เมื่อสัตว์เทพทั้งสามที่กลายร่างมาจากเมฆสายฟ้าระเบิดหายไป พลังอันยิ่งใหญ่ที่กดดันทั่วทั้งฟ้าดินก็พลันสลายไปด้วย ไม่นานนัก ท้องฟ้ากลับมาเป็นสีครามบริสุทธิ์อีกครั้ง
ท้องฟ้าแจ่มใส และไร้ซึ่งเมฆ
เยี่ยหวู่ซวงได้รับบาดเจ็บไม่น้อย เขาเก็บดาบยาวของตนก่อนจะนั่งขัดสมาธิกลางเวหาเพื่อรักษาตัว
ส่วนบนพื้นดิน เสียงโห่ร้องดีใจดังกึกก้องไปทั่ว
"ผู้อาวุโสใหญ่ผ่านด่านทดสอบทัณฑ์สวรรค์ได้สำเร็จแล้ว!"
"ช่างแข็งแกร่งจริงๆ! แม้แต่ทัณฑ์สวรรค์ที่รุนแรงถึงเพียงนั้น ก็ยังไม่อาจขัดขวางก้าวเดินของผู้อาวุโสใหญ่ได้!"
"ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นิกายดาบชิงอวิ๋นของพวกเรา ก็มีนักบุญใหญ่อีกหนึ่งท่านแล้ว!"
"ขอแสดงความยินดีกับผู้อาวุโสใหญ่!"
“……”
อีกด้านหนึ่ง
คางคกทองคำมองด้วยสีหน้าตกตะลึง กล่าวออกมาเสียงสั่นว่า "ไม่น่าเชื่อ! แม้แต่ทัณฑ์ทั้งห้ายังฆ่าเขาไม่ได้! ผู้อาวุโสใหญ่นี่มันไม่ปกติชัดๆ!"
อมตะชางเหม่ยหัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า "ข้าบอกเจ้าตั้งแต่แรกแล้วไม่ใช่หรือ? เขาคือผู้ไร้ผู้เทียบเทียมแห่งใต้หล้า"
"สมกับชื่อผู้ไร้ผู้เทียบเทียมแห่งใต้หล้าจริงๆ คาวคกทองคำคิดถึงตอนที่ท้าประลองกับเยี่ยหวู่ซวงแล้วก็ยังเสียวสันหลัง นับว่าโชคดีที่ผู้อาวุโสใหญ่ยั้งมือไว้ ไม่อย่างนั้นข้าคงโดนต่อยจนกลายเป็นกองเนื้อไปแล้ว"
"ช่างแข็งแกร่งจริงๆ!"
"เต้าจ่าง ข้ายอมรับว่าก่อนหน้านี้ข้าผิดเอง ไม่ควรดื้อรั้นฝืนคำเตือนของท่าน... เอาอย่างนี้ดีไหม เรามาเป็นพี่น้องร่วมสาบานกันไหม?"
อมตะชางเหม่ยเบิกตากว้าง
คิดในใจว่า หากสาบานเป็นพี่น้องกับเจ้า ไม่เท่ากับว่าข้าก็เป็นคางคกที่กลายร่างเป็นมนุษย์หรือไง?
แม่ง! ข้าเตือนเจ้าเพราะหวังดีแท้ ๆ แต่เจ้ากลับอยากให้ข้ากลายเป็นเผ่าพันธุ์เดียวกับเจ้า ฝันไปเถอะ!"
แต่เขาก็ไม่ได้ปฏิเสธทันที เพราะคางคกทองคำตัวนี้ก็มีพลังแข็งแกร่ง ไม่แน่ว่าภายภาคหน้าก็อาจจะมีประโยชน์อยู่ไม่น้อย
เมื่อคิดได้เข่นนั้น อมตะชางเหม่ยก็กล่าวว่า "พี่แปด เจ้าไม่รู้สิ่งหนึ่ง ในโลกมนุษย์มีแต่พวกคนธรรมดาเท่านั้นที่นิยมตั้งพี่น้องร่วมสาบาน แต่สำหรับยอดคนเช่นพวกเรา มังกรในหมู่มนุษย์ ราชาในหมู่สัตว์ การเป็นพี่น้องร่วมสาบานมันเสียศักดิ์ศรีเกินไป"
"อีกอย่าง ด้วยความสัมพันธ์ของเราตอนนี้ หากเราไม่เป็นพี่น้องร่วมสาบานก็ไม่ใช่พี่น้องแล้วหรือ?"
"ไม่จำเป็นต้องมากพิธี!"
คางคกทองคำหัวเราะลั่นฮ่า ๆ ๆ! "เต้าจ่างพูดได้ดี! ไม่ต้องทำพิธีก็เป็นพี่น้องที่ดีกันด้ เอาอย่างนี้แล้วกัน จากนี้ไปเจ้าจะเรียกข้าว่าพี่ใหญ่ และข้าจะเรียกเจ้าว่าน้องชายเป็นไง?"
ไม่ค่อยดี!
อมตะชางเหม่ยด่าอยู่ในใจ "ไอ้เจ้าคางคกบ้า! เจ้าส่องกระจกดูตัวเองหน่อยไหม แค่หน้าตาเจ้ามีคุณสมบัติให้ข้าเรียกเจ้าว่าพี่ใหญ่เหรอ?"
คางคกทองคำกล่าวว่า "เป็นพี่ใหญ่ก็ต้องมีความรับผิดชอบ! ตั้งแต่นี้ไปข้าจะคอยดูแลเจ้าเอง หากมีใครกล้ารังแกเจ้า ข้าจะไปอัดมันให้เอง"
เมื่ออมตะชางเหมยได้บินเช่นนั้น ก็รู้สึกว่าการมีพี่ใหญ่ก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร
เพียงแต่ เรียกเจ้าคางคกทองว่าพี่ใหญ่ มันน่าอึดอัดใจมาก
"เจ้าน้องชาย ทำไมเจ้าไม่พูดอะไรเลย? เจ้าไม่เต็มใจรับข้าเป็นพี่ใหญ่เหรอ?" คางคกทองคำสีหน้าเริ่มไม่พอใจ และพูดอย่างไม่พอใจ "ไม่ใช่ว่าใคร ก็มีคุณสมบัติให้ข้าเรียกว่าน้องชายได้ง่ายๆ หากเจ้าไม่เต็มใจ เช่นนั้นก็—"
"ข้าเต็มใจ!" อมตะชางเหม่ยตอบกลับทันที "เมื่อครู่ข้าตกใจเกินไป เลยเผลอเงียบไปชั่วขณะ โปรดให้อภัยด้วยเถิด พี่ใหญ่!"
"ไม่เป็นไร" คางคกทองคำหัวเราะร่า แล้วพูดว่า"เจ้าน้องชาย ข้ารู้สึกว่าพวกเรามีวาสนาต่อกันจริงๆ เจ้าลองดูสิ หน้าตาเราก็ยังคล้ายกันเลยใช่หรือไม่?"
อมตะชางเหม่ย พูดไม่ออก
"อ้าว ทำไมเจ้าไม่พูดอะไรเลย? คางคกทองคำถาม
อมตะชางเหม่ยกล่าวว่า "พี่ใหญ่ ท่านอยากฟังความขริง หรือคำตอบปลอมๆกันเล่า?"
คางคกทองคำโพล่งออกมาแบบไม่ต้องคิด "แน่นอนว่าความจริงสิ!"
" หากข้าพูดความจริง ท่านอย่าอัดข้านะ?"
"ข้าจะอัดเจ้าได้อย่างไร? เจ้าคือน้องชายของข้า"
"ดี เช่นนั้นข้าจะพูดความจริง" อมตะชางเหม่ยกล่าวว่า "พวกเรา คนหนึ่งคือมนุษย์ อีกคนคือสัตว์อสูร จะหน้าตาเหมือนกันได้อย่างไร? พี่ใหญ่ สายตาของท่านมีปัญหาเหรอ? หรือสมองไม่ค่อยดี? ถึงได้คิดว่าพวกเราหน้าตาเหมือนกัน ช่างตลกยิ่งนัก!"
คางคกทองคำพูดว่า “จริงๆแล้ว ข้าแค่อยากกระชับความสัมพันธ์ของเราให้แน่นแฟ้นขึ้น…”
ใครจะไปคิดว่า จื่อหยางเทียนจุนก็ซ้ำเติมเข้าไปอีกหนึ่งดอก
“หากจะรับศิษย์ ก็ควรรับแบบเยี่ยหวู่ซวง!”
สีหน้าของเซียนกระบี่ทั้งสี่แข็งยิ่งกว่าเดิม
หมายความว่าไง?
พวกเรายังไม่คู่ควรจะเป็นศิษย์ของท่านอย่างนั้นหรือ?
ช่างทำร้ายจิตใจเหลือเกิน!
จื่อหยางเทียนจุนกว่าต่อว่า “อย่าลืมล่ะ พวกเจ้าทั้งสี่ ยังมีหน้าที่ทำความสะอาดส้วมไปอีกหนึ่งปี”
เซียนกระบี่ทั้งสี่ถึงกับหดหู่จนแทบกระอักเลือด!
ทุกคนต่างทำหน้าบูดบึ้ง พวกเขาอยากจะพูดเหลือเกินว่า ท่านอาจารย์ ท่านช่างใจดียิ่งนัก"
ในขณะนั้นเอง เยี่ยหวู่ซวงซึ่งกำลังนั่งขัดสมาธิ ก็ลุกขึ้นยืนอย่างองอาจ ดวงตาของเขาราวกับดวงดาราที่เจิดจ้า และมองขึ้นไปบนฟ้า
"หากเทพขวางข้า ข้าจะสังหารเทพ หากสวรรค์ขวางข้า ข้าจะทำลายสวรรค์!"
เสียงของเยี่ยหวู่ซวง ดังกระหึ่มราวกับเสียงฟ้าผ่า ทรงอำนาจดั่งผู้ไร้เทียมทาน
เหล่าศิษย์แห่งนิกายดาบชิงอวิ๋น เมื่อได้ยินคำประกาศก้องของเขา ต่างรู้สึกเลือดลมเดือดพล่าน หัวใจเต้นแรงด้วยความฮึกเหิม
อะไรคือความโอหัง?
ก็นี่แหละ!
"ขอแสดงความยินดีกับผู้อาวุโสใหญ่! ขอแสดงความยินดีกับผู้อาวุโสใหญ่!"
เหล่าศิษย์แห่งนิกายดาบชิงอวิ๋น ต่างส่งเสียงโห่ร้องกึกก้อง ดวงตาเต็มไปด้วยความเคารพเลื่อมใส ขับขานคำยินดีออกมาด้วยความตื่นเต้น
แต่ใครจะคาดคิดว่า ทันใดนั้นเอง สายลมกรรโชกอย่างรุนแรง ฝุ่นทรายปลิวว่อนทั่วท้องนภา พลังอันหนาวเย็นไม่รู้จบแผ่ซ่ายเต็มหัวใจของทุกคน ทำให้ผู้คนต่างตื่นตระหนก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
เรื่องนี้มีเติมเงินอ่านไหมครับ แนะนำหน่อย...
ทำไมลงวันละตอนแล้วครับ ช่วยชี้แจงหน่อยครับ...
ทำไมช่วงนี้ลงวันละตอนล่ะครับอีกอย่างช่วงแรกได้อ่านตั้งแต่7โมงเช้าแต่พอลงตอนเดียวต้องอ่านตอน3โมงเย็น...
ไอ้ชิบหาย มีแต่หน้าเปล่าๆมา3วันแล้ว พอๆเลิกอ่านบล็อคแม่งออกเลย หนังสือที่อื่นมีอ่านเยอะแยะ...
หลังๆทำไมลงแต่หน้าเปล่า ไม่มีตัวหนังสือสักตัว...
จะอ่านบท1611-1616ยังใงคับ...
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...