ทันใดนั้นเยี่ยชิวก็เริ่มระมัดระวังตัวเพิ่มมากขึ้นโดยมองไปรอบๆ เพื่อพยายามหาสาเหตุที่ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย
ทว่ากลับไม่พบอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว
"ตาเฒ่า ระวังตัวหน่อยนะ ผมรู้สึกมีลางสังหรณ์ไม่ดีเท่าไร สถานที่นี้ไม่ธรรมดาเลย" เยี่ยชิวกล่าวเตือน
อมตะชางเหม่ยกลับไม่คิดแบบนั้น "นายคิดมากเกินไปแล้ว ที่นี่ไม่มีอันตรายใดๆ ทั้งนั้น"
เยี่ยชิวถาม "ทำไมคุณถึงเชื่อแบบนั้น?"
"อมตะตงซวนเคยมาที่นี่และไม่ได้เจอกับอันตรายใดๆ มาก่อน" อมตะชางเหม่ยพูดขณะกำลังนั่งตรงหน้าสระสวรรค์เพื่อยื่นมือไปสัมผัสกับอุณหภูมิของน้ำและจากนั้นก็หันมาพูดกับเยี่ยชิว "จะว่าไปแล้วที่นี่ควรทำให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวก็คงไม่เลวเลย แต่น่าเสียดายว่าที่นี่คือพื้นที่ต้องห้าม......."
ทันใดนั้นเอง เยี่ยชิวก็มองเห็นเงาสีขาวที่พุ่งออกมาจากสระสวรรค์และพุ่งเข้าใส่อมตะชางเหม่ย
"ระวัง!"
ขณะที่เยี่ยชิวร้องเตือนนั้นก็ได้ชักปราณกระบี่ที่แหลมคมขึ้นมาพร้อมกัน
"ควับ!"
เงาสีขาวนั้นเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเพื่อหลบปราณกระบี่พร้อมกับย้อนกลับลงไปในสระสวรรค์เหมือนเดิม
อมตะชางเหม่ยถอยหลังไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับถามเยี่ยชิว "อะไรเหรอ?"
เยี่ยชิวส่ายหน้า "มองไม่เห็น"
"เป็นไปได้เหรอ รอดสายตาของนายไปได้อย่างนั้นเหรอ? เป็นไปได้ยังไง!" อมตะชางเหม่ยรู้สึกเหลือเชื่อ
ทว่กลับไม่รู้ว่าเยี่ยชิวรู้สึกตกตะลึงอย่างมากในใจ
เขาได้ฝึกฝนทักษะปราณแท้มาแล้วสามวิชา ด้วยความสามารถของเขาแล้วนั้น ภายในหนึ่งร้อยเมตรก็ไม่มีทางรอดพ้นสายตาของเขาไปได้อย่างแน่นอน
ทว่าเงาสีขาวเมื่อสักครู่นี้คืออะไร กลับมองไม่เห็นและไม่รู้ว่าคืออะไรเลยแม้แต่นิดเดียว
เยี่ยชิวกล่าว "แม้จะไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ความเร็วของมันสามารถรอดพ้นจากสายตาของผมไปได้แบบนี้ต้องไม่ธรรมดามาก เราจะประมาทไม่ได้"
อมตะชางเหม่ยส่ายหน้า "ต้องไม่ใช่สัตว์ประหลาดในน้ำอย่างแน่นอน เงาสีขาวเมื่อกี้มีขนาดแค่หนึ่งนิ้วเท่านั้น มันจะใช่สัตว์ประหลาดในน้ำได้ยังไง?"
"แต่เมื่อสักครู่ผมสัมผัสได้ถึงความชั่วร้ายของมัน"
"ถ้าผมไม่รีบยกปราณกระบี่ออกมา ไม่แน่คุณอาจแย่ไปแล้วก็ได้"
อมตะชางเหม่ยขมวดคิ้วกล่าว "คราวนี้แย่แน่"
"ในน้ำมีอันตราย เราจะลงไปได้ยังไง?"
"หากลงไปแล้วเจ้าตัวประหลาดเมื่อสักครู่จัดการโจมตีเราทั้งสองจะทำยังไง?"
เยี่ยชิวกล่าว "ก่อนหน้านี้คุณบอกว่าสามารถทำให้เรื่องร้ายกลายเป็นดีไม่ใช่เหรอ ไม่อย่างนั้นคุณลองลงน้ำดูสิ?"
"นายอยากให้ฉันลงไปตายอย่างนั้นเหรอ?" อมตะชางเหม่ยกล่าวอย่างเย็นชา "ฉันไม่มีทางทำตามคำพูดของนายหรอก"
เยี่ยชิวกล่าวด้วยรอยยิ้ม "งั้นก็ลองทำนายดวงดูอีกครั้ง?"
อมตะชางเหม่ยส่ายหน้ากล่าวอย่างตรงไปตรงมา "การทำนายดวงชะตาคือการเปิดเผยความลับแห่งสวรรค์ หากทำนายดวงมากเกินไป อาจจะถูกลงโทษจากสวรรค์ได้"
ลงโทษบ้าอะไรกัน!
ก็แค่หาข้ออ้างให้กับการดูดวงแบบส่งเดชของตัวเองก็เท่านั้น!
เยี่ยชิวมองเหยียดอมตะชางเหม่ยและจากนั้นก็เปิดดวงตาสวรรค์เพื่อมองดูสิ่งที่อยู่ในน้ำ
ทันใดนั้นเอง สายตาของเขาก็มองทะลุลงไปใต้น้ำกว่าสามสิบเมตร
น้ำใสสะอาดมาก
นอกจากพืชน้ำเพียงน้อยนิดแล้วก็ไม่มีอะไรอีกเลย
เยี่ยชิวคอยสังเกตและพูดขึ้นมาว่า "ตาเฒ่า ต่อให้ในน้ำไม่มีอันตรายอะไร เราก็ลงไปถึงก้นสระสวรรค์ได้ยากมาก"
อมตะชางเหม่ยถาม "ทำไมเหรอ?"
เยี่ยชิวกล่าว "สระสวรรค์นี้ลึกจนมองไม่เห็นก้นบึ้งของมันเลย เราไม่ได้เตรียมอุปกรณ์ดำน้ำมาด้วยแบบนี้เราจะลงไปยังไง?"
อมตะชางเหม่ยกล่าว "เรื่องนี้นายไม่ต้องกังวลไป ฉันมีวิธี"
"วิธีไหนเหรอ? หรือว่า......"
เสียงของเยี่ยชิวหยุดชะงักและร่างกายของเขาก็เกร็งขึ้น เขาวางมือขวาไว้ด้านหลังและพลังงานในฝ่ามือของเขาก็พุ่งเดือดพล่านขึ้น
อมตะชางเหม่ยถามขึ้นเมื่อเห็นการแสดงออกของเยี่ยชิว "มองเห็นอะไรใช่ไหม?"
"อย่าส่งเสียงดัง"
หลังจากที่เยี่ยชิวพูดจบ เขาก็เตรียมที่จะบดขยี้ปลาแทงดาบ
"หยุดเดี๋ยวนี้"
อมตะชางเหม่ยรีบห้ามเยี่ยชิวพร้อมกับกล่าวด้วยรอยยิ้ม "ปลาแทงดาบอร่อยมากเลยนะ"
"ฟันและหนามแข็งบนครีบเป็นวัสดุที่ดีเยี่ยมสำหรับการสร้างอาวุธลับเลยเชียวนะ"
"อีกอย่าง ฉันเคยอ่านตำราอาหารรสเลิศกล่าวไว้ว่าปลาแทงดาบมีเนื้อนุ่มและอร่อยกว่าปลาปักเป้าเสียอีก"
"สิ่งที่สำคัญที่สุดคือปลาแทงดาบนั้นหายากมาก มันมีอายุยืนยาวถึงพันปีและเติบโตอย่างช้าๆ ปลาแทงดาบขนาดใหญ่เช่นนี้ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่าหลายร้อยปี การกินมันเข้าไปสามารถพัฒนาทักษะของนายได้"
เยี่ยชิวรู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย "จริงเหรอ?"
"นายไม่เชื่อ? ลองดูก็จะรู้เอง" อมตะชางเหม่ยพูดจบก็กดปากของปลาแทงดาบเอาไว้
เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง
ปลาแทงดาบก็หายใจไม่ออกและตายไป
อมตะชางเหม่ยรีบผ่าท้องปลาแทงดาบออกอย่างรวดเร็ว พร้อมกับหยิบฟืนขึ้นมาก่อไฟและย่างปลาแทงดาบ
สักพักกลิ่นปลาก็ลอยมากระทบจมูก
เยี่ยชิวสูดดมเข้าไปและรู้สึกสดชื่นราวกับว่าเขากินโสมอายุร้อยปี เขารู้สึกถึงความเบาทั่วร่างกายซึ่งวิเศษมาก
"ดูเหมือนว่าสิ่งที่ตาเฒ่าพูดจะเป็นเรื่องจริง ปลาแทงดาบเป็นสิ่งที่วิเศษจริงๆ ด้วย" เยี่ยชิวพึมพำกับตัวเอง
"ไปหากิ่งไม้แห้งมาให้ฉันหน่อย" อมตะชางเหม่ยกล่าว
เยี่ยชิวหันกลับไปหาฟืนแห้งโดยไม่ได้คิดมาก เมื่อเขากลับมา เขาพบว่าเหลือเพียงก้างปลาเท่านั้น
อมตะชางเหม่ยกำลังนั่งขัดสมาธิและหลับตากระตุ้นกำลังปราณ
"ให้ตายสิ คุณไล่ผมออกไปเพื่อจะกินปลานี่คนเดียว คุณนี่มันไร้ยางอายจริงๆ!"
เยี่ยชิวสาปแช่ง และในขณะนี้อมตะชางเหม่ยก็ปล่อยพลังปราณขนาดใหญ่ออกมา
หลังจากนั้น พลังปราณแท้สี่สายก็ปรากฏขึ้นข้างหลังเขา!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
เรื่องนี้มีเติมเงินอ่านไหมครับ แนะนำหน่อย...
ทำไมลงวันละตอนแล้วครับ ช่วยชี้แจงหน่อยครับ...
ทำไมช่วงนี้ลงวันละตอนล่ะครับอีกอย่างช่วงแรกได้อ่านตั้งแต่7โมงเช้าแต่พอลงตอนเดียวต้องอ่านตอน3โมงเย็น...
ไอ้ชิบหาย มีแต่หน้าเปล่าๆมา3วันแล้ว พอๆเลิกอ่านบล็อคแม่งออกเลย หนังสือที่อื่นมีอ่านเยอะแยะ...
หลังๆทำไมลงแต่หน้าเปล่า ไม่มีตัวหนังสือสักตัว...
จะอ่านบท1611-1616ยังใงคับ...
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...