ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 465

จักรพรรดิจยาเหวินหยุดชะงัก พลันหันกลับไปมองต้นเสียง!

ก่อนที่ร่างสูงโปร่งจะปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน!

เขาก้าวเท้าเข้ามาช้า พร้อมรอยยิ้มบางบนใบหน้าหล่อเหลา ดวงตาคมคู่นั้นลึกซึ้งและดูแพรวพราวราวกับดวงดาวในยามค่ำคืน ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยรัศมีบางอย่างที่อธิบายไม่ได้ เสมือนว่าเขาไม่ใช่มนุษย์โลกเฉกเช่นทุกคน ณ ที่นี้

ชายผู้นั้นคือองค์ชายหลีหวัน หรือ หรงซิว!

ฉู่หลิวเยว่เบิกตากว้างอย่างตกใจ

เพราะทุกครั้งที่หรงซิวก้าวไปข้างหน้า รัศมีในร่างกายของเขาจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ!

ทุกคนที่ได้เห็นฉากนี้ต่างตกตะลึง

“นั่นมัน…องค์ชายหลีหวันหรือ!?”

“องค์ชายหลีหวันทรงมีพระวรกายที่อ่อนแอ และป่วยซมอยู่ตลอดเวลามิใช่หรือ? เหตุใดยามนี้ถึง…”

“เขาทะลวงผ่านนักรบระดับสามแล้วหนิ ไม่สิ! หรือว่าผ่านระดับสี่แล้ว?!”

เมื่อต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันนี้ ทำให้เกือบทุกคนในที่นี้ตะลึงกันสุดขีด

ฉู่หลิวเยว่ใจเต้นระรัว

อย่าบอกนะว่าตอนนี้ หรงซิวกำลังวางแผน…เปิดเผยความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขาออกมาอย่างนั้นหรือ?!

“เจ้า เจ้า…”

จักรพรรดิจยาเหวินจ้องหรงซิวตาเขม็ง พร้อมสีหน้าที่สลับเปลี่ยนไปมา

“หรงซิว! เจ้าไม่ได้ป่วยติดเตียงหรอกหรือ!?”

หรงซิวไม่ได้ตอบคำถามของเขาในทันที แต่กลับเดินตรงไปที่ด้านข้างของฉู่หลิวเยว่ และหยุดยืนนิ่งๆ อยู่ตรงนั้น

ดวงตาคมหลุบต่ำ พลางจับมือบางนั่น และใช้ปลายนิ้วมือสัมผัสลูบคล่ำไปตามข้อมือที่หักของนาง

เพียงพริบตา พลังปราณอันอบอุ่นและทรงพลัง ก็หลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายของนางทันที!

“องค์ชาย ความจริงแล้วท่านไม่จำเป็นจะต้อง…”

ในใจฉู่หลิวเยว่อยากจะบอกว่าไม่ต้องกังวลกับอาการบาดเจ็บนี้ เพราะนางเองก็เป็นเซียนหมอเช่นกัน

ทว่าเมื่อสบเข้ากับแววตาที่ลึกซึ้งและอ่อนโยนของหรงซิว ก็พลันอุ่นวาบและรู้สึกวาบหวามในใจ จนต้องกล้ำกลืนคำพูดเหล่านั้นลงลำคอไปตามเดิม

“ขอโทษที่มาช้า”

ฉู่หลิวเยว่ส่ายหน้าเบาๆ

แววตาของชีหานที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดเย็นยะเยือก

“ที่เหลือจากนี้ ให้ข้าจัดการเองเถอะนะ”

พอได้ยินน้ำเสียงนุ่มทุ้มที่เปล่งออกมาเช่นนั้น ฉู่หลิวเย่วก็พลอยรู้สึกประหม่าเล็กน้อย

“ท่าน…ท่านคิดจะทำเช่นไรหรือ?”

เขาจงใจซ่อนทักษะของตัวเองมาตั้งหลายปี แล้วเหตุใดวันนี้ถึงคิดจะเปิดเผยพลังทั้งหมดนั่นออกมากัน?

หรงซิวยกยิ้มเล็กน้อย

“ข้าแค่จะจบเรื่องนี้”

หัวใจของฉู่หลิวเยว่วูบไหว และเผลอเงยหน้ามองเขาโดยไม่รู้ตัว พลันเหลือบมองจักรพรรดิจยาเหวินที่ลอยตัวอยู่เหนือท้องนภา

จากนั้นนางก็ค่อยๆ พลิกฝ่ามือ และจับมือเขาตอบ

“ตกลงค่ะ”

ครั้นจบการสนทนาระหว่างสองคู่รัก ลมปราณบนร่างของหรงซิวก็ได้ทะลุทะลวงยังขอบเขตนักรบ และขึ้นสู่ระดับห้าแล้ว!

หลังจากแน่ใจว่าฉู่หลิวเยว่ปลอดภัยดี หรงซิวก็หันไปมองจักรพรรดิจยาเหวิน

จนถึงตอนนี้ หากจักรพรรดิจยาเหวินยังเดาสถานการณ์ไม่ออกอีกล่ะก็ นั่นหมายความว่าหลายปีที่ผ่านมานั้นเขาเป็นเพียงคนโง่ที่ครอบครองบัลลังค์มังกรไปวันๆ อย่างเปล่าประโยชน์

“หรงซิว! เจ้า เจ้าหลอกข้ามาตั้งแต่ต้นเลยหรือ!?”

ไม่เพียงแต่เขาจะไม่ป่วย แต่กลับมีทักษะของผู้ฝึกตนอยู่เต็มเปี่ยมอีกด้วย!

มิเช่นนั้น ด้วยวัยเพียงเท่านี้ เขาจะไม่มีวันทะลวงได้ถึงระดับนี้แน่นอน!

ไม่สิ!

เขาอาจจะทะลวงได้สูงกว่านี้อีก!

เพราะตอนนี้เท่าที่ดู เด็กนั่นก็ทะลวงผ่านระดับห้าขั้นกลางแล้วด้วย!

หรงซิวหัวเราะเบาๆ

“ลูกก็แค่เรียนรู้จากท่านพ่อทั้งนั้น ถึงจะผ่านมาหลายปี แต่ท่านก็เป็นเช่นนั้นมาตลอดมิใช่หรือ?”

จักรพรรดิจยาเหวินตกตะลึงครู่หนึ่ง พลันนึกอันใดบางอย่างขึ้นได้ ดวงตาของเขาเบิกโพล่งอย่างตกใจ

“เจ้า…เจ้ารู้ตั้งนานแล้วหรือ!?”

หรงซิวยิ้มรับทว่ามิได้เอื้อนเอ่ย แต่นั่นก็คือคำตอบแล้ว

จักรพรรดิจยาเหวินตื่นตระหนกทันที ลมปราณของเขากระจัดกระจายไร้ทิศทาง และแม้แต่เขตพรมแดนม่านฟ้าที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมก็กลายเป็นภาพลวงตา

“ตะ ตั้งแต่เมื่อไหร่? แล้วเจ้ารู้อันใดบ้าง!?”

บทที่ 465 เรื่องราวในอดีต [รีไรท์] 1

บทที่ 465 เรื่องราวในอดีต [รีไรท์] 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์