นางสันนิษฐานว่าคนผู้นี้คือจักรพรรดิเสียนคังแห่งแคว้นซิงหลัว…ซือถูเหยียน
ดูจากท่าทางของเขาแล้ว ดูเหมือนว่าการพูดคุยกับจักรพรรดิจยาเหวินจะไม่ค่อยราบรื่นนัก และดูเหมือนเขาจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
มิเช่นนั้นคงไม่แสดงออกทางสีหน้าแบบนั้นต่อหน้าผู้คนมากมาย
อย่างใดก็ตาม เขาก็เป็นถึงจักรพรรดิหากไม่เจอเรื่องที่ทนไม่ไหวจริงๆ ก็คงจะไม่ถึงกับต้องแสดงออกแบบนี้
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกอยากรู้อยากเห็นในใจเล็กน้อย
ก็ไม่รู้ว่าจักรพรรดิจยาเหวินพูดหรือทำอันใดลงไป ซือถูเหยียนถึงได้โกรธเป็นฟืนเป็นไฟเช่นนี้
ซือถูเหยียนเดินผ่านพวกเขาไป
ทว่าจู่ๆ ซือถูเหยียนก็ชะงักฝีเท้าลง ก่อนมองไปที่ฉู่หลิวเยว่
“เจ้าคือฉู่หลิวเยว่?” เกิดประกายบางอย่างแล่นผ่านดวงตาของฉู่หลิวเยว่
ช่างแปลกใจจริงๆ ท่านผู้นี้รู้จักนางด้วยหรือ?
นางก้มศีรษะเล็กน้อยและคุกเข่าลงเพื่อคำนับ
ดวงตาของซือถูเหยียนเหมือนมีดคม ที่กรีดผ่านร่างของฉู่หลิวเยว่ไป
หัวใจของฉู่หลิวเยว่สั่นคลอนเล็กน้อย
ดูเหมือนว่าซือถูเหยียนไม่มีภาพพจน์ที่ดีเกี่ยวกับนางเลย…
ฉู่หนิงก้าวขึ้นไปข้างหน้า ก่อนจะยืนบังร่างของฉู่หลิวเยว่จากข้างหน้าอย่างเงียบๆ เพื่อหลีกเลี่ยงสายตาของซือถูเหยียน
ซือถูเหยียนกระแอมไอหนึ่งทีอย่างเยือกเย็นแล้วหันหลังจากไป
เมื่อร่างของเขาค่อยๆ หายไป ฉู่หนิงจึงหันหลังมาถาม ด้วยความเป็นห่วง
“เยว่เอ๋อ เจ้าไปทำให้ท่านนี้บาดหมางใจตั้งแต่เมื่อใด?”
ฉู่หลิวเยว่หัวเราะเบาๆ พร้อมยักไหล่
“วันนี้ก็เป็นครั้งแรกที่ข้าพบเขาเช่นกัน แล้วข้าจะทำให้เขาขุ่นเคืองใจได้อย่างใด? แต่…ก่อนหน้านี้ข้าเคยทำให้แก้วตาดวงใจของเขาขุ่นเคือง”
ซือถูซิงเฉิน?
ฉู่หนิงพยักหน้าอย่างคล้อยตาม
ฉู่หลิวเยว่มองเขาที่จู่ๆ ก็โล่งใจ แล้วถามอย่างสงสัย “ท่านไม่กังวลหรือ?”
“มีสิ่งใดให้กังวล?” ฉู่หนิงหัวเราะเบาๆ “ลูกสาวของคนผู้นั้นจะเทียบกับเยว่เอ๋อลูกสาวของข้าได้หรือ?”
เขารู้คร่าวๆ ว่าซือถูซิงเฉินนั้นสนใจในตัวหรงซิว แต่หรงซิวเลือกขอเยว่เอ๋อแต่งงานนั่นคือสาเหตุที่ซือถูซิงเฉินมีท่าทีต่อต้านเยว่เอ๋อ นี่มันก็ชัดเจนแล้วมิใช่หรือ?
ในสายตาของฉู่หนิงต่อให้ลูกสาวของคนทั้งโลกรวมกัน ก็ไม่ดีเท่าเยว่เอ๋อลูกสาวสุดที่รักของตนแค่คนเดียว และไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น เขาเชื่อว่าสายตาของหรงซิวนั้นไม่มีทางพลาด
ฉู่หลิวเยว่ “…”
เหตุใดนางรู้สึกถึงความทะนงจากประโยคนี้กันนะ…
“ฉู่หนิงมาแล้วหรือ ให้เขาเข้ามา!”
เสียงของจักรพรรดิจยาเหวินดังมาจากในตำหนักจ้าวหยาง
ขันทีหมินรีบตอบ
“ฝ่าบาท ท่านหญิงหลิวเยว่ก็มาด้วย นางบอกว่ามีเรื่องจะรายงาน”
เสียงข้างในเงียบไปชั่วครู่ “ถ้าอย่างนั้นก็ให้นางเข้ามาด้วย”
ฉู่หนิงและฉู่หลิวเยว่มองหน้ากัน ทั้งคู่ดูเคร่งขรึมขึ้นมาในทันที ก่อนก้าวเข้าไปในตำหนักจ้าวหยางทีละคน
…
เมื่อเข้าไปในตำหนัก ฉู่หลิวเยว่ก็มองเห็นจักรพรรดิจยาเหวินที่นั่งอยู่ตรงหน้า
สีหน้าของเขาดูเหมือนดีกว่าสองสามวันที่ผ่านมา ชัดเจนว่าเขาได้ระบายความโกรธกับกับซือถูเหยียนไปแล้ว
“หลิวเยว่ เจ้าไม่ได้มาที่นี่บ่อยนัก ที่เจ้ามาวันนี้มีเรื่องอันใดกัน?”
น้ำเสียงของเขาดูผ่อนคลาย ราวกับไม่ได้รู้สึกจริงจังกับการมาของฉู่หลิวเยว่
ฉู่หลิวเยว่และฉู่หนิงจ้องตากันสักครู่ ก่อนก้าวไปข้างหน้าแล้วพูดว่า
“ฝ่าบาท ที่หลิวเยว่มาในวันนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับตรอกชีเจี่ยว”
เมื่อได้ยินคำว่า ‘ตรอกชีเจี่ยว’ สามคำนี้ สีหน้าของจักรพรรดิจยาเหวินก็พลันชะงักไปทันที ก่อนจะรีบนั่งตัวตรง แล้วจ้องเขม็งไปทางฉู่หลิวเยว่
“เจ้าว่าอันใดนะ?”
ฉู่หลิวเยว่ชะงักไป ก่อนเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด
เพียงแค่เปลี่ยนจากนางตั้งใจไปตรอกชีเจี่ยวเป็นแค่บังเอิญผ่านไปเท่านั้น
นางไม่อยากให้จักรพรรดิจยาเหวินรู้ว่านางกำลังตามสืบสวนเรื่องนี้อยู่
เมื่อจักรพรรดิจยาเหวินได้ยินคำแรกก็ถึงกับชะงักไป
เขาไม่รู้ว่าพยายามมากขนาดไหน จึงจะสามารถปรามความอยากจะคว่ำโต๊ะนี้ได้ แต่มือของเขาออกแรงคว้าเก้าอี้ไว้จนเส้นเลือดตรงแขนชัดขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...