เมื่อถังเฟยจัดคนไปส่งอมตะชางเหม่ยเสร็จแล้ว ก็หันมาพูดกับเยี่ยชิวว่า:“เรื่องที่เกิดขึ้นที่สุสานบรรพบุรุษตระกูลหลง ตอนนี้เทพทหารรู้เรื่องแล้วนะ”
“เทพทหารบอกว่า เขาจะส่งคนไปจับตามองที่พระราชวังต้องห้ามให้ ถ้ามีความเคลื่อนไหวอะไรจะรีบรายงานเจ้าทันที”
“เยี่ยชิว เจ้าจะกลับเจียงโจวหรือว่า....?”
ยังไม่ทันที่ถังเฟยจะพูดจบ เยี่ยชิวก็พูดขึ้นมาว่า:“ข้าจะกลับเจียงโจว”
“งั้นข้าจัดคนไปส่งเจ้า”พูดจบถังเฟยก็จัดเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งให้ไปส่งเยี่ยชิว
สามชั่วโมงต่อมา
เฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวก็ลงจอดบนลานจอดเฮลิคอปเตอร์ของกองทหารเจียงโจว
เยี่ยชิวพาลุงโส่วซานะลงจากเฮลิคอปเตอร์ ก็พบกับเซียวจ้าน
เซียวจ้านที่รอมานานหลายชั่วโมง
หลังจากที่ขึ้นรถแล้ว
เซียวจ้านถามขึ้น:“พี่ใหญ่ พี่จะไปที่ไหน?”
“หาที่พาลุงโส่วซานะไปส่งก่อน”เยี่ยชิวพูดจบก็ถามลุงโส่วซานะว่า:“ลืมไปเลย ชื่อจริงๆของท่านชื่ออะไร?”
ลุงโส่วซานะตอบกลับ:“ข้าชื่อลี่เอ้อโกว”
เอ้อโกว?
ทันใดนั้นเยี่ยชิวก็หันไปมองที่ลุงโส่วซานะ อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้นะ จะว่าไปเขาก็ดูเหมือนสุนัขพันธุ์เชาเชาจริงๆแหล่ะ
“เซียวจ้านต่อจากนี้ไปเอ้อโกวจะอยู่กับนาย ดูแลเขาด้วยล่ะ”
“เอ้อโกวเป็นคนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ถึงเคยมาที่นี้เป็นครั้งแรก ยังไม่คุ้นชินกับเจียงโจว นายเรียกให้เพื่อนสนิทนายพาเขาออกไปเดินเล่น ทำความรู้จักสถนที่หน่อยเป็นไร”
“อีกสักครู่หาที่ให้เอ้อโกวลง”
เยี่ยชิวออกคำสั่ง
“ได้ครับ” เซียวจ้านตอบรับ
รถของพวกเขาขับเข้าไปในเมือง ขับไปได้สักพักเซียวจ้านก็หาที่จอดรถและโทรศัพท์
ไม่ช้า ลูกศิษย์หลงเหมินสองคนก็ปรากฏตัวขึ้นและพาตัวลี่เอ้อโกวไป
“พี่ใหญ่ จะให้ฉันไปส่งพี่ที่บ้านเลยไหม?”เซียวจ้านถามขึ้น
“ยัง ยังไม่ใช่ตอนนี้ ฉันจะไปหาพี่สาวนาย”และเยี่ยชิวก็ขอโทษ:“ขอโทษนะ พูดมาตั้งนานแล้วว่าจะหาที่รักษาตาให้พี่สาวของนาย แต่ก็มัวแต่ยุ่งเรื่องอื่นจนทำให้ล่าช้ามาถึงตอนนี้”
เซียวจ้านได้ยินเช่นนี้ก็ดีใจมากและพูดว่า:“พี่ใหญ่ไม่ต้องขอโทษหรอก ถ้าไม่ได้พี่ใหญ่ฉันกับพี่สาวคงจะอยู่ตามข้างถนน”
“เป็นพี่ใหญ่ที่ช่วยพวกเราเอาไว้”
“สำหรับฉันแล้ว พี่ใหญ่ไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้มีพระคุณ แต่ยังเป็นเหมือนพี่ชายแท้ๆที่ข้ารักอีกด้วย”
เยี่ยชิวได้ยินแล้วก็ยิ้มออกมา
“ใช่แล้วพี่ใหญ่ ลี่เอ้อโกวคนนี้เป็นมายังไง ไว้ใจได้ไหม?”
ไว้ใจได้ไหม?
เยี่ยชิวเองก็ไม่รู้เหมือนกัน
“ลี่เอ้อโกวมาจากหน่วยลาดตระเวนภูเขาฉางไป๋ ฉันเองก็รู้จักเขาได้ไม่นาน สำหรับคำถามที่นายถามว่าเขาไว้ใจได้ไหมนั้น ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน นายจับตาดูเขาไว้ให้ดีแล้วกัน”
เยี่ยชิวพูดขึ้นต่อว่า:“ลี่เอ้อโกวรู้สถานะที่แท้จริงของฉัน ฉันไม่ต้องให้เขาเอาเรื่องนี้ไปพูดที่ไหน”
“แต่ตาเฒ่าคนนี้ฉลาดมาก นายต้องจับตาดูเขาไว้ให้ดี”
“เขานั้นเป็นคนมีฝีมือ ความสามารถเขาเทียบกับระดับมังกรชั้นสูงได้เลย ถ้าเป็นไปได้ด้วยดี เขาก็จะช่วยนายได้มากเลยทีเดียว”
เซียวจ้านพยักหน้า:“ฉันเข้าใจแล้วล่ะ”
รถเคลื่อนตัวไปข้างหน้า
เยี่ยชิวเอนศีรษะลงบนเบาะแล้วพูดขึ้นว่า:“ช่วงนี้ฉันยุ่งอยู่ตลอดเลย ไม่มีเวลาดูแลนายกับพี่สาว ช่วงนี้พี่สาวนายเป็นยังไงบ้าง?”
เซียวจ้านตอบกลับ:“พี่ไม่อยากอยู่บ้านว่างๆ เพราะอยู่บ้านก็ไม่มีใครคุยเป็นเพื่อน เธอเลยอยากจะหาอะไรทำ”
“ช่วงก่อนฉันเพิ่งช่วยเธอเปิดร้านดอกไม้”
“ธุรกิจร้านดอกไม้ของเธอไปได้ไม่เลวเลยล่ะ พี่ยุ่งหัวฟูทุกวันเลย”
เยี่ยชิวถามขึ้น:“พี่สาวนายดวงตามองไม่เห็น ดูแลร้านดอกไม้จะสะดวกหรอ?”
ใบหน้าของเซียวอี้เหรินยังคงดูเย็นชาและพูดขึ้นว่า:“ที่นี้ไม่ต้อนรับคุณ กรุณาออกไปด้วยค่ะ”
บอดี้การ์ดคนหนึ่งยิ้มเยาะแล้วพูดขึ้น:“สาวน้อย คุณชายของพวกเราถูกใจเธอก็ถือว่าเป็นโชคของเธอแล้ว เธออย่ามองข้ามความปรารถนาดีนี้”
ส่วนบอดี้การ์ดอีกคนก็พูดขึ้นต่อว่า:“สาวน้อย เธอยังไม่รู้ว่าคุณชายของเราเป็นใครใช่ไหม?”
“สาวน้อย เธอยังไม่รู้ว่าคุณชายของเราเป็นใครใช่ไหม?” “ฉันขอบอกไว้ก่อนเลยนะ ว่าคุณชายของเราไม่ใช่คนธรรมดา ขนาดพวกดาราสาวดัง นางแบบ หรือพวกเน็ตไอดอลล้วนแล้วแต่พยายามจะทำให้คุณชายของเราสนใจ เพียงแค่คุณชายของพวกเราไม่ชอบพวกหล่อนก็เท่านั้นเอง”
“ตอนนี้คุณชายถูกใจเธอแล้ว นั้นก็แปลว่าโชคที่เธอนั้นสะสมมาหลายพบหลายชาตินั้นส่งผลแล้ว”
“เพียงแค่เธอยอมมากับคุณชายของพวกเรา เธอจะมีกินมีใช้ไปทั้งชาติ พร้อมยังไม่ต้องทำอะไรอีกด้วย ร้านดอกไม้ร้านนี้จะทำกำไรได้สักเท่าไหร่กันเชียว ลองคิดดูนะว่าแบบนี้ไม่ดีหรอ?”
สีหน้าของเซียวอี้เหรินนั้นดูไร้อารมย์และพูดว่า:“ฉันยังคงยืนยั้ยคำเดิมว่าถ้าคุณมาซื้อดอกไม้ ฉันยินดีต้อนรับ แต่ถ้าหากคุณไม่ได้ต้องการซื้อดอกไม้ล่ะก็กรุณาออกไปข้างนอกเดี่ยวนี้”
ทันใดนั้นชายหนุ่มก็โกรธจัด
“ปัง!”
ชายหนุ่มเตะแจกันดอกไม้และตะโกนใส่เซียวอี้เหริน: “ฉันชอบเธอได้ ก็เพราะความดีและโชคที่เธอทำไว้เมื่อชาติปางก่อน อย่าหน้าไม่อายหน่อยเลย”
“ก็แค่คนตาบอดคนหนึ่ง มันจะอะไรนักหนา”
“อย่าทำให้ฉันโมโหให้มากนัก เดียวจะจับไปรับแขก.....”
ปัง!
ก่อนที่ชายหนุ่มจะพูดจบเขาก็ถูกตีจากด้านหลังจนล้มลงกับพื้น
“ใครตีฉัน?”ชายหนุ่มรีบลุกขึ้นจากพื้น และหันกลับมาดูก็เห็นเยี่ยชิว เขาปิดหน้าและชี้ไปที่เยี่ยชิวแล้วตะโกนใส่ว่า:“แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร กล้าดียังไงมาตีฉันแบบนี้ ไอ้บ้านี้ แกตายแน่”
บอดี้การ์ดทั้งสองคนของชายหนุ่มก้าวไปล้อมเยี่ยชิว
เตรียมท่าพร้อมที่จะเข้าต่อสู้ตลอดเวลา
เยี่ยชิวรู้สึกเหมือนจะไม่เคยเจอคนพวกนี้มาก่อน และเขาก็ไม่ได้รู้สึกสนใจท่าทางพวกนี้การต่อสู้ของคนพวกนี้ เขาพูดกับเซียวจ้านว่า:“ร้านดอกไม้ที่สวยขนาดนี้ อย่าปล่อยให้มันเสียไปเพราะหนูแค่ไม่กี่ตัวเลย เอาพวกมันโยนทิ้งไปให้หมด”
“อ่อ แล้วก็อย่าลืมสอนบทเรียนให้พวกมันด้วย”
“หักมือพวกมันทักคน คนละข้าง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
เรื่องนี้มีเติมเงินอ่านไหมครับ แนะนำหน่อย...
ทำไมลงวันละตอนแล้วครับ ช่วยชี้แจงหน่อยครับ...
ทำไมช่วงนี้ลงวันละตอนล่ะครับอีกอย่างช่วงแรกได้อ่านตั้งแต่7โมงเช้าแต่พอลงตอนเดียวต้องอ่านตอน3โมงเย็น...
ไอ้ชิบหาย มีแต่หน้าเปล่าๆมา3วันแล้ว พอๆเลิกอ่านบล็อคแม่งออกเลย หนังสือที่อื่นมีอ่านเยอะแยะ...
หลังๆทำไมลงแต่หน้าเปล่า ไม่มีตัวหนังสือสักตัว...
จะอ่านบท1611-1616ยังใงคับ...
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...