แอ๊ด!
เสียงเปิดประตูดังก้องกังวานในพื้นที่แคบและมืดสลัว
ซือถูซิงเฉินที่ถูกคุมขังอยู่ในกรงเหล็กเงยหน้าขึ้นในทันที
มวยผมที่ประณีตงดงามของนางหลุดลุ่ยลงมานานแล้ว ยังมีเส้นผมอีกสองสามช่อที่ห้อยลงมายุ่งเหยิง และดูน่าอดสูเป็นอย่างมาก
อีกทั้งคราบสกปรกที่เปื้อนอยู่บนหน้าของนาง ยิ่งทำให้นางดูจนตรอกอย่างยิ่ง
นางมีชีวิตมานานหลายปี แต่ไม่เคยต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้มาก่อน
เสียงฝีเท้าค่อยๆ ดังใกล้เข้ามา
ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาอยู่ที่หน้ากรงเหล็ก และห่างออกไปราวสามก้าว
ภายในพื้นที่ทั้งหมดมีเพียงกำแพงห้องเท่านั้นที่มีสีต่างไป และมองเห็นเพียงเทียนสองเล่มที่จุดอยู่ พวกมันส่องสว่างอย่างริบหรี่
ซือถูซิงเฉินเห็นใบหน้าของผู้ที่เข้ามาไม่ชัดนัก แต่ตอนที่เห็นอีกฝ่ายในแวบแรก นางก็จดจำตัวตนของอีกฝ่ายได้ในทันที เป็นจักรพรรดิจยาเหวินนั่นเอง!
แทบจะในทันทีที่นางลุกขึ้น แล้วพุ่งตรงไปคว้ากรงเหล็ก และเขย่ามันอย่างบ้าคลั่ง
“ปล่อยข้าออกไป ปล่อยข้าออกไป! ท่านพ่อข้าเสด็จมาแล้วใช่หรือไม่?”
จักรพรรดิจยาเหวินก้าวถอยไปหนึ่งก้าวแล้วยกมือขึ้นสัมผัสจมูกเล็กน้อย
ซือถูซิงเฉินรู้สึกอับอายอย่างยิ่ง ใบหน้าของนางแดงก่ำขึ้นทันทีแล้วผละมืออกอย่างไม่ตั้งใจ อีกทั้งยังคับแค้นใจจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนี!
หลังจากที่ถูกคุมขังอยู่ที่นี่ การกินการดื่มของนางก็ถูกจำกัดอยู่ในพื้นที่เล็กๆ นี้เท่านั้น แม้กระทั่งจะออกไปนอกกรงขังก็ยังไม่ได้ ทำให้สามารถจินตนาการได้ว่าในตอนนี้นางจะมีรูปลักษณะเป็นเช่นใด
นางไม่รู้ว่าตัวเองนั้นถูกขังมานานเท่าใดแล้ว เพราะมันนานเหมือนนานราวกับว่านางใช้ชีวิตอยู่ที่นี่มานานหลายปีแล้ว
ตลอดระยะเวลาที่อยู่ที่นี่นางรู้สึกว่าตัวนางเองนั้นเริ่มเข้าใกล้ความหมดอาลัยตายอยากเข้าไปทุกที
ตั้งแต่เกิดมานางเป็นองค์หญิงใหญ่ที่มีเกียรติสูงสุดหาใครเทียบได้ในแคว้นซิงหลัว ไม่เคยต้องประสบกับความทุกข์ทรมานเช่นนี้มาก่อน
ไม่รู้ว่าภายในใจของนางนั้นสาปแช่งจักรพรรดิจยาเหวินไปแล้วกี่ครั้ง
หากมีโอกาสนางจะเฉือนเขาด้วยมีดพันเล่มอย่างแน่นอน!
แต่ตอนนี้นางยังอยู่บนเขียงของอีกฝ่าย เป็นธรรมดาที่นางจะไม่กล้าที่จะผยอง
จักรพรรดิยิ้มเยาะ
“เขามาแล้ว แต่ตอนนี้น่าจะเดินทางกลับไปแล้วล่ะ” ใบหน้าของซือถูซิงเฉินพลันแข็งค้าง คล้ายกับว่ามีน้ำเย็นอ่างหนึ่งเทราดลงบนความหวังและความปรารถนาทั้งหมดของนางให้ดับลง
“เป็นไปไม่ได้ ท่านพ่อของข้าจะไม่มีวันทอดทิ้งข้าแน่! ท่านอย่ามาโกหกข้า”
ซือถู่ซิงเฉินกรีดร้องอย่างไม่เชื่อถือ
ท่านพ่อรักและทะนุถนอมนางมากที่สุด จะเป็นไปได้อย่างใดที่เขาจะจากไปแล้ว
“เจ้าวางใจเถอะเขาเพียงกลับไปเพื่อเตรียมงานแต่งงานครั้งใหญ่ให้เจ้ากับหรงจิ้นเท่านั้น เจ้าเป็นบุตรีที่เขารักที่สุด แน่นอนว่าเขาไม่มีทางทอดทิ้งเจ้าเด็ดขาด อืม…ใช่แล้ว วันที่ถูกกำหนดก็คืออีกครึ่งเดือนข้างหน้า”
จักรพรรดิจยาเหวินเอ่ยช้าๆ อย่างมีเหตุผล
“เมื่อเสร็จสิ้นงานพระศพของจักรพรรดินีแล้ว เราก็จะเริ่มจัดงานสมรสของพวกเจ้า เดิมทีมีกำหนดคืออีกหนึ่งเดือนข้างหน้า แต่บิดาของเจ้าดูเหมือนจะรีบร้อนอย่างมาก จึงเลื่อนมาเป็นในอีกครึ่งเดือน”
ซือถูซิงเฉินตกใจอย่างถึงที่สุด
“อะ…อันใดนะ!”
นางกับหรงจิ้นแต่งงานกัน!
นางได้ส่งข่าวให้ท่านพ่อแล้วว่า หรงจิ้นนั้นเป็นบุตรแห่งสวรรค์ที่ถูกแอบอ้างมา!
ท่านพ่อเสด็จมาในครั้งนี้ก็เรื่องหนึ่งก็เพื่อยกเลิกการแต่งงานของนางกับหรงจิ้น และอีกเรื่องคือเพื่อพานางออกไปจากที่แห่งนี้
แต่ตอนนี้…นี่มันเกิดสิ่งใดขึ้น
“ในเวลาที่รีบร้อนก็จะเกิดความประมาทอย่างหนีไม่พ้น แต่โชคดีที่หรงจิ้นก็ไม่ใช่องค์รัชทายาทอีกแล้วดังนั้นธรรมเนียมปฏิบัตที่ซับซ้อนมากมายก็สามารถละเว้นไปได้”
น้ำเสียงของจักรพรรดิจยาเหวินดูผ่อนคลายราวกับว่าร่วมยินดีกับพวกเขาจริงๆ
ทั้งร่างของซือถูซิงเฉินสั่นเทา
จงใจ…จักรพรรดิจยาเหวินจงใจอย่างชัดเจน
เขาต้องการที่จะใช้โอกาสนี้เพื่อทำให้พวกเขาอับอายอย่างแน่นอน
“เจ้า…เจ้า!”
เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างมาถึงจุดนี้แล้ว ในที่สุดซือถูซิงเฉินก็ฉีกหน้ากากชั้นสุดท้ายออก
เสียงกรีดร้องแหลมคมของนางดังสะท้อนไปทั่วพื้นที่มืดสลัวนี้ เหมือนเสียงกรีดร้องที่แสนโศกเศร้าของผีสาว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...