินดี
ตอนนี้ ความกลัวไร้ความหมาย เพราะพวกเขารู้ดีว่า จื่อหยางเทียนจุนจะไม่มีวันปรานี
อู่จี๋เทียนจุน ถอนหายใจ “ใช่แล้ว ไม่คิดเลยว่า สุดท้ายเจ้ากับข้าจะตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้”
“ข้าไม่รู้ว่าควรจะด่าเฉินเป่ยโต่วที่โง่เขลา หรือจะโทษฟ้าดินที่ไม่เป็นธรรมดี”
เซียวฉงโหลวพูด“ พูดตามตรง ข้าก็ไม่คิดเหมือนกัน ว่าจะมีวันนี้”
“ในช่วงวัยหนุ่ม เจ้ากับข้าเคยเป็นยอดอัจฉริยะของสองสำนัก ปราบศัตรูมากมาย ทิ้งห่างเพื่อนร่วมยุคจนไม่เห็นฝุ่น สุดท้ายเจ้ากับข้ากลายเป็นผู้นำสำนักของสองนิกาย ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของตงฮวง ได้รับการกราบไหว้จากผู้คนนับหมื่น”
“ผู้คนต่างยกย่องเทียบเจ้าและข้าเป็นหนึ่งเดียว เรียกขานว่า ใต้อู่จี๋ เหนือฉงโหลว เป็นสองยอดบุรุษแห่งยุคนี้”
“อย่าโกรธนะ ข้าขอพูดตรงๆ ในใจของข้า ข้าไม่เคยมองเจ้าอยู่ในสายตา”
“ข้าเห็นว่าเจ้าทำทุกอย่างโดยไม่เลือกวิธีการ อีกทั้งยังทะเยอทะยานเกินไป ข้าไม่เคยอยากสมาคมกับเจ้า”
อู่จี๋เทียนจุนหัวเราะ “งั้นตอนที่ข้าเสนอให้ห้าสำนักสร้างพันธมิตรร่วมกัน ไฉนเจ้าถึงตอบตกลง?”
เซียวฉงโหลวพูด “บางทีอาจเพราะข้าทนดูเจ้าไม่ได้ ข้าจึงอยากรู้ว่าเจ้าคิดทำอะไร”
อู่จี๋เทียนจุนหัวเราะ “พูดจริง?”
“พูดเล่น!” เซียวฉงโหลวหัวเราะแล้วพูด “จริงๆ ข้ารู้จุดประสงค์ของเจ้า เจ้าคิดจะทำลายนิกายดาบชิงอวิ๋น เพื่อให้สำนักหยินหยางกลายเป็นสำนักอันดับหนึ่งของตงฮวง เปิดศักราชแห่งความรุ่งเรืองนิรันดร์”
“แต่ไม่รู้เลยว่า ความคิดของข้าก็เหมือนเจ้า”
“ข้าเองก็อยากให้สำนักปู่เทียนกลายเป็นสำนักอันดับหนึ่งของตงฮวง รุ่งเรืองนับหมื่นปี”
เซียวฉงโหลวกล่าว “ภายหลังจากที่ร่วมมือกันนานเข้า ข้าพบว่า เจ้ากับข้าคือคนประเภทเดียวกัน”
“พวกเราทั้งคู่พร้อมทำทุกอย่างเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ทั้งคู่ต่างทะเยอทะยาน และอยากสร้างผลงานอันยิ่งใหญ่”
“แต่ถึงอย่างนั้น ข้าก็ไม่เคยยอมรับว่าเจ้าเหมาะสมจะเป็นหัวหน้าพันธมิตรห้าสำนัก”
“ถ้าวัดจากรากฐานของสำนัก สำนักปู่เทียนกับสำนักหยินหยางต่างก็สูสีกัน”
“ถ้าวัดจากฝีมือ เจ้ากับข้าไม่มีใครเหนือกว่าใคร”
“ถ้าวัดจากสถานะและตำแหน่ง เจ้ากับข้าต่างก็เป็นผู้นำสำนักใหญ่ในตงฮวง”
“แต่ถ้าพูดถึงรูปลักษณ์…เจ้าเทียบข้าไม่ติด!”
“ไอ้บ้า!” อู่จี๋เทียนจุนถ่มน้ำลาย ด่า “กล้าอวยตัวเองนะ ข้าหน้าตาไม่ด้อยไปกว่าเจ้าหรอก”
เซียวฉงโหลวไม่ได้โกรธและพูด “ยังมีอีกเรื่องที่เจ้าสู้ข้าไม่ได้”
อู่จี๋เทียนจุนถาม “อะไร?”
“แต่ข้าไม่รู้ว่า วันนี้เราจะรอดหรือไม่?”
เซียวฉงโหลวพูด “เทียนจุน ข้ามีข้อเสนอ ถ้าวันนี้เรารอดมาได้ ข้าอยากจะขอให้เจ้าเป็นพี่ใหญ่ของข้า เจ้าว่าอย่างไร?”
อู่จี๋เทียนจุนตอบ “ไม่ต้องขออะไรเลย ตอนนี้เจ้ากับข้าก็เป็นพี่น้องกันอยู่แล้วไม่ใช่รึไง?”
เซียวฉงโหลวอึ้งไป ก่อนที่จะยิ้มแล้วพูด “ไม่อยากเชื่อเลยว่า วันหนึ่งเจ้ากับข้าจะกลายมาเป็นพี่น้องร่วมทุกข์ร่วมสุข”
อู่จี๋เทียนจุนส่ายหน้า “คำว่าร่วมทุกข์ร่วมสุขยังไม่ถูกนัก ควรเรียกว่าร่วมเป็นร่วมตายมากกว่า”
เบื้องหน้าของพวกเขาในตอนนี้ คือสถานการณ์ความเป็นความตายอย่างแท้จริง
“พี่น้องร่วมเป็นร่วมตายอย่างแท้จริง!” เซียวฉงโหลวพูดอย่างฮึกเหิม “เทียนจุน หากวันนี้เรารอดไปได้ วันหน้าข้าจะเชิญเจ้ามาดื่มสุรากับข้า”
“ตกลง!” อู่จี๋เทียนจุนตอบทันที
ทั้งสองมองหน้ากันแล้วหัวเราะ เรื่องราวความขัดแย้งในอดีตกลายเป็นเพียงควันจางๆ
“เทียนจุน อายุของเจ้าแก่กว่าข้า ข้าขอเรียกเจ้าว่าพี่ใหญ่” เซียวฉงโหลวพูด
อู่จี๋เทียนจุนตอบทันที “โอเค ต่อไปข้าจะเป็นพี่ใหญ่ของเจ้า ส่วนเจ้าคือน้องชายของข้า”
เซียวฉงโหลวพูด “ในเมื่อเรียกพี่ใหญ่แล้ว วันนี้ข้าจะทุ่มสุดกำลัง เพื่อเปิดเส้นทางให้พี่ใหญ่รอดชีวิต”
สีหน้าของอู่จี๋เทียนจุนเปลี่ยนไป “เจ้าคิดจะทำอะไร?”
เซียวฉงโหลวตอบ “พี่ใหญ่ ข้าจะจัดการกับจื่อหยางเทียนจุน ส่วนเจ้าให้หาจังหวะโจมตีเขาให้ถึงแก่ชีวิต หากข้าไม่สามารถสร้างบาดแผลร้ายแรงได้ ข้าจะใช้อาวุธจักรพรรดิยอมสละชีวิตต่อสู้กับเขา เจ้ารีบหาโอกาสหลบหนีออกไป”
คำพูดนี้ทำให้อู่จี๋เทียนจุนตื้นตันจนน้ำตาคลอ “น้องชาย ข้า…”
“พี่ใหญ่ ไม่ต้องพูดมาก” เซียวฉงโหลวพูดด้วยความจริงจัง “เจ้าต้องฉวยโอกาสไว้ให้ได้”
“หากสุดท้ายข้าต้องพาจื่อหยางเทียนจุนตายไปพร้อมกัน จงทำลายนิกายดาบชิงอวิ๋นแทนข้า”
“นอกจากนี้ ฆ่าเยี่ยฉังเซิง เพื่อล้างแค้นให้ลูกชายของข้าด้วย”
“ขอฝากด้วย พี่ใหญ่!”
หลังจากพูดจบ เซียวฉงโหลวก้มหัวให้กับอู่จี๋เทียนจุน แล้วหันหลังเดินไปหาจื่อหยางเทียนจุน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
เรื่องนี้มีเติมเงินอ่านไหมครับ แนะนำหน่อย...
ทำไมลงวันละตอนแล้วครับ ช่วยชี้แจงหน่อยครับ...
ทำไมช่วงนี้ลงวันละตอนล่ะครับอีกอย่างช่วงแรกได้อ่านตั้งแต่7โมงเช้าแต่พอลงตอนเดียวต้องอ่านตอน3โมงเย็น...
ไอ้ชิบหาย มีแต่หน้าเปล่าๆมา3วันแล้ว พอๆเลิกอ่านบล็อคแม่งออกเลย หนังสือที่อื่นมีอ่านเยอะแยะ...
หลังๆทำไมลงแต่หน้าเปล่า ไม่มีตัวหนังสือสักตัว...
จะอ่านบท1611-1616ยังใงคับ...
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...