เมื่อชายหนุ่มได้ยินเยี่ยชิวสั่งให้เซียวจ้านตัดมือข้างหนึ่งของพวกเขทิ้ง เขาก็โกรธทันที
“ไอ่สารเลว ตัดมือฉันทิ้งข้างหนึ่ง แกก็ไม่อยากมีชีวิตต่อสินะ?”
"ฉันบอแกนะ ในโลกนี้ไม่มีใครกล้าทำแบบนี้กับคุณชายอย่างฉัน!"
“แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร”
“คุณเป็นใคร” เยี่ยชิวถาม
เขายังรู้เหมือนกันว่าไอ่ตาบอดนี้มันเป็นใครกล้าลวนลามเซียวอี้เหรินได้อย่างไร
“พวกแกบอกเขาไป ว่าฉันเป็นใคร!” ชายหนุ่มพูดกับบอดี้การ์ดทั้งสอง
บอดี้การ์ดคนหนึ่งพูดบอกเยี่ยชิวว่า: "เจ้าหนู ฟังให้ดี คุณชายของเรามาจากตระกูลหวง"
บอดี้การ์ดอีกคนพูดว่า: "ถ้าคุณกล้าแตะต้องคุณชายหวง งั้นแกตายแน่"
ตระกูลหวง?
เยี่ยชิว นึกอยู่พักหนึ่ง ที่เจียงโจวเหมือนจะไม่มีตระกูลที่แซ่หวง
“ตระกูลหวงบ้านไหน?” เยี่ยชิวถามอีกครั้ง
“ให้ตายเถอะ แม่แต่ตระกูลหวง แกยังไม่รู้จัก แกมันกบในกาละสักจริงๆ ไม่รู้จักที่สูงที่ต่ำ” บอดี้การ์ดด่า
บอดี้การ์ดอีกคนตะคอกอย่างเย็นชาว่า: "เจ้าหนู แกอย่าถามต่อเลย ถ้าพูเออกมาแล้วกลัวแกจะตกใจตายก่อน"
“ตระกูลหวงบ้านไหน?” เยี่ยชิว ถามอีกครั้ง
ชายหนุ่มพูดอย่างหยิ่งผยองว่า: "ตระกูลหวงในปักกิ่ง!"
เยี่ยชิวนึกได้ทันทีว่าตระกูลหวง นี้เป็นตระกูลที่ร่ำรวยในปักกิ่ง ผู้เฒ่าหวงเคยเป็นศูนย์กลางในสมัยนั้น และมีอำนาจอันยิ่งใหญ่ ปัจจุบันหัวหน้าตระกูลเป็นข้าราชการศักดินาที่รับผิดชอบจังหวัด
ยี่สิบกว่าปีแล้ว ตอนที่เยี่ยหวู่ซวงถูกรุมสังหาร หลายตระกูลในเมืองปักกิ่งก็ได้ลงมือดำเนินการด้วย รวมถึงตระกูลหวงด้วย
“หรือว่าควรจะเริ่มจะตระกูลหวงแล้วค่อยโจมตีตระกูลที่ร่วมนั้นตอนนั้นที่ละคระกูล?”
ในขณะที่เยี่ยชิวกำลังคิดเรื่องนี้อยู่ บอดี้การ์ดสองคนของชายหนุ่มก็พูดขึ้นอีกครั้ง
“ไอ้หนู ทำไมไม่พูดแล้วล่ะ”
“แกกลัวจนฉี่ราดแล้วหรือเปล่า”
“ฉันบอกแกแล้ว ใครที่กล้าขุ่นเคืองคุณชายเราไม่มีใครจบได้ดี”
“ฉันแนะนำให้แกอย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของคนอื่นเลย หากรู้จักเจียมตัว งั้นก็ส่งไอ่ตาบอดนั้นมาให้กับคุณชายเราสักดีๆ”
“นอกจากนี้ แกคุกเข่าลงและขอโทษคุณชายด้วย”
“คุณชายของเราใจกว้าง ตราบใดที่เขามีความสุขแล้ว เขาอาจให้อภัยแกก็ได้”
“หากเแกยังคงคิดจะมายุ่งเกี่ยวอีก แม้วันนี้พระเจ้าแกก็ต้องตายอย่างเดียว”
เยี่ยชิว เพิกเฉยต่อบอดี้การ์ด และเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่ม รอยยิ้มแปลก ๆ ก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา
“ตระกูลหวงในปักกิ่ง? ฮ่าฮ่า แล้วมันจะทำไม!”
เพี้ยะ——
เยี่ยชิวตบชายหนุ่มจนกระเด็นออกไป
“เชี้ย รู้ตัวตนของคุณชายแล้วแกยังกล้าลงมืออีก ฉันฆ่าแกแน่”
บอดี้การ์ดทั้งสองกำลังจะลงมือ แต่ก่อนที่พวกเขาจะเข้ามาใกล้เยี่ยชิว พวกเขาก็ถูก เซียวจ้านโยนออกไปนอกประตู
“หัวหน้ายังต้องการตัดมือข้างหนึ่งของพวกเขาทิ้งไหม?”
เซียวจ้านลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "แม้ว่าหลงเหมินของเราจะทรงพลัง แต่ตระกูลหวงก็เป็นตระกูลใหญ่ มันก็ไม่มีประโยชน์ถ้าไปทำให้เขสขุ่นเคืองแล้ว"
เยี่ยชิว พูดว่า: "คุณไม่โกรธที่เขาลวนลามพี่สาวคุณเหรอ?"
“แน่นอนว่าฉันโกรธ ฉันโกรธจนอยากจะฆ่าพวกเขาทิ้ง” เซียวจ้านกล่าวต่อ: “แต่หัวหน้า คุณเพิ่งรับตำแหน่งผู้นำไปและฉันก็ไม่อยากให้คุณสร้างศัตรู”
“การคิดถึงขั้นนี้หมายความว่าคุณเป็นผู้ใหญ่และได้พัฒนามากขึ้นกว่าเดิมแล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี” เยี่ยชิวชมเชยแล้วพูดว่า: "ไม่ตัดมือข้างหนึ่ง"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซียวจ้านก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เยี่ยชิวก็พูดต่อ: "ตัดมือทั้งสองข้างของพวกเขาออก"
อ้า?
เซียวจ้านมองเยี่ยชิวด้วยความตกใจ
เยี่ยชิว กล่าวว่า: "ฉันไม่สนใจว่าเขาจะเป็นลูกชายของตระกูลที่ร่ำรวยหรือเป็นพวกอันธพาล แต่ว่า ใครก็ตามที่แตะต้องคนของฉันงั้นต้องก็ต้องชดใช้"
เมื่อเซียวอี้เหรินได้ยินคำพูดของเยี่ยชิวชิว ใบหน้าของเธอก็แดงขึ้นนิดนึง
ฉันกลายเป็นของคุณเมื่อไหร่?
เยั้ยชิวพยักหน้า: "ได้"
เซียวอี้เหรินกล่าวว่า: "มีกล่องเล็กๆ ทางด้านซ้ายของขาตั้งดอกไม้ และมีสำลีแอลกอฮอล์อยู่ในนั้น"
เยี่ยชิวหาสำลีแอลกอฮอล์เจอแล้วหยิบเข็มทองคำสิบกว่าอันออกมา
หลังจากฆ่าเชื้อเสร็จแล้ว
เยี่ยชิวก็เริ่มการรักษา
ซิ่ว!
ซื่ว!
ซิ่ว!
เยี่ยชิว แทงเข็มทองคำหลายสิบเข็มเข้าไปในหัวของเซียวอี้เหรินในทีเดียว จากนั้นเขาก็แทงเข็มทองคำอีกสองสามเข็มไปที่ใบหน้าของเซียวอี้เหริน
หลังจากทำทั้งหมดนี้แล้ว เยี่ยชิวก็สะบัดนิ้วของเขา
"ฟู่!"
เข็มทองทั้งหมดสั่นและส่งเสียงพึมพำพร้อมกันในเวลาเดียวกัน
มีสีหน้าอันเจ็บปวดปรากฏบนใบหน้าที่สวยงามของเซียวอี้เหริน และก็หายไปในทันที
เยี่ยชิวกล่าวว่า: "มันเจ็บนิดหน่อย คุณค้องอดทนหน่อยนะ"
เซียวอี้เหริน ยิ้มและพูดว่า: "หลังจากประสบกับความยากลำบากของชีวิตแล้ว ความเจ็บแค่นี้ไม่ถือว่าอะไรเลย"
เยีย่ชิว ถอนหายใจ ก็จริง ความเจ็บปวดใดๆ ก็ไม่คุ้มที่จะกล่าวถึงเมื่อเผชิญกับความทุกข์ทรมานของชีวิต
เยี่ยชิวปลอบใจเธอ: "ไม่เป็นไร มันผ่านไปแล้ว และฉันเชื่อว่าในอนาคตมันจะต้องดีขึ้นเรื่อยๆ"
"อื้ม" เซียวอี้เหริน กล่าวว่า "เมื่อก่อนถ้ามีอะไรไม่สบายใจฉันก็มักจะคิดเรื่องที่มีความสุขขึ้นมา เพราะในชีวิตมันต้องมีเรื่องให้เรามีความสุขบ้างนี่หนา"
“ฉันเชื่อมาโดยตลอดว่า ตราบใดที่เราไม่ยอมแพ้ ตราบใดที่เรามีความอดทน และตราบใดที่เรามองโลกในแง่ดี เราก็จะสามารถเอาชนะความยากลำบากทั้งหมดได้”
“ไม่ว่าพายุฝนจะร้ายเเรงขนาดไหน มันก็ต้องมีวันที่สดใสสักวัน ใช่ไหมหมอเยี่ย?”
คำพูดของเซียวอี้เหรินเป็นที่เยียวยาได้ดีมาก และเยี่ยชิวก็รู้สึกสะเทือนใจอย่างสุดซึ้ง
“ใช่แล้ว คมดาบมาจากการลับคม และกลิ่นหอมของดอกบ๊วยก็มาจากความหนาวเย็นอันขมขื่น ต่อไปนี่คุณจะต้องดีขึ้นเรื่อยๆ”
หลังจากที่เยี่ยชิวพูดจบ เขาก็เริ่มวาดยันต์ด้วยมือของเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
เรื่องนี้มีเติมเงินอ่านไหมครับ แนะนำหน่อย...
ทำไมลงวันละตอนแล้วครับ ช่วยชี้แจงหน่อยครับ...
ทำไมช่วงนี้ลงวันละตอนล่ะครับอีกอย่างช่วงแรกได้อ่านตั้งแต่7โมงเช้าแต่พอลงตอนเดียวต้องอ่านตอน3โมงเย็น...
ไอ้ชิบหาย มีแต่หน้าเปล่าๆมา3วันแล้ว พอๆเลิกอ่านบล็อคแม่งออกเลย หนังสือที่อื่นมีอ่านเยอะแยะ...
หลังๆทำไมลงแต่หน้าเปล่า ไม่มีตัวหนังสือสักตัว...
จะอ่านบท1611-1616ยังใงคับ...
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...