ภายใต้ลำแสงเรืองรองนั้นมีเงาร่างของคนคนหนึ่งซ่อนอยู่ ถึงจะดูพร่ามัวเล็กน้อย แต่ฉู่หลิวเยว่ยังคงจำได้ขึ้นใจว่าร่างนั้นคือ ซือถูซิงเฉิน!
เมื่อนางเหินไปยังจุดกลางของลำแสง ก็พลันต้องหยุดชะงัก
จากนั้นพลังแห่งสวรรค์และโลกจากทั่วทั้งสี่ทิศก็เริ่มหลั่งไหลเข้าหานางอย่างบ้าคลั่ง!
เกิดกระแสแห่งความผันผวนหลายสาย ปรากฏขึ้นรอบตัวนางอย่างรวดเร็ว!
แม้กระทั่งลวดลายบนลำแสงนั่น ก็ยังบิดเบี้ยวเข้าหากันประหนึ่งความผันผวนของพลังปราณ!
ฉู่หลิวเยว่จ้องมองร่างของซือถูซิงเฉินไม่วางตา
เนื่องด้วยพลังเหล่านั้นไหลเวียนเข้าสู่ร่างกาย จึงส่งผลให้การแผ่ขยายของพลังปราณของนางเพิ่มขึ้นเช่นกัน!
“นะ นี่มันเรื่องอันใดกัน?”
เจี่ยนเฟิงฉือถามเสียงตะกุกตะกัก พร้อมใช้ศอกกระทุ้งสีข้างฉู่หลิวเยว่เบาๆ
“นี่ เจ้ารู้หรือว่านางกำลังจะทำอันใด? เมื่อครู่เจ้าพูดว่าช้าไปก้าวหนึ่ง…เจ้าหมายถึงเรื่องนี้หรือเปล่า?”
ฉู่หลิวเยว่ไม่ได้โต้ตอบ แต่มีความคิดมากมายเกิดขึ้นในใจของนาง
หม้อไฟสีชาดนั่นต้องอยู่ที่ซือถูซิงเฉินแน่ๆ!
และเห็นได้ชัดว่านางลงมือแล้ว! ซึ่งการกระทำของนางกำลังไปกระตุ้นพลังของหม้อสัมฤทธิ์นั่น!
ก่อนหน้านี้นางเป็นเพียงนักรบระดับสาม แต่หลังจากผ่านพ้นเหตุการณ์นี้ นางจักทะลวงให้ผ่านระดับสี่ แน่นอน!
ทว่าตอนนี้พวกเขาต้องหาวิธีหยุดนางให้ได้!
เจี่ยนเฟิงฉือจ้องมองมันอีกสองสามครั้ง ก่อนจะขมวดคิ้ว
“เจ้าสิ่งนั้นช่างประหลาดนัก… เจ้าได้กลิ่นคาวเลือดบ้างหรือไม่?”
พลันฉู่หลิวเยว่เอ่ยเสียงเย็นวาบ
“หม้อไฟสัมฤทธิ์สีชาดนั่นบรรจุพลังปราณและเลือดของผู้ฝึกตนหลายร้อยคนเอาไว้ ไม่แปลกที่มันจะมีกลิ่นแบบนี้”
เจี่ยนเฟิงฉือหน้าเปลี่ยนสีทันควัน
ตัวเขานั้นเป็นถึงเซียนหมอ ที่ได้ฆ่าและช่วยชีวิตผู้คนมานับไม่ถ้วน แต่เมื่อเขาได้ยินคำพูดของฉู่หลิวเยว่ เขากลับไม่ชินและรู้สึกมวนท้องขึ้นมาง่ายๆ
แค่ลองคิดเล่นๆ ก็สามารถเห็นภาพการนองเลือดนั่นแล้ว!
แสดงว่าธาตุแท้ของหม้อไฟสีชาดนั้นเป็นสิ่งที่ชั่วร้ายมาก!
“เจ้าจะบอกว่า ลำแสงนี้คือพลังของผู้ฝึกตนเหล่านั้น ที่หม้อสัมฤทธิ์นี้สูบมาอย่างนั้นหรือ? แต่ทว่าการสะสมพลังด้วยวิธีนี้ล้วนแต่มีจุดด่างพร้อยและยุ่งเหยิง อีกทั้งยังอาจขัดแย้งกันเองได้! เมื่อพลังเหล่านี้ถูกดูดซับ แม้ว่าผู้ฝึกตนจะสามารถปรับปรุงขอบเขตการใช้งานได้ในระยะเวลาอันสั้น แต่จะมีผลอย่างมากต่อการฝึกฝนในอนาคต! ไอ้บ้าไร้สมองคนใดที่กล้าอวดดีก่อเรื่องเช่นนี้กัน!?”
เจี่ยนเฟิงฉือกล่าวเช่นนั้น เพราะเขาไม่รู้จักซือถูซิงเฉิน
ฉู่หลิวเยว่เม้มริมฝีปากแน่น
ถึงเจี่ยนเฟิงฉือจะพูดเช่นนั้น แต่คิดหรือว่าคนอย่างซือถูซิงเฉินจะไม่รู้?
ความจริงแล้วนางรู้ แต่นางก็เลือกทำเช่นนี้อยู่ดี!
ทว่าทันใดนั้น ฉู่หลิวเยว่ก็สัมผัสได้ถึงความผันผวนบางอย่างที่กระจายออกมาจากถุงเฉียนคุณ
นางตรวจสอบอย่างระมัดระวัง ก่อนจะพบว่าความผันผวนนั่นมาจากกล่องไม้!
เมื่อก่อน ซือถูซิงเฉินเป็นคนมอบกล่องไม้นี้ให้นาง!
ฉู่หลิวเยว่เงยหน้าขึ้นอีกครั้งและขมวดคิ้ว
ดูเหมือนว่าของในกล่องไม้นี้จะเคลื่อนไหวเพราะลำแสงนั่น!
ทว่าภายในกล่องไม้ มีเพียงม้วนกระดาษเก่าๆ เท่านั้น
และมีรอยตราประทับอยู่บนนั้น ซึ่งจนถึงตอนนี้ นางก็ยังเปิดมันไม่ได้!
ก่อนหน้านี้นางคิดหาวิธีอยู่หลายแบบ แต่ก็ไม่สามารถเปิดได้ ดังนั้นนางจึงต้องหยุดเรื่องม้วนกระดาษไว้ชั่วคราว
และนางก็คิดไม่ถึง… ว่ามันจะเกี่ยวพันกับหม้อสัมฤทธิ์นั่น!
ดวงตาทั้งสี่คู่หันมองภาพเบื้องหน้าบนพื้นที่ว่างเหนืออากาศ ซือถูซิงเฉินยังคงกลืนกินพลังปราณโดยรอบอย่างรวดเร็ว และรัศมีในร่างกายของนางก็เพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกัน!
ด้วยการเปลี่ยนแปลงนี้ ฉู่หลิวเยว่รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า การเคลื่อนไหวในกล่องไม้ค่อยๆ แผ่ขยายออก!
พลันเจี่ยนเฟิงฉือก็ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติกับการแสดงออกของฉู่หลิวเยว่ “เป็นอันใดไปหรือ?”
ฉู่หลิวเยว่ส่ายหน้า
จากข้อมูลที่จักรพรรดิจยาเหวินเคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ ทำให้นางสามารถเดาได้ว่า จักรพรรดินีได้ทำการจัดเตรียมหม้อไฟสัมฤทธิ์สีชาดไว้ให้หรงจิ้นเป็นกรณีพิเศษ เพื่อช่วยในเรื่องการฝึกตนของเขา และทำให้เขาได้เป็นผู้ยิ่งใหญ่
แต่นางแอบเดาเล่นๆ ว่าจักรพรรดิจยาเหวินจะต้องรู้ข้อมูลเชิงลึกมากกว่านี้แน่ๆ แต่แค่ไม่เอ่ยปากบอกใคร
เดิมทีนางวางแผนว่าหลังจากหามันเจอ นางจะทำการตรวจสอบอย่างระมัดระวัง แต่ตอนนี้มันสายเกินไปแล้ว เพราะซือถูซิงเฉินได้กลายเป็นผู้ถือครองแล้ว
เมื่อเปิดผนึก พลังปราณในหม้อไฟสีชาดจะถูกกลืนกิน และเปลี่ยนเป็นพลังของซือถูซิงเฉิน
แต่ดูตอนนี้สิ…มันเหมือนว่าสิ่งต่างๆ จะเลวร้ายกว่าที่นางคาดไว้เสียอีก…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...