………………..
“ไม่ทราบว่าประมุขโหมวหยางหมายความว่าอย่างใดหรือ?”
หรงซิวถามขึ้นเสียงเรียบ
โหมวหยางไพล่มือข้างหนึ่งไว้ด้านหลัง
ในตอนนี้เขากำลังมองไปที่ฉู่หลิวเยว่และหรงซิว สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาราวกับน้ำแข็งมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
“ท่านทั้งสองอย่าเพิ่งเข้าใจผิด พวกเราไม่ได้ตั้งใจจะสร้างความเดือดร้อนให้แก่พวกเจ้า แผ่นจานหยกนี้ได้รับการซ่อมแซมเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็รู้สึกยินดีและโล่งใจอย่างมาก เพียงแต่ว่า…เรื่องนี้มันยังไม่จบ เกรงว่ายังจะไม่สามารถปล่อยเจ้าทั้งสองคนออกไปได้”
เขายกคางขึ้นเล็กน้อย ภายในน้ำเสียงแฝงด้วยความน่าเกรงขามอยู่สายหนึ่ง
“นอกจากแผ่นจานหยกแผ่นนี้แล้ว พวกเจ้าทั้งสองคนปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันขัดจังหวะงานหมื่นคีรีของพวกเรา และที่สำคัญไปมากกว่านั้น หมื่นปีที่ผ่านมานี้ ภายในเกาะมังกรศักดิ์สิทธิ์ไม่เคยมีมนุษย์คนใด
เยื้องย่างเข้ามาที่นี่มาก่อน แต่พวกเจ้าทั้งสองไม่เพียงแต่เข้ามาแล้ว ยังบุกตรงมาที่วิหารไท่ซวี บัญชีแค้นนี้…เกรงว่าจะต้องคำนวณอย่างดีแล้ว…”
ทันใดนั้นฉู่หลิวเยว่ก็หัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้
แววตาของโหมวหยางมืดครึ้มลงเล็กน้อย
“ซั่งกวนเยว่ เจ้ากำลังขำอันใดอยู่?”
พูดได้เพียงครึ่งหนึ่งก็ถูกขัดจังหวะอย่างกะทันหัน
เหตุการณ์เช่นนี้เขาไม่เคยเจอมาหลายปีแล้ว
ดังนั้นการที่ฉู่หลิวเยว่หัวเราะขึ้นมาในตอนนี้ จึงทำให้เขารู้สึกไม่พอใจอย่างมาก
ฉู่หลิวเยว่กะพริบตาปริบๆ
“เปล่าเสียหน่อย ข้าแค่กำลังคิดว่า ในเมื่อท่านไม่ได้คิดจะปล่อยพวกเราไปอย่างง่ายดายตั้งแต่แรก ถ้าเช่นนั้นคำพูดที่สุภาพและวาจาที่ซับซ้อนก่อนหน้านี้นั้น ความจริงแล้วก็ไม่จำเป็นต้องพูดเลยก็ได้ ไม่ใช่หรือ?”
ไม่ว่าหรงซิวจะทำสำเร็จหรือว่าล้มเหลว พวกเขาก็ไม่ยอมเลิกราแต่โดยดีแน่นอน
ดังนั้นในตอนนี้จึงใช้คำพูดเหล่านี้มาบีบบังคับขัดขวางพวกเขา
โหมวหยางเองก็คิดไม่ถึงว่า ฉู่หลิวเยว่จะพูดจาตรงไปตรงมาตั้งแต่แรกแบบนี้ ในที่สุดเขาก็ไม่สามารถรักษาภาพลักษณ์ได้อีกต่อไปแล้ว
เขาจ้องมองฉู่หลิวเยว่อยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็หัวเราะออกมาอย่างกะทันหันหนึ่งเสียง แต่ใบหน้าไม่ได้ประดับด้วยรอยยิ้มอยู่เลย
“เดิมทีเรื่องนี้ก็เป็นความผิดของพวกเจ้า แต่เหตุใดตอนนี้ แม้กระทั่งอำนาจในการซักไซ้ไล่เรียงของพวกข้าก็ไม่มีแล้วหรือ?”
รอยยิ้มของฉู่หลิวเยว่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง คิ้วของนางโค้งงอขึ้นเล็กน้อย
“แน่นอนว่ามีอำนาจนั้นสิ! แต่ข้าหมายความว่า หากท่านมีเงื่อนไขอันใดก็พูดออกมาพร้อมกันทีเดียวเลยสิ! เวลาของพวกเรามีค่ามากนะ จะพูดอันใดก็พูดมาตรงๆ เลยดีกว่า!”
มือที่อยู่ในแขนเสื้อของโหมวหยางกำแน่นยิ่งขึ้น
เขาค้นพบแล้วว่า ซั่งกวนเยว่ผู้นี้ เดิมทีก็ไม่ได้ลงไพ่ตามกฎตามกติกาอยู่แล้ว!
ของเหล่านั้นที่อยู่บนร่างกายของนาง มันไม่ได้มีประโยชน์เลยแม้แต่น้อย!
อีกทั้งยังหรงซิวที่อยู่ข้างนางอย่างเห็นได้ชัด
ทั้งสองคนนี้…จัดการได้ไม่ง่ายเลย…
เมื่อนึกถึงจุดนี้แล้ว โหมวหยางก็มีท่าทีตรงไปตรงมามากขึ้น
เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดว่า
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไม่ต้องอ้อมค้อมแล้ว หากพวกเจ้าต้องการออกจากที่นี่ ง่ายมาก…ลบความทรงจำทั้งหมดของที่นี่ทิ้งซะ!”
ความทรงจำที่มีความเกี่ยวข้องกับเกาะมังกรศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดไม่สามารถนำออกไปได้!
หรงซิวหรี่ดวงตาหงส์ลงเล็กน้อย
มุมปากของฉู่หลิวเยว่มีรอยยิ้มเยาะเย้ยปรากฏ
นางรู้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆ แน่นอน
เพียงแต่ว่า…ลบความทรงจำ?
“ความทรงจำนี้เป็นของพวกเรา หากท่านต้องการจะลบแล้วจะลบอย่างใด?”
สีหน้าของโหมวหยางราบเรียบ
“พวกเราก็มีวิธีของพวกเรา พวกเจ้าแค่ทำตามไปก็พอ”
ฉู่หลิวเยว่หัวเราะเสียงเย็นในใจ
พูดน่ะมันง่าย!
นี่ไม่เท่ากับว่าวางชีวิตไว้บนฝ่ามือของพวกเขาหรือ?
มีแต่คนโง่เท่านั้นที่ตอบตกลง!
หรงซิวพูด
“ประมุขโหมวหยาง เงื่อนไขนี้ของท่าน พวกเราไม่สามารถตอบรับได้”
โหมวหยางคาดการณ์เอาไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่าทั้งสองคนจะตอบเช่นนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...