เปลวเพลิงกำลังโหมไหม้อย่างรุนแรง! แทบจะมอดไหม้หมดทุกสิ่งอย่าง!
“หลิวเยว่!”
เมื่อเห็นดังนั้น เยี่ยเหล่าก็อดไม่ได้ที่จะร้องออกมาด้วยความตกใจ!
ผู้อาวุโสจงเยี่ยที่ต่อสู้มาเป็นเวลานานใน ที่สุดก็สบโอกาสในการชกเข้าที่หน้าอกของเยี่ยเหล่าอย่างแรง!
ร่างกายของเยี่ยเหล่าสะท้าน เขาถอยเท้าไปสองสามก้าวถึงจะสามารถยืนได้อย่างมั่นคงอีกครั้ง ที่มุมปากมีเลือดไหลออกมา
ผู้อาวุโสจงเยี่ยมองไปที่เปลวเพลิง ที่เกือบจะมองไม่เห็นร่างของฉู่หลิวเยว่แล้ว
“หึ เยี่ยจือถิง ดูเหมือนครานี้ ลูกศิษย์หัวแก้วหัวแหวนของเจ้าจะไม่รอดอย่างแน่นอน”
เยี่ยเหล่ากำมือแน่น แล้วมองค้อนไปยังเขา พลางเอ่ยด้วยความโกรธ
“จงเยี่ย! สมองของเจ้าถูกสุนัขกินไปแล้วจริงๆ หรือว่าเจ้ายังดูไม่ออก ซือถูซิงเฉินถูกยึดร่างไปแล้ว!”
คำพูดปลุกคนให้ตื่นจากภวังค์!
เมื่อได้ฟังคำว่า “ยึดร่าง” สองคำนี้ หัวใจของผู้อาวุโสจงเยี่ยก็เต้นแรงอย่างดุเดือด เขามองไปยังซือถู
ซิงเฉินอย่างรวดเร็ว
ก่อนหน้านี้ไม่เคยได้รู้สึก แต่เมื่อมองอีกครั้งในครานี้ กลับรู้สึกว่าทุกพื้นที่เผยให้เห็นความน่าพิศวง
เขาและเยี่ยจือถิงต่อสู้กันอย่างดุเดือด ดังนั้นเขาจึงไม่ได้สนใจสถานการณ์ของซือถูซิงเฉินและฉู่หลิวเยว่มากนัก
เขาจำได้เพียงเลือนรางว่า ดูเหมือนว่าซือถูซิงเฉินจะมีความเปลี่ยนแปลงไปบ้าง และมีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็ว!
เมื่อครู่เขาเพียงคิดว่าซือถูซิงเฉินดูดกลืนพลังงานมากขึ้น ส่งผลให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น
แต่เมื่อพิจารณาดูอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว ถึงได้รู้ว่าลมปราณภายในร่างกายของเธอดูแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง!
ลมปราณของผู้ฝึกตนแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน
ซึ่งในตอนนี้ซือถูซิงเฉิน…กลายเป็นคนอื่นไปแล้วจริงๆ!
เยี่ยเหล่าแทบที่จะอดทนรนไม่ไหวที่จะบิดหัวของผู้อาวุโสจงเยี่ยออกมา เพื่อดูว่ามีอันใดอยู่ข้างใน!
เป็นถึงนักรบระดับหก แต่กลับไม่สังเกตเห็นสิ่งเหล่านี้
อย่างไรเสียตอนนี้ เขาก็สนใจแต่ฉู่หลิวเยว่เท่านั้น!
เขาฉกฉวยโอกาสตอนที่ผู้อาวุโสจงเยี่ยกำลังตกใจและเสียสติ สลัดอีกฝ่ายออกไปได้ แล้วมุ่งตรงไปยังฉู่หลิวเยว่!
…
ในขณะเดียวกัน เจี่ยนเฟิงฉือที่กำลังซ่อนตัวอยู่ในความมืด ก็หรี่ตาลงเล็กน้อยเมื่อเห็นฉากนี้
ความสนใจส่วนใหญ่ของเขามุ่งตรงไปยังร่างกายของซือถูซิงเฉิน
ร่างวิญญาณที่สามารถถ่ายจิตได้…ก่อนที่ผู้ยึดร่างจะเสียชีวิต อย่างน้อยอีกฝ่ายก็ต้องเป็นนักรบระดับเจ็ด
แคว้นเหยาเฉินนี้อาจดูธรรมดา แต่กลับซ่อนเร้นความลับไว้มากมาย…
เท่าที่ดู เจ้ามู่ชิงเห่อนั่นออกไปจากเมืองก่อนเวลาไปเสียหน่อย เลยพลาดการแสดงอันยอดเยี่ยมนี้
ดวงตาของเขาเหลือบไปมองบนเปลวเพลิง พลางขมวดคิ้วเล็กน้อย
แม้ว่าในบางครั้งเขาจะรู้สึกว่า ฉู่หลิวเยว่รังเกียจเขาเหลือคณา แต่มันก็เป็นความสัมพันธ์อันซับซ้อนอีกรูปแบบหนึ่งที่ยากจะอธิบายของเราทั้งสองคน
แต่นางคือคนที่มู่ชิงเห่อต้องพากลับไป แน่นอนว่าเขาต้องปกป้องนางอย่างดี
ถ้าหากมีเรื่องผิดพลาด มู่ชิงเห่อจะก่อปัญหาให้เขาอย่างแน่นอน
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ฝ่ามือของเจี่ยนเฟิงฉือก็พลิกเล็กน้อย ปรากฏเป็นลำแสงส่องประกายอยู่ที่ใต้เท้าของเขา
ในขณะที่เขากำลังรีบเร่ง จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่ามีลมปราณเย็นเยือกวาบผ่านมาจากด้านข้าง!
เขารีบระมัดระวังตัว พลางหันไปมอง!
ร่างในชุดคลุมสีดำหายไปต่อหน้าต่อตาเขาอย่างรวดเร็ว!
เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย
ลมปราณเมื่อครู่ของคนนั้น ดูเหมือนว่าเขาจะค่อนข้างที่จะรู้จักมักคุ้น
ราวกับว่าเคยเห็นที่ไหนสักแห่ง…
เขาตกใจโดยพลัน!
กลิ่นนี้คล้ายว่าจะเป็น…
แต่ไม่ใช่ว่าพวกเขาออกจากราชวงศ์เทียนลิ่งไปแล้วหรือ!?
เจียนเฟิงฉือขยับฝ่าเท้าเล็กน้อย ภายในใจมีแรงกระตุ้นให้ไล่ตามไปให้ทัน
เพียงแต่ในขณะที่เขากำลังจะตามเขาไป ก็พลันเห็นกองเพลิงนั่นลุกโชนขึ้นอีกครั้ง!
เขาหยุดทุกอย่างลง แล้วหันกลับไปหาฉู่หลิวเยว่!
…
ฝีเท้าของชีหานหยุดชะงักลงเล็กน้อย เมื่อแน่ใจว่าเจี่ยนเฟิงฉือไม่ได้เดินตามก็โล่งใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...