เซี่ยอันน่านอนหลับลึกมากไม่ตื่นเลยตลอดทั้งคืน
แต่เธอมาอยู่กับเสี่ยวอวี้หลินได้ยังไง แถมเธอยังใส่เสื้อผ้าของเขา เมื่อวานเกิดอะไรขึ้นกันแน่
เซี่ยอันน่าดันประตูออกไปด้วยความโกรธ เธอตั้งใจจะไปถามเขาซึ่งๆหน้า
เสี่ยวอวี้หลินกำลังอ่านหนังสือพิมพ์อยู่บนโต๊ะ เมื่อได้ยินเสียงคนเดินมาเขาก็มองเธออย่างไม่เร่งรีบ
และเพราะสายตาอย่างนั้นทำให้เซี่ยอันน่าตะลึงทันที
“เสี่ยวอวี้หลินทำไมขอบตาคุณดำขนาดนั้น”
เขามองไปที่เซี่ยอันน่าอย่างไม่พอใจ
และสายตอนนี้ก็ทำให้เธอตัวสั่นขึ้นมา เธอรู้สึกแปลกๆ
หรือเธอมองผิดไป เธอพยายามให้กำลังใจตัวเองและถามว่า “เสี่ยวอวี้หลินฉันถามว่าทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่”
“เธอเมา”
“ทำไมไม่ไปส่งฉันที่โรงเรียน”
“เพราะฉันต้องรอใครบางคนขอโทษฉันก่อน”
เสี่ยวอวี้หลินกุมมือตัวเองอย่างแน่วแน่ และมองตรงไปที่เธอ
แต่เซี่ยอันน่ากลับไม่เข้าใจ เธอขมวดคิ้วถาม “นี่อะไร”
เสี่ยวอวี้หลินหยิบรูปหลายรูปบนโต๊ะขึ้นมาและพูดว่า “นี่เป็นหลักฐาน คุณดูดีๆ”
“หลักฐานอะไร”
“เซี่ยอันน่าคุณแกล้งจำความเสื่อมหรอ คราวที่แล้วคุณเป็นคนบอกเอง คุณให้ผมไปหาหลักฐานว่าตัวเองบริสุทธิ์ ตอนนี้ผมหาได้แล้ว คนที่จัดฉากว่าเป็นมือที่สามคือผู้หญิงในรูป”
เธอมองไปก่อนจะมีสีหน้าสลดลง
คือวู่จิ่ง...
เมื่อเห็นเซี่ยอันน่าไม่ตอบกลับมา เสี่ยวอวี้หลินจึงถามว่า “รู้จักไหม”
เซี่ยอันน่าพยักหน้า “รู้จัก พวกเราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น แต่ฉันก็คิดไม่ถึงว่าเธอจะใช้วิธีนี้มาทำร้ายฉัน”
สายตาของเสี่ยวอวี้หลินดุร้ายขึ้นมา “กล้าข่มเหงคุณหรอ คนคนนี้ปล่อยให้ผมจัดการเอง”
“คุณจะทำอะไร”
“สั่งสอนเธอน่ะสิ ให้เธอรู้ว่า ถ้ายุ่งกับคนของผมจะเป็นยังไง”
เซี่ยอันน่ารีบพูดแก้ “ใครเป็นคนของคุณกัน คุณก็เป็นคุณ ฉันก็คือฉัน”
“นี่คุณเข้าใจผิดหรือเปล่า หรือว่าลืมไปแล้วว่าคุณต้องขอโทษผม”
“คือ....”
เซี่ยอันน่าเริ่มมองไปที่อื่น
เสี่ยวอวี้หลินกอดอกกดดัน “ผมรออยู่นะ รีบขอโทษสิ”
โอเค ในเมื่อทำผิด การขอโทษก็เป็นสิ่งที่สมควรทำ ไม่มีอะไรน่าอาย
เซี่ยอันน่าหายใจเข้าลึกๆและก้มหน้าพูดว่า “เรื่องคราวก่อน ฉันขอโทษ”
เสี่ยวอวี้หลินรออีกพักนึง เมื่อไม่เห็นเธอพูดอะไรต่อ เขาจึงถามว่า “แค่นี้หรอ”
“คุณจะเอาอะไรอีก ต้องคุกเข่าเลยไหม”
“ไม่ต้อง แค่มาจุ๊บผมหนึ่งทีก็พอ”
ระหว่างพูดเขาก็แตะที่แก้มตัวเองด้วย
เซี่ยอันน่าโกรธจนหน้าแดง “เสี่ยวอวี้หลิน”
“พอแล้วผมแค่ล้อเล่นเอง มานั่งกินข้าวสิ”
เธอไม่มีอารมณ์กินอาหารเช้า ถามว่า “คุณยังไม่บอกเลยว่าจะจัดการวู่จิ่งยังไง”
หลังจากจิบกาแฟแล้ว เขาก็พูดว่า “ผู้หญิงคนนี้จิตใจโหดร้าย ปล่อยไว้ก็มีแต่หายนะ เธอไม่มีทางซาบซึ้งกับความใจอ่อนของคุณหรอก ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผม จะไม่มีปัญหาในอนาคตแน่นอน”
“ไม่ นั่นมันใจร้ายเกินไปแล้ว”
“ตอนที่ผู้หญิงคนนั้นคิดจะทำร้ายคุณ ยังไม่คิดถึงความโหดร้ายเลย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอทำอย่างนั้นกับคุณ ไม่จำเป็นต้องเมตตากับคนแบบนี้”
“แถมถ้าคุณไม่จัดการเธอ เธอต้องหาวิธีมาฆ่าคุณแน่ หรือว่าคุณอยากจะลองอีกครั้งหนึ่งล่ะ”
“ถึงอย่างนั้นก็อย่าให้ถึงกับต้องฆ่ากันเลย”
“เซี่ยอันน่าคุณคิดอะไรอยู่ ตอนนี้ทุกอย่างมีกฏหมายในเมื่อสามารถใช้อำนาจจัดการปัญหาได้ ทำไมผมต้องฆ่าคนด้วย”
เซี่ยอันน่าตะลึง “ก็คุณบอกเองว่าจะไม่ทำให้เธอเป็นปัญหาในอนาคต”
“ผมแค่จะไปขู่ผู้หญิงคนนั้น ให้เธอกลัว ไม่กล้ามายุ่งกับคุณอีก”
“แค่นี้อ่ะนะ”
“ใช่น่ะสิ ไม่งั้นจะทำยังไงล่ะ”
เซี่ยอันน่าถอนหายใจออกมา และจ้องไปที่เขาอย่างไม่พอใจ “คุณพูดให้มันชัดเจนตั้งแต่แรกไม่ได้หรือไง”
“ถ้าพูดให้ชัดตั้งแต่แรกจะได้แกล้งคุณได้ยังไง”
“เสี่ยวอวี้หลิน”
“พอแล้วเมื่อวานก็เมา ตอนนี้คุณน่าจะปวดหัวมาก มากินโจ๊กสิ”
เขาเอาโจ๊กมาวางไว้ตรงหน้าเซี่ยอันน่า ด้วยท่าทางอ่อนโยน
เซี่ยอันน่าตั้งใจไม่มองหน้าเขา หยิบช้อนขึ้นมาชิม
“โจ๊กนี้รสชาติไม่เลว”
เซี่ยอันน่าขมวดคิ้วถาม “เสี่ยวอวี้หลิน คุณทำเองหรอ”
“ใช่สิ”
“ดูไม่ออกเลย ที่แท้คุณก็ไม่ได้ไร้ประโยชน์ขนาดนั้น”
“ถ้าคุณมองดีๆ คุณจะรู้ว่าผมมีอะไรอีกเยอะ”
เสี่ยวอวี้หลินเปลี่ยนเป็นอ่อนโยน จนเซี่ยอันน่าแทบจะสำลักโจ๊ก
หลังจากกินโจ๊กเสร็จ เซี่ยอันน่าก็ยกมือเช็ดริมฝีปากและพูดว่า “ฉันขี้เกียจจะมองแล้ว ฉันกินเสร็จแล้ว ฉันจะกลับโรงเรียน”
“โอเคผมจะไปส่ง”
ตอนแรกเซี่ยอันน่าก็คิดจะปฏิเสธ แต่เธอรู้ว่าถึงปฏิเสธไป เขาก็จะหาวิธีเอาชนะเธออยู่ดี เธอจึงไม่เปลืองแรงพูด
เซี่ยอันน่ากลับห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมจะไปโรงเรียนพร้อมกับเสี่ยวอวี้หลิน
ก่อนออกมาเธอเห็นกล่องบนชั้นวางที่คุ้นตามาก
ข้างบนเป็นแบรนด์เครื่องประดับที่เธอกับเสี่ยวอวี้หลินเห็นในห้างเมื่อไม่กี่วันก่อน
วินาทีนั้นเซี่ยอันน่าก็รู้สึกถึงน้ำที่ไหลลงมาจากตา เธอตกตะลึง หลับตาลงเพื่อที่จะข่มความรู้สึกในใจ
เซี่ยอันน่าอย่าคิดว่าที่เขาทำดีกับเธอเพราะว่าเขาชอบเธอ เธอเป็นแค่ของเล่นของเขา เธอต้องเจียมตัว
.....
เมื่อกลับมาถึงโรงเรียนเซี่ยอันน่าก็เหนื่อยล้ามาก
ฉีฉีมองลงมาจากเตียง พลางกำลังจะถามอะไรบางอย่าง แต่เธอก็เห็นรอยบนคอของเธอ จึงอดหัวเราะออกมาไม่ได้
“เซี่ยอันน่าเมื่อวานเธออยู่กับเสี่ยวอวี้หลินหรอ”
“เธอรู้ได้ยังไง”
“ฉันไม่ใช่รู้แค่นี้นะ ฉันยังรู้ว่า เมื่อวานเธอมีรอยจูบด้วย”
เซี่ยอันน่าหน้าแดงขึ้นมา “อย่าพูดมั่วๆ”
“ฉันไม่ได้พูดมั่ว คำตอบอยู่บนตัวเธอแล้ว”
“อะไรนะ”
จากนั้นเธอก็เดินจากไป ก่อนที่วู่จิ่งจะเห็นซู่เฉียวเฉียวยืนรอตัวเองอยู่
“เมื่อกี้พวกเธอสองคนคุยอะไรกัน”
ที่แท้ซู่เฉียวเฉียวก็เห็น
วู่จิ่งยักไหล่ “ผู้หญิงบ้านั่นมาขู่ฉัน ปีกกล้าขาแข็งจริงๆ”
“แปลก ทำไมต้องขู่เธอด้วย”
“เธอบอกว่าเธอมีหลักฐานว่าฉันทำร้ายเธอ แต่ถึงจะมีหลักฐานแล้วยังไง แค่ฉันพูดออกไปเธอก็ไม่มีทางทำอะไรฉันได้อยู่แล้ว”
วู่จิ่งดูมั่นใจมาก แต่ซู่เฉียวเฉียวกลับคิดอยู่นาน “เซี่ยอันน่าคนเดียวทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว แต่ถ้าเสี่ยวอวี้หลินมาช่วยเธอล่ะ เธอต้องระวังหน่อยนะ”
“อย่าบอกนะว่าเสี่ยวอวี้หลินจะลงมือกับฉัน”
“ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ เพียงแค่เซี่ยอันน่าอ้อนเขา เขาต้องช่วยแน่นอน”
วู่จิ่งกัดฟัน “นังผู้หญิงอสรพิษ งั้นตอนนี้ฉันควรจะทำยังไงดี”
“เธอลาไปก่อน กลับไปซ่อนตัวที่บ้านสักพัก”
คำพูดนี้ทำให้วู่จิ่งหงุดหงิด “ทำไมเธอก็พูดอย่างนี้”
“มีคนเคยพูดแบบนี้ด้วยหรอ”
“เซี่ยอันน่า”
เธอตะลึง ทันใดนั้นความคิดของซู่เฉียวเฉียวก็เปลี่ยนไป
“วู่จิ่งพวกเราอย่าทำให้เธอได้ใจ เธอก็แค่อีตัวคนหนึ่ง เสี่ยวอวี้หลินก็แค่หลงเธอเท่านั้น สบายใจเถอะมีฉันอยู่ ฉันจะไม่ยอมให้เซี่ยอันน่าทำอะไรเธอแน่”
วู่จิ่งยิ้มอย่างพอใจ “ขอบใจนะเฉียวเฉียว”
“ยังต้องเกรงใจอะไรกันอีก ถ้ามีอะไรก็รีบบอกฉันทันที ฉันจะได้คิดวิธีช่วย”
“โอเค”
เมื่อคุยกันจบทั้งสองคนก็ไปโรงอาหาร ทั้งคู่ทั้งพูดทั้งหัวเราะราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
.....
อากาศเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ ถ้าไม่มีอะไร เซี่ยอันน่าก็มักจะนอนอ่านหนังสืออยู่ที่หอ ไม่ออกไปเดินข้างนอก
ขณะที่เธอกำลังสะลืมสะลือจะหลับนั้น ฉีฉีก็วิ่งเข้ามา เปิดประตูและตะโกนเสียงดังว่า “เซี่ยอันน่า เซี่ยอันน่ารีบไปดูบอร์ดโรงเรียนเร็ว”
เซี่ยอันน่าขี้เกียจไปฟังเรื่องไม่เป็นเรื่อง เธอจึงส่ายหน้า “ฉันไม่ไป มีอะไรสำคัญกัน”
“เรื่องใหญ่มาก แถมยังเกี่ยวข้องกับเธอด้วย ไม่อย่างนั้นฉันจะเรียกเธอไปดูทำไมรีบมาเร็ว”
ตอนแรกเซี่ยอันน่าไม่อยากไป แต่ก็ทนต่อคำรบเร้าของฉีฉีไม่ได้ จากนั้นเธอยังถูกลากไปที่บอร์ดด้วย
เมื่อได้เห็นข่าวนี้เซี่ยอันน่าก็ขยี้ตาอีกครั้ง ตัวเองไม่ได้มองผิดไปใช่ไหม
“วู่จิ่งโกงข้อสอบ ทำให้โรงเรียนเสียภาพลักษณ์ ดังนั้นจึงมีมติไล่เธอออก”
ถ้าไม่ใช่เพราะอยู่ในที่สาธารณะ ฉีฉีก็อยากหัวเราะออกมาเสียงดัง
เธอกอดอกและพูดว่า “ฟ้ามีตาจริงๆ คนเลวก็สมควรแล้วที่จะโดนอย่างนี้”
เซี่ยอันน่ารีบตีแขนของฉีฉีและพูดว่า “ฉีฉี เสียงเบาหน่อย อย่าทำเหมือนวู่จิ่งเป็นศัตรูเธอสิ”
“แล้วไม่ใช่รึไง เธอเอาแต่หาเรื่องเธอ แถมยังยุ่งกับฉันด้วย แต่ช่วงนี้ไม่มีสอบนี่นา หรือว่าเป็นการสอบก่อนหน้านี้ ในเมื่อจับได้แล้วทำไมไม่ประกาศให้เร็วกว่านี้”
ฉีฉีพูด ทำให้เซี่ยอันน่าจมอยู่กับความคิดตัวเองทันที
เธอคิดถึงคำพูดของเสี่ยวอวี้หลินในวันนั้นขึ้นมา หรือว่านี่จะเป็นฝีมือของเสี่ยวอวี้หลิน
เธอกัดริมฝีปากและขมวดคิ้วมุ่น
“เซี่ยอันน่า ทำไมเธอไม่พูดอะไร”
เซี่ยอันน่ารีบดึงสติกลับมาและพูดว่า “แล้วต้องพูดอะไรล่ะ”
“ความสุขในความโชคร้ายไง”
เธอมองฉีฉีอย่างหมดคำจะพูด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ
ขอบคุณแอดค่ะ...สนุกค่ะ......
สนุก...