ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 1626

……….

“พวกเขาไปทำอันใดที่นั่น”

หลานเซียวขมวดคิ้วขึ้นเป็นปม

“หลายปีที่ผ่านมานี้พวกเขาหยุดแล้วไม่ใช่หรือไง เหตุใดถึงออกมาก่อความวุ่นวายอีกครั้งล่ะ”

สุสานสังหารเทพเป็นสถานที่ที่อันตรายอย่างมาก คนธรรมดาทั่วไปไม่มีทางไปที่นั่นแน่นอน

หรือแม้กระทั่งคนที่ต้องการจะสั่งสมประสบการณ์หรือค้นหาสมบัติ ก็ไม่มีทางเลือกสุสานสังหารเทพอย่างแน่นอน

ที่แห่งนั้นนอกจากซากศพที่ทับถมกันมาเป็นเวลาหมื่นปี ก็ไม่มีอย่างอื่นแล้ว

ยิ่งมากไปกว่านั้นสุสานสังหารเทพมีอาณาเขตกว้างขวาง หากเข้าไปแล้ว และต้องการจะออกมาก็เป็นเรื่องที่ยากมาก

คนของถ้ำปีศาจทมิฬจะต้องว่างขนาดไหนกันเชียว ถึงจะไปที่นั่น?

คิ้วของตู๋กูโม่เป่าขยับเล็กน้อย

“สามารถตรวจสอบได้หรือไม่ว่าพวกมันไปกันกี่คน?”

ผู้อาวุโสลำดับห้าหลับตาลง ระหว่างคิ้วของเขา มีสัญลักษณ์แปลกประหลาดปรากฏขึ้นอย่างเลือนราง

หลังจากผ่านไปสักพัก เขาก็ลืมตาขึ้น จากนั้นก็ส่ายหน้า

“พวกเขาปกปิดลมปราณได้ดีมาก ตอนนี้แค่สามารถยืนยันได้เพียงว่าคนของถ้ำปีศาจทมิฬเดินทางไปยังสุสานสังหารเทพ แต่รายละเอียดที่มากกว่านั้น กลับไม่สามารถคาดเดาได้ หากอยู่ในอาณาจักรเสิ่นซวี่ บางทีอาจจะ ‘มอง’ ได้ชัดเจนขึ้นอีกหน่อย”

น่าเสียดายที่เขาถูกขังที่นี่เกือบหมื่นปีแล้ว อีกทั้งยังไม่สามารถสร้างร่างศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาใหม่ได้ ดังนั้นจึงไม่มีทางที่จะไปอาณาจักรเสิ่นซวี่ได้

“คนพวกนั้นไม่เคยมีเจตนาดีอยู่แล้ว”

หลานเซียวพูดขึ้น จากนั้นก็หัวเราะออกมา

“แต่ว่าหลายปีที่ผ่านมานี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เจ้าสามารถสัมผัสลมปราณของพวกเขาได้ ใช้ได้เลยนะ!”

ผู้อาวุโสลำดับห้าแค่นหัวเราะเสียงเบา

“นั่นก็หมายความว่า ในตอนนั้นที่พวกเขาเจอข้า พวกเขาก็ยังต้องคุกเข่าทำความเคารพ แม้ว่าตอนนี้ข้าจะขาดการติดต่อจากพวกเขาไปแล้ว แต่ว่า…รู้เขารู้เรา ไม่มีทางเสียเปรียบแน่นอน”

ตู๋กูโม่เป่าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า

“เรื่องนี้มีเงื่อนงำ ตอนนี้อย่าเพิ่งเคลื่อนไหว รอดูไปก่อนว่าพวกเขาจะทำอันใดกันแน่”

ผู้อาวุโสลำดับห้าพยักหน้าอย่างเห็นด้วย

“ตอนนี้เจ้ากับหลานเซียวก็พักรักษาตัวให้หายดีก่อน เรื่องอื่นมอบให้เป็นหน้าที่ของข้าเอง”

เวลาเจ็ดวันผ่านไปในชั่วพริบตา

ฉู่หลิวเยว่และคนอื่นอยู่ห่างจากสุสานสังหารเทพไม่ไกลแล้ว

ช่วงเวลาพลบค่ำ พวกเขาเข้ามาถึงป่าที่ไม่มีจุดสิ้นสุด

แต่สิ่งที่แปลกประหลาดก็คือ ต้นไม้ในป่าแห่งนี้ล้วนเป็นสีดำทั้งหมด ใบไม้ด้านบนเป็นสีแดงปกคลุมหนาแน่น

ใบไม้มีขนาดเท่ากับฝ่ามือ อีกทั้งยังบางเป็นอย่างมาก ที่ขอบมีลักษณะเป็นรอยหยัก

เพียงแค่มองไปก็เห็นว่ามันมีลักษณะคล้ายกับมีดบินสีชาด

ซั่งกวนจิ้งมองไปด้านหน้าด้วยสายตาจริงจัง ก่อนจะพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ

“ที่นี่คือป่าวิญญาณสีชาด หากผ่านที่นี่ไป ด้านในก็คือสุสานสังหารเทพ”

น้ำเสียงของเขาตึงเครียดเป็นอย่างมาก หัวใจของฉู่หลิวเยว่จึงสั่นสะท้านเล็กน้อย

ที่แห่งนี้… ควรจะต้องระมัดระวังให้มาก

นางเงยหน้ามองด้านบน

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดมิด ต้นไม้ภายในป่าวิญญาณสีชาดเหมือนกับโครงกระดูกมือที่ปกคลุมไปด้วยเลือด จากนั้นมันก็สั่นไหวตามแรงลม

กลิ่นคาวเลือดจางๆ ลอยมาตามอากาศ

ฉู่หลิวเยว่ขมวดคิ้วขึ้นเป็นปมอย่างอดไม่ได้

“ตั้งแต่ช่วงพลบค่ำจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้นป่าวิญญาณสีชาดจะปล่อยมวลอากาศพิษออกมา ดังนั้นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเดินทาง ก็คือช่วงเวลาเที่ยงวัน พวกเราหาที่พักกันก่อนเถอะ พรุ่งนี้ค่อยเดินทางต่อ”

ซั่งกวนจิ้งอธิบาย

ฉู่หลิวเยว่พยักหน้า จากนั้นก็หันไปสบสายตากับหรงซิว ก่อนจะเดินตามซั่งกวนจิ้งออกไปด้านนอก

ด้านนอกของป่าวิญญาณสีชาด มีกองหินวางระเกะระกะเอาไว้อยู่

พวกเขาหาพื้นที่เรียบ ด้านข้างล้อมรอบด้วยก้อนหินขนาดใหญ่หลายก้อน

หลังจากฉู่หลิวเยว่นั่งขัดสมาธิแล้ว นางก็รีบหลับตาลงอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เริ่มบำเพ็ญเพียรต่อไป

หลังจากที่นางบำเพ็ญเพียรมาหลายวัน ตอนนี้นางเดินทางมาตลอดวัน แต่ก็ไม่ได้รู้สึกเหนื่อยอย่างเช่นวันแรกแล้ว

ดังนั้นนอกจากการฟื้นฟูความแข็งแกร่งของร่างกาย นางยังแบ่งเวลาส่วนใหญ่ไปศึกษาค่ายกลและใบเทียบยาอีกด้วย

บทที่ 1627 ป่าวิญญาณสีชาด 1

บทที่ 1627 ป่าวิญญาณสีชาด 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์