วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ นิยาย บท 428

เสี่ยวอวี้หลินขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ ยื่นมือไปบีบคางของเซี่ยอันนาบังคับให้เซี่ยอันนามองหน้าเขา

เซี่ยอันนารู้สึกเจ็บปวด ขมวดคิ้วและมองไปที่เสี่ยวอวี้หลิน "ปล่อยนะ ทำอะไรเนี่ย? ฉันเจ็บ"

ทำไมเสี่ยวอวี้หลินถึงชอบทำร้ายตัวเองทุกครั้ง? ครั้งก่อนก็ทำแบบนี้ ตัวเองทำให้เขารำคาญขนาดนั้นเลยหรอ?

เมื่อเสี่ยวอวี้หลินได้ยินคำพูดของเซี่ยอันนาก็รีบปล่อยมือ ผู้หญิงคนนี้ทำไมอ่อนแอจัง แค่จับเบาๆก็เจ็บ

" ใครให้เธอไม่ตอบฉัน ยังทำเมินใส่อีก" ถ้าเสี่ยวอวี้หลินเป็นเจ้าชาย คำที่เขาพูดมาก็ไม่มีเหตุผลเลย

"ฉันก็แค่คิดถึงเรื่องต่างๆ" เซี่ยอันนาเงยหน้าขึ้นและพูดว่าทำไมเธอเมินไป

ขอร้อง? ใครจะไม่คิดเรื่องต่างๆ? เสี่ยวอวี้หลินพูดไม่ออก "ไปกันเถอะ วันนี้เจ้าชายสุดหล่ออารมณ์ดี เดี๋ยวพาไปกินข้าว"

ในขณะที่กำลังพูดก็ดึงเซี่ยอันนาลุกจากโต๊ะ "เฮ้ย หนังสือของฉัน...... "

เสี่ยวอวี้หลินมองไปที่หนังสือของเซี่ยอันนาบนโต๊ะ ยิ้ม หยิบหนังสือขึ้นมาและเดินไป

"เฮ้ย......เฮ้ย..... " เซี่ยอันนาอยู่ในความงุนงงรู้สึกสับสนเล็กน้อย

เซี่ยอันนาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เสี่ยวอวี้หลินเดินออกไปคนเดียวพร้อมกับหนังสือของเธอ

เสี่ยวอวี้หลินเดินไปที่ประตูตะโกนมาว่า "เฮ้ย จะไปหรือไม่ไป? ยังอยากได้อยู่หรือเปล่าหนังสือเนี่ย?"

เสี่ยวอวี้หลินเป็นชายหนุ่มที่ฉลาด แต่บางที......เจ้าชายที่คนก็ส่วนมากฉลาด

เสี่ยวอวี้หลินรู้อยู่เสมอว่าต้องใช้เหตุผลอะไรและเหตุผลใดที่จะทำให้เซี่ยอันนาปฏิเสธไม่ได้

......

"ชวูเสวีย ดูสิอันนี้สวยไหม? ฉันซื้อมาให้เธอดีไหม?" หนานกงเจาพูดพร้อมกับถือชุดสีเหลืองอ่อนในมืออย่างมีความสุข เย่ชวูเสวียนั่งดื่มชาอยู่ข้างๆ

ทำไมหนานกงเจาถึงน่ารำคาญขนาดนี้ เย่ชวูเสวียหมดความอดทน เธอเงยหน้าขึ้นและเหลือบมอง "อืม โอเค ใส่ถุงเลย"

หนานกงเจามีความสุขอยู่พักหนึ่ง เมื่อได้ยินสิ่งที่เย่ชวูเสวียพูด ก็เรียกพนักงานมาใส่ถุงทันที

เย่ชวูเสวียไม่รู้ว่าหนานกงเจารู้ได้ยังไงว่าเธอไม่ได้อาศัยอยู่ที่บ้านพี่ชายแล้ว แต่ตังวันที่เธอโดนไล่ออกมาเขาก็อยู่กับเธอตลอด

เย่ชวูเสวียไม่รอหนานกงเจาที่กำลังดูเสื้อผ้า เธอเดินตรงไปที่ประตูและขึ้นลิฟต์

"โอเค อันนี้ก็ช่วยใส่ให้ด้วยนะ! ขอบคุณ" สุภาพบุรุษหนานกงเจาพูดด้วยรอยยิ้ม

เมื่อหันไปมองเย่ชวูเสวีย ก็เห็นว่าเธอไม่ได้นั่งอยู่ที่เดิมแล้ว รีบมองหาเธอ ก็เห็นว่าเธอขึ้นไปที่ชั้นสามแล้ว

"คุณครับ รบกวนช่วยจัดการใส่ถุงให้หน่อยนะ เดี๋ยวผมลงลงมาเอา" หนานกงเจาทำได้เพียงรีบวางบัตรธนาคารไว้ แล้วรีบตามเย่ชวูเสวียไป

......

ในห้องนั่งเล่น เย่จิงเหยียนสวมผ้ากันเปื้อนและยุ่งอยู่ " อีเหยา ช่วยเอาจานมาหน่อย"

ตั้งแต่เย่จิงเหยียนได้รับคำชมจากต้วนอีเหยาครั้งก่อน เขาก็ลงมือเข้าครัวทำอาหารอย่างมีความสุข

ตอนนี้เขาทำอาหารให้ต้วนอีเหยากินทุกวัน

เย่จิงเหยีย ยุ่งอยู่พักหนึ่ง ก็เห็นว่าต้วนอีเหยาไม่เอาจานมาให้สักที เขาหยุดการเคลื่อนไหวในมือของเขาและหันไปมองของต้วนอีเหยา

เย่จิงเหยียนเห็นต้วนอีเหยานั่งอยู่บนโซฟาอย่างโง่เขลา ดวงตาของเย่จิงเหยียนเศร้าลง เขารู้ว่าต้วนอีเหยากำลังคิดถึงเด็กคนนั้น

เมื่ออาหารทำเสร็จพร้อมทาน ทั้งสองกินอย่างรวดเร็วเพราะวันนี้พวกเขาต้องไปที่ศาล

หลังจากรับประทานอาหารแล้ว เย่จิงเหยียนก็เก็บข้าวของและเตรียมตัวออกไป “ จิงเหยียน ฉันจะไปด้วย” ต้วนอีเหยาตะโกนออกมาในขณะที่เย่จิงเหยียนกำลังจะออกไป

ดวงตาของต้วนอีเหยาเต็มไปด้วยความแน่วแน่

เย่จิงเหยียนไม่อยากให้ต้วนอีเหยาไปกับเขา แต่ถ้าต้วนอีเหยาอยากไปเขาก็ห้ามไม่ได้

หลังจากนั้น……

เย่จิงเหยียนพยักหน้า มองไปที่ต้วนอีเหยาและพูดว่า "โอเค"

ในรถ เย่จิงเหยียนมองไปที่ดวงตาที่ปิดสนิทของต้วนอีเหยา หัวใจของเขาเจ็บปวด เป็นเพราะเขา

เพราะเขา......เขาปกป้องเธอไม่ดีเองและปกป้องลูกน้อยของพวกเขาไม่ได้

เย่จิงเหยียนเดินไปที่โซฟาและนั่งลง "อีเหยา ไม่ต้องเสียใจแล้วนะ มันผ่านมานานแล้วปล่อยมันไปเถอะ โอเคไหม?" เขากอดต้วนอีเหยาในอ้อม "เรายังมีกันอีกได้ พวกเรา... ... "

เย่จิงเหยียนอยากพูดอะไรบางอย่างมากกว่านี้ แต่ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกได้ว่าคนในอ้อมแขนของเขาตัวสั่นเล็กน้อย

เย่จิงเหยียนกอดต้วนอีเหยาแน่นขึ้น......

เขาทำให้เธอร้องไห้อีกแล้ว ให้ตายสิ!

ในศาล ต้วนจื่ออิ๋งสวมชุดคุมขัง

ดวงตามืดหมอง แต่เมื่อเห็นเย่จิงเหยียนดูเหมือนว่าแสงจะกลับมาสว่างขึ้นทันที โกรธไปทั้งตัว จ้องไปที่เย่จิงเหยียนและต้วนอีเหยาตะโกนออกมาไม่หยุด

ในที่สุดผู้พิพากษาก็ตัดสินว่าเธอเป็นบ้า ผลของการพิจารณาคดีนี้เป็นเพียงการปรับพฤติกรรม เธอถูกควบคุมตัวไปอีกสองเดือน

ผลพิจารณานี้ทำให้เย่จิงเหยียนสับสนมาก

เขาไม่คาดคิดว่ามันจะเบาขนาดนี้

การแสดงออกของต้วนอีเหยานิ่งเฉย ราวกับว่าเธอคาดไว้แล้วว่ามันต้องเป็นแบบนี้

แต่เธอยิ่งนิ่ง มันยิ่งทำให้เย่จิงเหยียนรู้สึกเจ็บปวด

อย่างน้อยก็ช่วยแสดงออกอะไรสักอย่างก็ยังดี

ทันใดนั้น น้ำตาของต้วนอีเหยาก็ไหลออกมา

เธอล้มลงไปในอ้อมแขนของเย่จิงเหยียนและร้องไห้ "ทำไมคนชั่วมักได้สิ่งที่หวัง?"

"อีเหยา อีเหยา อย่าเป็นแบบนี้อย่าเป็นแบบนี้ ใช่เธอเป็นคนชั่ว แต่ชีวิตของเรา อย่าปล่อยให้คนชั่วมาทำลายได้ เราต้องเผชิญหน้ากับมันด้วยรอยยิ้มและมองโลกในแง่ดี อีเหน่อยเดี๋ยว เราก็มีใหม่ อีเหยาไม่ร้องนะ "

เย่จิงเหยียนรู้สึกกระวนกระวายในขณะนี้เขาไม่รู้ว่าจะปลอบต้วนอีเหยายังไง เขาทำได้เพียงแค่ตบหลังต้วนอีเหยาเบาๆและพูดว่า "อีเหยา อย่าร้อง อย่าร้องไห้"

แต่เขาเองก็รู้ดีว่าการปลอบแบบนี้มันไม่มีประโยชน์

"มีลูกอีกคนงั้นหรอ?" ต้วนอีเหยาพูดประโยคนี้ซ้ำทั้งน้ำตา

แต่ในหัวใจกำลังส่งเสียงร้องอย่างดุเดือดและปฏิเสธ

ไม่เอา.....ไม่เอา

อย่ามีอีกเด็ดขาด... ...

ไม่เอาอีกแล้ว......จะไม่เอาอีกแล้ว!

“ ไม่ต้องเสียใจแล้ว โอเคไหม? อีเหยา เดี๋ยวกลับถึงบ้าน ฉันจะทำของอร่อยๆให้กินอีก”

เย่จิงเหยียนตบหลังของต้วนอีเหยาและพูดเบาๆ

"มา เช็ดน้ำตากันเถอะ ไปกินข้าวกัน" เย่จิงเหยียนพูดเบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ น้ำตาที่คลออยู่ตรงเบ้าตาเกือบไหลออกมา

"อืม” ต้วนอีเหยาพยักหน้า เธอรู้ว่าช่วงนี้เย่จิงเหยียนเหนื่อยมาก ปกติปลอบใจตัวเอง แต่ในช่วงสองวันที่ผ่านมาเพื่อที่จะทำให้เธอรู้สึกสบายใจขึ้น ก็เลยทำอาหารโปรดของตัวเองในทุกวัน

บอกว่ามากินอาหารมื้อใหญ่ไม่ใช่หรอ? ไหนล่ะ? ทำไมไม่มี? เธอหิวมาก

เสี่ยวอวี้หลินตกตะลึงเมื่อได้ยินคำพูดของเซี่ยอันนา จากนั้นก็พูดกับเพื่อนของเขาอย่างจริงจังว่า "เห้ย ไหนเรียกกูมากินอาหารมื้อใหญ่ไม่ใช่หรอ? อาหารล่ะ?"

เพื่อนของเสี่ยวอวี้หลินก็ตกตะลึงเช่นกัน มันยังไม่เริ่ม อีกอย่าง... ... เด็กผู้หญิงที่เหมือนกระต่ายคนนี้ถูกเสี่ยวอวี้หลินลักพาตัวมาหรือซื้อมาหรือเปล่า?

ทำไมคำแรกก็เป็น "ไหนบอกอาหารมือใหญ่? ไหนล่ะอาหาร?"

ยืนอยู่ท่ามกลางผู้หญิงหลายคนตรงน้ำพุ

"อืม เดี๋ยวนี้เลย รอก่อไฟก่อน" ชายที่เพิ่งให้ไวน์แดงเสี่ยวอวี้หลินพูดแล้วมองไปที่เซี่ยอันนาอย่างสนใจ

"นี่ ได้ยินหรือยัง ไฟยังก่อไม่เสร็จ" เสี่ยวอวี้หลินพูดกับเซี่ยอันนา

ดวงตาของเสี่ยวอวี้หลินลอยลงและเห็นว่ามีอาหารบาร์บีคิวบนชั้นวางอยู่ไม่ไกลและพูดกับเซี่ยอันนา: "นั้น ตรงนั้น มีอาหารเต็มเลย เธอไปเลือกสิอยากกินอะไร"

"อืม โอเค" เซี่ยอันนาเห็นอาหารและรีบวิ่งไป ดวงตาของเธอเปล่งประกาย

"เดี๋ยวก่อน" เสี่ยวอวี้หลินเรียกเซี่ยอันนา "เธอย่างเป็นไหม?"

เซี่ยอันนาคิดในใจโถ่พี่สาวทำไมเธอจะทำไม่ได้? ต่อให้ไม่เป็นก็เรียนรู้ได้ เธอยืนขึ้นและพูดกับเสี่ยวอวี้หลินอย่างภาคภูมิใจว่า " เป็นสิ ดูถูกฉันหรอ"

"เป็นก็เป็น ไปเถอะ"เสี่ยวอวี้หลินจับหัวของเซี่ยอันนาและพูดด้วยรอยยิ้ม

เพื่อนของเสี่ยวอวี้หลินที่เห็นก็ตกตะลึง เสี่ยวอวี้หลินกลายเป็นคนอ่อนโยนตั้งแต่เมื่อไหร่?

กับชวีเวยก่อนหน้านี้ก็ไม่เป็นแบบนี้นิ?

ทุกคนคิดว่าเซี่ยอันนาเป็นเพียงนักเรียนสาวที่เสี่ยวอวี้หลินคบเล่น แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า......ดูเหมือนจะไม่ใช่แบบนั้น

"เห่ย เสี่ยวเซ่า ผู้หญิงคนนี้คือใคร?"

ชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่ตรงกลางถาม "ก็แค่ผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่ง" เสี่ยวอวี้หลินพูดและมองไปทางเซี่ยอันนาที่กำลังย่างบาร์บีคิว

ผู้หญิงเหล่านั้นบางคนรู้จักเสี่ยวอวี้หลิน เขาไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนพิเศษสำหรับเสี่ยวอวี้หลินมาก่อน ทุกคนก็เต็มไปด้วยความอิจฉา

เสี่ยวอวี้หลินกำลังคุยกับเพื่อนของเขา แต่สายตาของเขาจ้องมองไปที่เซี่ยอันนา

เด็กสาวโง่ๆคนนั้นเอาแต่จ้องมองไปที่อาหาร แววตาที่มองอาหารเต็มไปด้วยประกาย เสี่ยวอวี้หลินรู้สึกอิจฉาอาหารเหล่านั้น ทำให้เซี่ยอันนาจ้องจนไม่ขยับ

ทำไมตัวเองไม่เป็นแบบนั้นบ้าง?

เสี่ยวอวี้หลินไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงรู้สึกแบบนี้ในใจ......

"เสี่ยวเซ่า มาเล่นเถอะ ให้กลุ่มสาวๆย่างกันเองเถอะ" หนึ่งในนั้นหยิบไพ่ป๊อกออกมาและพูดขึ้น

"อืม" เสี่ยวอวี้หลินมองไปเซี่ยอันนาที่ยังคงย่างอยู่คนเดียวและตอบเพื่อน

"ฉันไม่เล่นนะ รู้สึกหิว จะไปย่างอะไรกินซะหน่อย" ชายที่พูดอยู่ในชุดลำลองและเป็นคนที่เพิ่งให้แก้วไวน์กับเสี่ยวอวี้หลิน

"ตงจื่อ? แกไม่เล่นหรอ?" เสี่ยวอวี้หลินถาม

"ฉันหิวนิดหน่อย ไปหาไรกินก่อน" ตงจื่อยิ้มและเดินไปที่เตาย่างบาร์บีคิว

เสี่ยวอวี้หลินหันไปมองและพูดว่า "โอเค นายน้อยแจกไพ่"

ตงจื่อหยิบอาหารแล้วบางส่วน กะว่าจะไปปปิ้งย่างบาร์บีคิวเพื่อกินคนเดียว แต่เมื่อเดินผ่านเซี่ยอันนา ก็เห็นว่าบาร์บีคิวที่เซี่ยอันน่ย่างนั้นเละเทะไปหมด

ตงจื่อเหล่ตามอง รู้เลยว่าผู้หญิงคนนี้ย่างไม่เป็น

ตงจื่อวางของลงและถามเซี่ยอันนา "ให้ช่วยไหม?" จากนั้นเขาก็หยิบผักของเซี่ยอันนาที่ยังไม่ได้ย่างขึ้นมาแล้ววางไว้บนเตาย่าง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ