……….
“จริงๆ ด้วยสินะ…”
หลานเซียวเบะริมฝีปากออกมา บนใบหน้างดงามมีรอยยิ้มประชดประชัน
“หากไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ สำนักหลิงเซียวคงไม่ก่อเรื่องเสียยิ่งใหญ่เช่นนี้…”
ก่อนหน้านี้ตอนที่เขารู้ว่าทางนั้นเกิดเรื่องขึ้น พวกเขาก็สามารถคาดเดาอันใดบางอย่างได้เลือนรางแล้ว
แต่ผลสรุปก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ …
“เจ้าได้ประมือกับเขาหรือ?”
ผู้อาวุโสลำดับห้าถามขึ้นอย่างร้อนรน
ตู๋กูโม่เป่าหยุดชะงักไปเล็กน้อย
“ก็ไม่นับว่าประมือ หลังจากที่ค่ายกลกระสวยสวรรค์ถูกทำลายไปแล้ว นังหนูเยว่เออร์ก็เป็นคนซ่อมแซมมัน อีกทั้งหลังจากครั้งนั้นข้าก็รีบกลับมาทันที”
ส่วนบาดแผลในครั้งนี้ เป็นเพราะเขาได้รับแรงสะท้อนกลับจากการโจมตีที่แข็งแกร่งของคู่ต่อสู้ เขายังไม่ทันได้ป้องกัน ดังนั้นจึงมีบาดแผลทิ้งเอาไว้
ยังดีที่ไม่ได้อันตรายถึงชีวิต
ผู้อาวุโสลำดับห้าและหลานเซียวล้วนตกใจเป็นอย่างมาก
“ค่ายกลกระสวยสวรรค์? เจ้าให้นังหนูเป็นคนซ่อมแซม? เจ้า…”
ขณะที่หลานเซียวกำลังพูดขึ้น ทันใดนั้นเขาก็คิดอันใดบางอย่างขึ้นมาได้ ดวงตาเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย
“นี่คงเป็นเหตุผลที่เจ้าให้นังหนูเยว่เออร์ท่องค่ายกลทั้งวันทั้งคืน”
ตู๋กูโม่เป่าเหลือบสายตามองเขาอย่างไม่แสดงอารมณ์ ในแววตาเต็มไปด้วยคำว่า “เจ้าเพิ่งเข้าใจหรือ?”
หลานเซียวรู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมาก
“เจ้าๆ! ในตอนนั้นนังหนูเพิ่งจะอายุเท่าไรเอง เจ้าก็คิดถึงขั้นนี้แล้วหรือ? ตู๋กูโม่เป่าเจ้าอายุขนาดนี้แล้ว แต่คาดไม่ถึงว่าจะเล่นกลอุบายเช่นนี้! เจ้าลองคิดดูสิในตอนนั้นนังหนูเยว่เออร์ต้องลำบากมากขนาดไหนที่จะต้องแบกรับสิ่งเหล่านี้เอาไว้? ถุ้ย! เจ้านี่ไม่ละอายใจเลยนะ!”
ในปีนั้นแม้ว่านางจะมีพรสวรรค์ยอดเยี่ยม แต่ท้ายที่สุดแล้วระดับก็ยังไม่สูงพอ อีกทั้งค่ายกลที่ตู๋กูโม่เป่าทิ้งเอาไว้ให้นั้นก็มีความสลับซับซ้อนเป็นอย่างมาก เพื่อทะลวงค่ายกลอันลึกซึ้งเหล่านั้น ในตอนนั้นนางจึงต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจไปอย่างมาก
“ถ้าไม่เช่นนั้นแล้วละก็ ภัยพิบัติของสำนักหลิงเซียวในครั้งนี้ นางไม่สามารถต่อกรได้อย่างแน่นอน”
ตู๋กูโม่เป่ามีสีหน้าราบเรียบ
“ไม่ว่าช้าหรือเร็วสำนักนี้ก็จะต้องเป็นของนาง การปกป้องหลิงเซียว เดิมทีก็เป็นหน้าที่ของนางอยู่แล้ว”
แม้ว่าตอนนี้จะดูเร็วไปหน่อย แต่เรื่องนี้มันอยู่ในแผนของตู๋กูโม่เป่ามาเป็นเวลานานมากแล้ว
เมื่อเห็นท่าทางมั่นอกมั่นใจของเขา ผู้อาวุโสลำดับห้าและหลานเซียวก็ไม่สามารถโต้เถียงได้
ท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่เขาพูดก็ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล
แม้ว่าขั้นตอนเหล่านี้จะเต็มไปด้วยความยากลำบาก แต่ว่าความตั้งใจเดิมและผลลัพธ์ก็ออกมาดีอย่างยิ่ง
เมื่อมองไปแล้ว สิ่งที่ตู๋กูโม่เป่าทำใช่ว่าจะเป็นเรื่องผิด เพียงแต่ว่า… มันรุนแรงมากเกินไป
“โรคจิต มีเพียงแต่นังหนูเยว่เออร์เท่านั้นที่จะรับเจ้าได้”
หลานเซียวมุ่ยปาก
แต่หลังจากได้ยินตู๋กูโม่เป่าพูดเรื่องเหล่านี้ ความกังวลภายในใจของพวกเขาก็ลดน้อยลงไปไม่น้อย
“มือข้างหนึ่งที่ฝังเอาไว้ใต้เขาหมื่นเมรัย ต้องรออีกสักพักถึงจะตื่นขึ้นมาอย่างสมบูรณ์”
ตู๋กูโม่เป่าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็หันมองทางคนทั้งสอง
“แต่ภายในช่วงเวลานี้ พวกเจ้าทั้งสองคนต้องรีบฟื้นคืนร่างศักดิ์สิทธิ์กลับมาให้เร็วที่สุด”
“พูดเหมือนง่าย!”
หลานเซียวเอนตัวพิงกับโซ่เหล็กด้านข้าง จากนั้นก็ยื่นมือไปเคาะโซ่เหล็กที่หนักและเย็นยะเยียบเบาๆ
“พวกเราอยู่ที่นี่มานานขนาดนี้แล้ว และเพิ่งมีแต่เจ้าที่ทำสำเร็จ อีกทั้งยังมีราคาที่ต้องจ่ายอีก…”
ตู๋กูโม่เป่ามีสีหน้ามืดครึ้ม
หลานเซียวแสร้งทำเป็นมองไม่เห็น ก่อนจะส่ายหน้า น้ำเสียงเกียจคร้าน
“ไม่เห็นครั้งที่แล้วที่ข้าทำล้มเหลวหรือ? ข้าต้องใช้ระยะเวลานานมากกว่าจะสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้… ภายในระยะเวลาสั้นๆ ข้าไม่สามารถทำได้อีกครั้งหนึ่งหรอก”
ขณะที่พูดเขาก็เงยหน้าขึ้นมาแล้วมองไปทางผู้อาวุโสลำดับห้าด้วยใบหน้าคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม
“พี่ห้า เช่นนั้นเจ้าลองไปก่อนเลย?”
ผู้อาวุโสลำดับห้าถอยหลังไปครึ่งก้าวใบหน้าเต็มไปด้วยความรังเกียจ
“พูดจาดีๆ หน่อย!”
หลานเซียวผู้นี้เป็นบ้าจริงๆ
มอบแสงอาทิตย์ให้นิดหน่อยก็ส่องสว่าง
หลังจากได้รับคำยืนยันแล้วว่าตอนที่อยู่อาณาจักรเสิ่นซวี่ตู๋กูโม่เป่าไม่ได้เปิดเผยตัวตน จนทำให้ระลอกคลื่นเกิดขึ้น
“อุ้บ”
หลานเซียวหลับตาลงแล้วโบกมือขึ้น
“ไม่ว่าอย่างใดก็ตามพวกเจ้าก็ไปจัดการเรื่องนี้กันเองเถอะ”
หากล้มเหลวอีกครั้ง ชีวิตน้อยๆ ของเขาเสียไปก็ไม่เป็นไร แต่มันเป็นไปได้อย่างมากว่าเขาจะลากทั้งสองคนลงน้ำไปด้วย
ไม่คุ้ม แบบนั้นไม่คุ้มค่าเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...