มู่ยู่วฉีอยากจะวิ่งตามไป แต่เพราะกระเป๋าเดินทางของเขาใหญ่เกินไป ทำให้ตามไปไม่ทัน
เมื่อซีซีเดินถึงห้อง
"อยากตามตื้อไม่เลิกดีนักใช่ไหม งั้นก็รอดูแล้วกัน!”
หลังจากพักผ่อนเสร็จ ทุกคนก็เตรียมตัวออกปีนเขา
และเพราะมู่ยู่วฉีไม่มีห้องพัก จึงทำให้เขานั่งกอดกระเป๋าเดินทางตัวอย่างอยู่บริเวณโถงต้อนรับ
ผู้จัดการโรงแรมเห็นก็สงสาร และบอกเขาว่ามีห้องสำรองอยู่ สามารถเข้าไปพักได้
แต่มู่ยู่วฉีก็รีบปฏิเสธ และสั่งว่าห้ามให้คนอื่นรู้เด็ดขาดว่ายังมีห้องสำรองอยู่
ผู้จัดการงงเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ
ผู้ชายคนนี้ดูเหมือนจะไม่ธรรมดา
และก็ถึงเวลาที่ทุกคนมารวมตัว เพื่อออกเดินทาง
ซีซีเปลี่ยนเสื้อผ้า และสวมหมวก เธอทำเป็นมองไม่เห็นมู่ยู่วฉี
แต่เมื่อมู่ยู่วฉีเห็นเธอ ก็รีบเข้าไปหา และพูดว่า "ซีซี ฉันช่วยเธอถือกระเป๋านะ"
"ไม่จำเป็น"
"เธออยากดื่มน้ำไหม ฉันมีนะ อ่ะให้"
"ฉันไม่หิว"
"ทางนี้แสงแดดกำลังดีเลย เราไปเดินเล่นกัน"
ซีซีหยุดเดินกะทันหัน และบอกกับเขาว่า "เลลิกพูดมากได้แล้ว!"
มู่ยู่วฉีชูมือโอเค และทำท่ารูดซิปปาก
จากนั้นซีซีก็ออกไปรวมกลุ่มกับทุกคนเพื่อออกปืนเขา
ซีซีไม่อยากจะสนใจมู่ยู่วฉีมาก เพราะเพื่อนๆรอบตัวเธอเอาแต่แย่งกันเอาอกเอาใจ และพยายามหาเรื่องคุยกับเขา
เมื่อเห็นมู่ยู่วฉีถูกรายล้อม ซีซีจึงใชช้โอกาสนี้ไปชื่นชมธรรมชาติ และหยิบกล้องออกมาถ่ายรูป
แต่ความสงบก็อยู่ได้ไม่นาน มันถูกทำร้ายลง เพราะมู่ยู่วฉี
"เพื่อนเธอนี่คกคักกันจริงๆ กว่าจะหลุดออกมาได้ เวลาอันมีค่า ไม่ควรเสียไปเพราะพวกเขา ควรจะเอาไว้อยู่กับเธอมากกว่า ถูกไหม?"
มู่ยู่วฉีพยายามเอาใจ แต่ซีซีขี้เกียจจะตอบอะไร
ซีซีไม่ได้ตอบอะไร แต่มู่ยู่วก็ยังไม่หยุดพูด เมื่อเขาเห็นกล้องในมือเธอ เขาก็หาเรื่องคุยต่อ
ขนซีซีทนไม่ไหว ถามเขาว่า "มู่ยู่วฉี ฉันแค่อยากถ่ายรูปเงียบๆ นายอย่ากวนฉันได้ไหม!"
"งั้นฉันช่วยเธอเลือกวิว เธอดูซิ ต้นไม้เ่ก่าแก่ทางนั้นสวยมาก เธอยืนตรงนี้นะ ฉันภ่ายให้..."
"มู่ยู่วฉี!"
ซีซีตวาดลั่น มู่ยู่วฉีตกใจตาโต
ซีซีชี้หน้าเตือนเขาว่า "ถ้านายยังพร่ำไม่เลิก ฉันจะจับนายโยนลงเขา!"
มู่ยู่วฉีพยักหน้าหงึกๆ
จากนั้นมู่ยู่วฉีก็ไม่พูดอะไรอีก เอาแต่เดินตามหลังซีซีอย่างเงียบๆ
แต่ถึงเขาจะไม่พูด ซีซีก็ยังรู้สึกเบื่อหน่ายที่เขาเอาแต่เดินตาม
จิ๊บๆๆ
เสียงนกน้อย ดึงความสนใจของซีซี
นกน้อยตัวสีฟ้า มีขนเรียงเป็นชั้นๆ และเป็นระเบียบ สวยงามจริงๆ
ซีซีอดใจไม่ไหวอยากจะถ่ายรูปเก็บไว้
เพื่อไม่ให้รบกวนนกน้อย เธอจึงค่อยๆขยับเข้าไปใกล้
แต่เพราะนกตัวนั้นค่อนข้างอยู่ห่างจากเธอ เธอจึงเหยียบหินเพื่อข้ามลำธารไป
แต่เพราะหินลื่นมาก จึงทำให้ซีซีจะล้ม
"ระวัง!"
มู่ยู่วฉีรีบเอื้อมมือไปคว้าเธอมาอยู่ในอ้อมกอด
ซีซีเงยหน้าขึ้น ก็เห็นใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา
ใบหน้าเช่นนี้ ยากมากที่จะไม่ทำให้ใจสั่น
ตึกตักๆๆๆ
ซีซีใจเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ
เธออยากทำสั่งให้ใจเธอสงบลง แต่เหมือนเธอจะควบคุมไม่ได้
ไม่ได้ๆ จะหลงเสน่ห์ของเขาไม่ได้
ซีซีรีบผละออกจากอ้อมกอดของมู่ยู่วฉี และเตรียมจะเดินไป
แต่เมื่อเธอเดิน ก็รู้สึกเจ็บแปลบๆที่เท้า
มู่ยู่วฉีถามอย่างเป็นห่วงว่า "ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?"
"ซีซีส่ายหน้าเบาๆ "ไม่เป็นไร"
ท่าทางแบบนี้ ยังจะไม่เป็นอะไรอีกเหรอ?
มู่ยู่วฉีอุ้มเธอขึ้นโดยไม่สนใจเสียงต่อต้านและท่าทางขัดขืนของเธอ จากนั้นเขาก็ค่อยๆวางเธอลงบนโขดหินใหญ่อย่างระมัดระวัง
เมื่อเห็นมู่ยู่วฉีกำลังจะจับข้อเท้า ซีซีก็ห้ามและถามว่า "นายจะทำอะไร!?"
"ช่วยเธอดูไง" จากนั้นเขาก็ค่อยๆจับข้อเท้าซีซีอย่างเบามือ "เจ็บตรงนี้เหรอ?"
ซีซีส่ายหน้า "ไม่ปวด"
"งั้นตรงนี้ล่ะ?"
"นิดหน่อย"
"นี่ล่ะ?"
"โอ๊ย เจ็บ!"
"อื้ม น่าจะแค่ฟกช้ำ กระดูกและข้อไม่ได้เป็นอะไร วันสองวันก็ดีขึ้น ไม่ต้องกลัวนะ"
"ฉัน..ไม่ได้กลัวซะหน่อย"
มู่ยู่วฉีเงยหน้าขึ้น ก็เห็นซีซีที่กำลังจ้องมาด้วยสายตาอ่อนโยน
สายตาแบบนี้ นานมากแล้วที่มู่ยู่วฉีไม่ได้เห็น
ทั้งสองจ้องตากัน และใจเต้นแรงขึ้น
ซีซีตั้งสติได้ก็ลุกลี้ลุกลน และรีบหลบตา
แต่ก็ไม่ทัน เพราะมู่ยู่วฉีเหมือนจะเห็นอะไรบางอย่างแล้ว
มู่ยู่วฉีกระตุกยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะถามยียวนว่า "ซีซีทำไมเธอหน้าแดงแบบนั้นล่ะ"
ซีซีรีบตอบกลับว่า "วันนี้อากาศร้อน หน้าก็เลยแดง"
"จริงเหรอ?"
"ไม่งั้นจะอะไรล่ะ? ไอหยา อย่าใกล้ฉันขนาดนั้นได้ปะ รังเกียจจะแย่!"
ซีซีพูดจบ ก็ผลักเขาออก ท่าทีเบื่อหน่าย
ถึงแม้จะโดนเธอผลักออก แต่มู่ยู่วฉีกลับยิ้มกว้างกว่าเดิม "ซีซี เวลาเธอเขินนี่น่ารักจังเลย"
ซีซีหน้าแดงยิ่งกว่าเดิม เธอจึงแกล้งโมโหใส่ว่า "ใครเขินิ อย่ามาพูดมั่วซั่ว"
"อย่าปฏิเสธเลย เธอเขินฉัน แปลว่าในใจเธอยังมีฉัน"
"นิสัยแย่ๆของนายเมื่อไหร่จะเปลี่ยนสักที"
"ชาตินี้น่าจะแก้ไม่ได้แล้วล่ะ"
"นาย...."
"มา ฉันแบกเธอลงเขา"
พูดดจบ เขาก็หันหลังไปนั่งยองๆ
ซีซีรีบปฏิเสธ "ไม่เอา ฉันเดินเองได้"
"อย่าฝืนเลย ถ้าเธอยิ่งฝืนเดินลงเข้า ข้อเท้าอาจจะบวมขึ้น จนทำให้เดินไม่ได้ไปหลายวัน แล้วทริปมาเที่ยวของเธอก็กลายเป็นหมัน โกรธฉัน แต่ทำร้ายตัวเอง แบบนี้มันคุ้มไหม?"
ซีซีเงียบฟัง
จากนั้นเขาก็บไหล่ตัวเอง และพูดว่า "ขึ้นมาเถอะ เธอว่าไม่ได้รู้สึกอะไรกับฉันไม่ใช่เหรอ งั้นก็คิดซะว่าฉันคือคนจิตใจดีที่ช่วยเหลือคนอื่นแล้วกัน แต่ถ้าเธอยังเอาแต่ปฏิเสธ ฉันจะคิดแล้วนะว่าเธอมีใจ"
ซีซีขึ้นไปบนหลังเขาอย่างไม่เต็มใจ
ไหล่กว้างๆของเขาอุ่นมาก แนบกับหลังเขาแบบนี้แล้วรู้สึกอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก
ซีซีไม่เสแสร้งใดๆต่อไปอีก เธอหลับตาลง และปล่อยให้เขาพาไป
ทางข้างหน้าจะไปที่ไหนเธอไม่สนใจ ขอแค่ได้เดินไปกับเขา จนแก่จนเฒ่าก็พอ
"ข้างหน้าก็โรงแรมแล้ว ถ้าเธออยากลงมาเดินเอง ฉันไม่ขัด"
ฝันจะดีแค่ไหน แต่ถึงเวลาก็ต้องตื่น
ซีซีรีบเปลี่ยนตัวเองมาเย็นชาอีกครั้ง "ฉันต้องเดินเองแน่นอน"
มู่ยู่วฉีค่อยๆวางเธอลง และหันกลับมามอง
"เมื่อกี้ยังเป็นลูกแมวเชื่องอยู่เลย ทำไมตอนนี้เปลี่ยนเป็นแบบนี้อีกแล้วล่ะ"
ซีซีแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินที่เขาพูด จากนั้นค่อยๆกระเผลกๆเดินไปข้างหน้า
มู่ยู่วฉีจะเข้าไปประคองเธอ แต่ก็ถูกซีซีสะบัดออก
ได้พักเมื่อกี้ ทำให้ข้อเท้าไม่ได้ปวดมากแล้ว ยังพอสามารถค่อยๆเดินเองได้
แต่มู่ยู่วฉีก็ยังรู้สึกสงสารจับใจ
มู่ยู่วฉีรู้ดีว่าถ้าเขาพุดอะไรบางอย่างไป ยิ่งจะทำให้ซีซีหนีเขาไปไกลกว่าเดิม เพราะฉะนั้นเขาจึงทำได้แค่คอยอยู่ข้างหลังเธอแบบนี้ เผื่อเกิดอะไรขึ้นเขาจะได้ช่วยเหลือได้
ทั้งสองเดินไปเงียบๆ ไม่มีใครพูดอะไรออกมา
เพื่อนคนอื่นๆยังคงปีนเขาอยู่ ในที่พักจึงเหลือแค่เจ้าของนั่งหน้าคอมพ์และกำลังดูรายการวาไรตี้อยู่
เมื่อเห็นซีซีเดินกะเผลกมา เขาก็รีบถามว่า "นี่ ได้รับบาดเจ็บที่เท้าเหรอ?"
"ใช่ค่ะ ซวยจริงๆ"
"ฉันมียาทาอยู่ ยาดีมาก คุณลองดู"
"โอเคค่ะ ขอบคุณมากค่ะ"
เมื่อเธอหันหลังไปพบกับมู่ยู่วฉี เธอขมวดคิ้วและถามว่า "มู่ยู่วฉี นายเดินตามฉันมาทำไม?"
"มาช่วยเธอทายาไง ตอนนี้เธอได้บาดเจ็บ ต้องการคนดูแล"
"ไม่ต้อง ฉันทาเองได้ ไม่ต้องให้นายมายุ่ง"
"แต่ว่า...."
ซีซีพูดแทรกขึ้น "อย่านึกว่าฉันไม่รู้ว่านายกำลังคิดอะไร ฉันไม่ให้นายมีโอกาสเข้าห้องได้แน่"
เมื่อได้ยินดังนั้น มู่ยู่วฉีก็อยากจะร้องไห้
"ซีซี ฉันช่วยเธอขนาดนี้แล้ว เธอจะไม่ให้ฉันไปเบียดด้วยสักคืนเลยเหรอ?"
"ช่วยฉัน? ถ้านายไม่เอาแต่ตามฉัน ฉันคงไม่รู้สึกเซ็งและไม่ระวังตัว จนเท้าบาดเจ็บหรอก? ฉันไม่ได้คิดบัญชีกับนายก็ดีแค่ไหนแล้ว!"
"ซีซี อย่ามองโลกแง่ร้ายขนาดนั้นซิ"
"เหอะๆ คนอย่างท่านประธานแห่งงมู่จื่อกรุ๊ป หาที่นอนไม่ได้? เลิกแสร้งทำท่าทางน่าสงสารต่อหน้าฉันได้แล้ว!"
"เธอจะไม่ช่วยฉันเหรอ?"
"ไม่ช่วย!!"
มู่ยู่วฉีถอนหายใจ และพูดว่า "งั้นก็ได้ ฉันจะหาวิธีเอง ไม่รบกวนใจเธอ"
พูดจบ มู่ยู่วฉีก็หันหลังเดินกลับไปที่โถงรับแขก นั่งก้มหน้า ดูท่าทางน่าสงสาร
เห็นแบบนี้แล้วซีซีรู้สึกใจอ่อน
ขณะที่เธอกลับห้อง ก็คิดว่าเธอทำเกินไปหรือเปล่า อากาศตอนกลางคืน ในหุบเขาแบบนี้หนาวมากๆ ถ้าเขาไม่สบายจะทำอย่างไรดี?
ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งสับสน และขณะที่กำลังชั่งใจว่าจะเดินไปดูมู่ยู่วฉีสักหน่อยดีไหม ก็มีเสียงฮือฮาดังมากจากข้างนอก
ซีซีแปลกใจ และเดินไปดูตรงหน้าต่าง จากนั้นเธอก็ช็อกยืนนิ่ง
ตรงนั้นมันอะ...อะไรกันเนี่ย!?
ซีซีเดินออกจากห้อง ค่อยๆกะเผลกไปที่ลานกว้าง
รอบๆนั้นมีกลุ่มนักศึกษารุมดูอยู่
ถ้ามองไม่ผิดละก็ น่าจะเป็นเต้นท์
ดูแล้วค่อนข้างดี และใหญ่มาก ข้างในเต้นท์น่าจะนอนได้สี่ถึงห้าคนเลยทีเดียว ของใช้ข้างในก็ครบครัน มีแม้กระทั่งเตาปิ้ง
"ฟู้ว ในที่สุดก็กางเส็จแล้ว"
ขณะที่ซีซีดูอยู่นั้น ก็มีคนหนึ่งเดินออกมา
มู่ยู่วฉี!?
ที่แท้เต้นท์นี่เป็นฝีมือของเขาเองเหรอเนี่ย
และเมื่อมู่ยู่วฉีเห็นซีซี เขาก็เดินเข้ามาหาและพูดว่า "ซีซีเข้ามาดูซิ ฉันกางตั้งนานกว่าจะเสร็จ"
ซีซีเบือนหน้าหนี "ใครอยากจะดู ไม่น่าสนใจ"
เธอไม่สนใจ แต่คนอื่นกลับสนใจมาก
"เจ๋งสุดๆไปเลย เหมือนบ้านหลังเล็กๆเลย อะไรก็มีครบ"
"ของแบรนนด์นี้แพงมากเลย แค่หลอดไฟเล็กๆนั่นก็น่าจะหลักหมื่น"
"ว้าว ของข้างในข้างนอกเต้นท์นั่น ราคารวมๆแล้วน่าจะพอซื้อบ้านเเล็กๆได้หลังหนึ่งเลยมั้ง?"
"ฉันว่ายังน้อยไปน่ะซิ"
นักศึกษามากมายต่างพากันชื่นชมไม่หยุด แต่ซีซีกลับกรอกตาไปมา
"ถ้าทุกคนอยากเห็น สามารถเข้ามาดูได้นะ"
"จริงเหรอ? งั้นพวกเราไม่เกรงใจแล้วนะ"
ทุกคนกรู่กันเข้าไปชื่นชมข้างใน มู่ยู่วฉียิ้มและถามซีซีว่า "ซีซีเธอจะไม่เข้าไปดูจริงๆเหรอ?"
"มีอะไรน่าดู ก็แค่เต้นท์ไหมอะ"
"ถึงจะเป็นแค่เต้นท์ แต่นี่ก็เป็นที่ซุกหัวนอนของฉัน ข้างในสะดวกสบายมากเลย"
"ขนาดเต้นท์ยังพกมา คงจะเตรียมตัวมาก่อนซินะ"
"ตอนแรกฉันกะจะพาเธอออกไปกางเต้นท์ดูดาวในเขา แต่ผผิดแผนไปหน่อย เลยมาใช้ตรงนี้แทน แต่ก็นะ ยังดีกว่าไม่ได้ใช้"
มีนักเรียนคนหนึ่งได้ยินที่มู่ยู่วฉีพูด "ดูดาวเหรอ? เเป็นความคิดที่ไม่เลวเลย บนภูเขาดาวต้องสวยจต้องสว่างมากแน่ๆ"
"อื้มๆๆ ฉันเคยได้ยินมาว่าที่นี่มองเห็นดาวเต็มท้องฟ้าเลย สวยมากๆด้วย"
"ก็บอกแล่วไงว่าไม่กิน"
มู่ยู่วฉีกำลังจะพูดอะไรต่อ แต่ก็ได้ยินเสียงคนข้างหลังดังขึ้น
"ยาๆ ตรงนี้มีแตงโมนี่นา ของใครเนี่ย กินได้ไหม?"
"ไม่ได้ๆ อันนั้นฉันเก็บไว้ให้ซีซี" มู่ยู่วฉีตอบทันควัน จากนั้นก็ดึงมือซีซีไป และพูดว่า "เห็นไหม ถ้าเราไม่กินคนอื่นก็มากินนะ เร็วๆๆๆ รีบไปกินกัน"
"ฉันไม่ไป ปล่อยมือเดี๋ยวนี้!"
ซีซีอยากจะสะบัดเขาออก แต่เพราะมู่ยู่วฉีแรงเยอะกว่า เดินไม่กี่ก้าวก็ลากเธอมาถึงหน้าโต๊ะได้
เมื่อเห็นรุมอยู่ มู่ยู่วฉีก็พูดขึ้นว่า "ไม่ต้องมองแล้วๆ นี่คืของซีซี พวกเธอไม่ต้องอยากล่ะ"
ทุกคนหัวเราะเล็กน้อย ก่อนจะแยกย้ายกันไป
ซีซีได้โอกาสจะค่อยๆหนีไป แต่ก็ไม่รู้ว่ามู่ยู่วฉีไปเอามีดมาจากไหน มายื่นตรงหน้าเธอ และพูดว่า"มาพวกเรามาผ่ามันกัน"
ซีซีตกใจเล็กน้อยจนถอยหลังไปสองก้าว
"มู่ยู่วฉี วางมีดลงก่อนค่อยพูด"
"โอเค"
พูดจบ เขาก็หั่นฉับแตงโม จนแยกเป็นสองส่วน
แต่เพราะมู่ยู่วฉีแรงเยอะไป ทำให้โต๊ะสั่นอย่างแรง
"มู่ยู่วฉีนายทำเบาๆได้ไหม ดูซิโตีะจะพังเพราะนายอยู่แล้ว"
"ไอหยา ก็แค่โต๊ะเก่าๆตัวหนึ่งจะระวังอะไรหนักหนาล่ะ"
พูดจบเขาก็ยื่นแตงโมที่หั่นแล้วให้ซีซี "รีบกินเถอะ"
ซีซีได้กลิ่นหอมหวานของแตงโมก็อดใจไม่ไหว และยื่นมือไปรับมา
แต่ยังไม่ทันที่แตงโมจะได้เข้าปาก ทันใดนั้นก็มีเสียงตะโกนของคนคนหนึ่งดังขึ้นข้างหัง
"พวกเธอกินอาหารบนโต๊ะนั้นได้อย่างไร!"
สิ้นเสียง ซีซีก็เห็นเงาคนปรี่เข้ามานั่งข้างๆโต๊ะ จากนั้นก็ค่อยๆลูบและมองโต๊ะด้วยสายตาเจ็บปวด
เจ้าของโรงแรมขว้างแตงโมลงพื้น และค่อยๆเช็ดโต๊ะ
มู่ยู่วฉีไม่ชอบใจพูดขึ้นว่า "คุณให้แตงโมกับผมแล้ว เพราะฉะนั้นนั่นเป็นของของผม ถ้าผมไม่อนุญาต คุณก็ไม่มีสิทธิมาขว้างของผม!"
เจ้าของโรงแรมไม่ได้สนใจคำพูดของมู่ยู่วฉีแม้แต่น้อย เขายังคงจ้องโต๊ะนั้นตาเขม็ง ทันใดนั้นก็หยุด
"นี่..นี่..ข้างบนนี้เป็นรอบเพราะพวกเธอ!"
มุ่ยู่วฉียื่นหน้าไปดู ก็เห็นว่าบนโต๊ะมีรอยจริงๆ
"ก็แค่โต๊ะไหมอะ ต้องตื่นเต้นขนาดนี้เลยเหรอ?"
เจ้าของโรงแรมหันควับมาจ้องเขา และพูดว่า "นี่เป็นไม้ชิงชันอย่างดี ตัวหนึ่งราคาหลายแสน จะไม่ให้ฉันตื่นเต้นเหรอ!? อีกอย่างข้างบนก็มีป้ายบอกอยู่ว่าห้ามจับ พวกเธอไม่เห็นเหรอ?"
"มีป้ายเหรอ?" มู่ยู่วฉีมองรอบๆ จากนั้นก็เห็นป้ายๆหนึ่งอยู่ที่พื้น "ไม่รู้ว่าใครทำป้ายหล่นไปที่พื้น ฉันมองไม่เห็น"
"ฉันไม่รู้ไม่ชี้ ฉันรู้แต่ว่าพวกเธอทำโต๊ะนี้เสียหาย พวกเธอก็ต้องรับผิดชอบ!"
"เท่าไหร่?"
"อย่างต่ำๆก็ห้าหมื่น"
ซีซียืนฟังอยู่ข้างๆ อย่างใจฝ่อ เธอคิดว่าพวกเธอผิดจริงๆ และที่โดนว่าก็เป็นเรื่องปกติ
แต่ก็ไม่ควรเอาเหตุผลมาอ้างเพื่อเอาเปรียบอื่นหรือเปล่า?
ซีซีมองไปที่เจ้าของโรงแรม และพูดว่า
"ที่พวกเราทำของคุณเสียหาย พวกเราขอโทษจริงๆค่ะ โต๊ะนี่เป็นรอยนิดเดียวเท่านั้น แต่คุณเรียกร้องมาตั้งห้าหมื่น คุณคิดว่าพวกเราเสกเงินมาเองได้เหรอคะ?"
เจ้าของโรงแรมตบโต๊ะ และพูดด้วยน้ำเสียงโมโห "รอยนี่มันซ่อมไม่ได้ และส่งผลกระทบต่อราคาของมัน ที่ฉันเรียกห้าหมื่นนี่ก็ใจดีมากแล้ว"
"ใจดี? ฉันว่าหน้าเลือดมากกว่า!"
"เธอไม่เชื่อใช่ไหม งั้นเธอลองไปเดินและลองถามดู"
"ฉัน..."
ซีซีจะพูดอะไรต่อ แต่มู่ยู่วฉีก็พูดแทรกขึ้น "เอาล่ะๆ ก็แค่ห้าหมื่นเองไม่ใช่เหรอ เล็กน้อยหน่า อย่ามัวแต่ยืนเถียงกันเถียงกันมา อายคน"
ได้ยินที่มู่ยู่วฉีพูด เจ้าของโรงแรมก็ดีใจหน้าแป้น "ดูก็รู้ว่าคุรนี่แหละผ่านโลกมาเยอะ งั้นต้องการรูดบัตรหรือเงินสดดี"
"ฉัน..." มู่ยู่วฉีหยิบกระเป๋าเงินออกมา จากนั้นก็ชะงัก และหันไปกระซิบกับซีซี ว่า "ซีซีฉันเพิ่งคิดอะไรได้อย่างหนึ่ง"
"อะไร?"
"เพราะฉันอยากเป็นคนธรรมดา เลยอายัติบัตรไปหมดแล้ว"
ซีซีขมวดคิ้วและถามว่า "แล้วเงินสดล่ะ?"
"ไม่ได้พก"
"งั้นโทรหาเสี่ยววอี้หลิน ให้เขาเอาเงินมาให้นาย"
มู่ยู่วฉีส่ายหน้า "ขายขี้หน้า ไม่เอาหรอก"
"เวลาแบบนี้ถึงอายเป็นเหรอ แล้วเมื่อกี้ทำไมต้องคุยโวซะขนาดนั้น ถ้านายไม่โทร ฉันโทรหาอันน่าเอง"
ซีซีใช้โทรศัพท์สาธารณะโทรหาซีซี แต่ก็ไม่มีคนรับ
มุ่ยู่วฉีเห็นซีซีวางโทรศัพท์ลง ก็ใจแป้ว
รีบเดินเข้าไปถามเธอว่า "เธอจำเบอร์คนอื่นได้อีกไหม?"
"ไม่มีโทรศัพท์ ฉันจะไปจำได้อย่างไร"
"เง้อ งั้นทำอย่างไรดี?"
เมื่อเห็นทั้งสองซุบซิบๆกัน เจ้าของโรงแรมก็ถามขึ้นว่า "พวกเธอปรึกษากันเสร็จหรือยัง สรุปจะจ่ายยังไง?"
"คุณอย่าเพิ่งเร่งได้ไหม หามาให้ได้ก็จบแล้วใช่ไหม" ซีซีพูดจบก็คิดเล็กน้อย ก่อนจะพูดต่อว่า "นายให้นาฬิกากับทุกคนไม่ใช่เหรอ ไปเอาคืนมาสักเรือนสองเรือน เอามามัดจำก่อน"
"ของให้คนอื่นไปแล้ว จะเอามาได้อย่างไรล่ะ"
"นายไม่ไป ฉันไปเอง!"
พูดจบเธอก็พุ่งตัวออกไป มู่ยู่วฉีจะขวางไว้ก็ขวางไม่ได้
ซีซีเดินไปถามมเพื่อนรอบๆ แต่พวกเขาก็เอาแต่อึกอัก ไม่มีใครยอมคืนมาสักคน
ซีซีหมดหวังไม่รู้จะทำอย่างไรต่อ
"ตกลงพวกเธอโอเคหรือยัง?"
ซีซีทำได้แค่ตอบว่า "ตอนนี้ยังให้ไม่ได้"
เจ้าของโรงแรมยิ้มเยาะ "ฉันว่าไม่น่าใช่แค่ตอนนี้ น่าจะไม่มีปัญญาให้ตลอดไปนั่นแหละ"
ซีซีไม่พอใจมาก ที่เขาพูดแบบนี้
ดูถูกเธอยังพอทน แต่เขามาดูถูกมู่ยู่วฉีได้อย่างไร?
ซีซีเดินไปตบไหล่ของมู่ยู่วซี "คุณดูให้ดีๆนะ เขาคือทายาทของมู่จื่อกรุ๊ป คิดว่าเขาไม่มีปัญญาจ่ายเงินห้าหมื่นนั่นเหรอ?"
"มู่ยู่วฉี?"
ซีซีพยักหน้า
"ไม่เคยได้ยิน" สีหน้าเจ้าของโรงแรมไม่ค่อยเชื่อ "อย่าเอาแต่พร่ำ มาเซ็นสัญญา"
มู่ยู่วฉีและซีซีมองหน้ากัน และถามว่า "อะไร?"
"พวกเธอทำของฉันเสียหาย เงินก็ไม่มีชดใช้ งั้นพวกเธอก็มาทำงานใช้แล้วกัน สองคนน่าจะปีหนึ่งพอดี"
ซีซีโกรธจัด ตบโต๊ะเสียงดัง และพูดว่า "ล้อเล่นอะไร ติดเงินแค่ห้าหมื่นไม่ใช่เหรอ คุณต้องขนาดนี้..."
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิวาห์สายฟ้าแลบ กับคุณสามีผู้ลึกลับ
ขอบคุณแอดค่ะ...สนุกค่ะ......
สนุก...