ใบหน้าที่เคยมีสีสันของจักรพรรดิจยาเหวินจืดจางลงในทันที พลันซีดเผือดราวไร้ชีวิตชีวา
เขาอ้าปากพะงาบๆ ราวกอบโกยลมหายใจ ก่อนจะเอ่ยถามออกมาอย่างยากเย็น
“นาง…นางพูดเช่นนั้นจริงๆ หรือ?”
นางต้องเกลียดเขาเข้ากระดูกดำเป็นแน่!
“ก่อนที่ท่านแม่จะสิ้นใจ ลูกได้พยายามอย่างเต็มที่แล้ว”
หรงซิวเอ่ยเสียงเรียบ
การสนทนาระหว่างทั้งสอง ส่งผลให้ทุกคนในที่นั้นสับสนงุนงงกันถ้วนหน้า
ตอนนั้นจักรพรรดิจยาเหวินชอบพอในตัวพระสนมหว่านอย่างมาก ในบรรดาสนมสามพัน นางคือผู้เดียวที่พิชิตใจเขาได้ ทว่าตอนนี้พอมาคิดๆ ดูแล้ว มันเหมือนว่า ลึกๆ แล้วพระสนมหว่านก็แอบไม่พอใจจักรพรรดิจยาเหวินอยู่เหมือนกัน?
และเมื่อมีเรื่องของพรมแดนม่านฟ้าเข้ามาข้องเกี่ยว พวกเขาก็ยิ่งไม่เข้าใจกว่าเดิม
เหตุใดพระสนมหว่านจึงมีความปรารถนาสุดท้ายเช่นนี้?
ฉู่หลิวเยว่เริ่มทำการคาดเดาเงียบๆ ในใจ
เป็นไปได้หรือไม่ว่ามารดาของหรงซิวจะเป็นคนของพรมแดนม่านฟ้า!?
หากเป็นเช่นนั้น ก็สามารถอธิบายได้แล้วว่า เพราะอันใดหรงซิวถึงมีความสามารถและความแข็งแกร่งที่โดดเด่นเพียงนั้น ไหนการต่อสู้นอกพรมแดนม่านฟ้าครั้งก่อนอีก!
การแสดงออกของจักรพรรดิจยาเหวินเปลี่ยนไปมาก แต่สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจและพูดอย่างเคร่งขรึมว่า
“หรงซิว ข้ารู้สึกผิดต่อแม่ของเจ้ามาก แต่…ในเมื่อมาถึงขนาดนี้แล้ว ข้าคงทำเช่นนั้นไม่ได้ เดิมทีข้าไม่ได้วางแผนจะไปยังพรมแดนม่านฟ้าเลย ทว่าตอนนี้ ข้าคงต้องไปแล้ว!”
พรมแดนม่านฟ้าอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว ขอเพียงแค่เขาทะลวงต่อไป เขาก็สามารถเข้าไปได้สำเร็จ!
มันต้องเป็นอีกโลกหนึ่งที่รอคอยเขาอยู่แน่นอน!
หลังจากที่พระสนมหว่านเสียชีวิต เขาก็รู้สึกเสียใจกับมันมาก และถึงกับปิดบังความแข็งแกร่งของตัวเองตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา และอยู่เฉยๆ มานานหลายปี
เดิมทีเขาวางแผนจะใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายอยู่แล้ว แต่ทว่ายามนี้ ตราบใดที่เขาก้าวไปข้างหน้า ทุกอย่างก็จะเปลี่ยนไป!
ซึ่งเขาได้เทใจไปทางด้านพรมแดนม่านฟ้าหมดแล้ว
หรงซิวไม่ได้ขยับเขยื้อน เขาแค่ยิ้มและพูดว่า
“หากท่านอยากไปก็ย่อมได้ แต่ท่านต้องคืนสิ่งนั้นให้ลูกเสียก่อน”
จักรพรรดิจยาเหวินสีหน้าเปลี่ยนทันควัน
“เจ้าต้องการสิ่งนี้หรือ!?”
“นั่นเป็นของของท่านแม่ หรือว่าท่านขโมยมันมา?” นัยน์ตาของหรงซิวฉายแววเย้ยหยัน “ยิ่งไปกว่านั้น…”
ยิ่งไปกว่านั้นคือ ท่านแม่เคยให้สัญญาว่าจะมอบสิ่งนั้นให้เขา
สมัยนั้นท่านพ่อใช้ทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งของสิ่งนี้ และเมื่อพูดถึงการโจรกรรม ตัวท่านพ่อเองนั่นแหละ ที่น่าจะเป็นคนไปขโมยมันมาจากท่านแม่ของเขา
เมื่อถูกหรงซิวเปิดโปง จักรพรรดิจยาเหวินก็รู้สึกอับอายขายขี้หน้า และโกรธแบบสุดๆ
“หรงซิว! หลายปีที่ผ่านมา ข้าดูแลเจ้าอย่างดี! แต่เจ้ากลับตอบแทนข้าเช่นนี้หรือ!?”
เมื่อก่อนเขาคิดว่าหรงซิวเป็นเด็กที่เกิดมาพร้อมร่างกายที่อ่อนแอ และเพราะเหตุนี้บุตรของเขาจึงป่วยซมได้ง่ายๆ ดังนั้นเขาจึงพยายามตามหาเซียนหมอนับไม่ถ้วนมารักษาลูกชายคนนี้!
ทว่าสุดท้าย มันก็เป็นแค่กลลวง!
หรงซิวเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย พลางหัวเราะเบาๆ
“ท่านพ่อ ถ้าท่านรู้เรื่องนี้มาก่อนแล้ว ท่านยังจะปฏิบัติกับบุตรของท่านเช่นนี้หรือไม่?”
จักรพรรดิจยาเหวินแทบสำลัก ใบหน้าของเขาแดงก่ำ แต่ไม่สามารถโต้แย้งอันใดได้
และยิ่งเห็นแบบนั้น หรงซิวก็ยิ่งขำ
ถ้าก่อนหน้านี้จักรพรรดิจยาเหวินรู้ว่าร่างกายของเขาแข็งแรงและมีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ อีกฝ่ายคงจะโจมตีเขาไปนานแล้ว
และเขาคงไม่มีชีวิตอยู่จนถึงทุกวันนี้
ส่วน “ความดี” ที่อีกฝ่ายสร้างมานั้น ก็มีเพียงข้อเท็จจริงที่ว่าคนเป็นพ่อไม่เคยคุกคามเขาเท่านั้น
ทว่าก็เหมือนที่เขามักพูดเสมอว่าเขารักท่านแม่มากแค่ไหน แต่สุดท้ายคนที่ทำร้ายนางมากที่สุด และถึงกับทำร้ายนางให้ตายอย่างหดหู่ ก็เป็นเขามิใช่หรือ?
ในมุมมองของหรงซิว ถ้อยคำเหล่านั้นของจักรพรรดิจยาเหวินเป็นเพียงเรื่องตลกขำขัน
และเมื่อสบเข้ากับดวงตาที่ทิ่มแทงของหรงซิว จักรพรรดิจยาเหวินก็แทบกลืนคำพูดทั้งหมดของตนกลับไป
ก่อนที่สุดท้ายสีหน้ากล้ำกลืนเหล่านั้นจะหายไป และเหลือเพียงความเย็นชาบนใบหน้าที่เรียบตึง
“ถ้าเจ้าอยากจะหยุดข้า ก็ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าแข็งแกร่งพอจะทำเช่นนั้นได้หรือไม่!”
พูดจบ เขาก็เริ่มกลืนกินพลังปราณของสวรรค์และโลกรอบๆ ตัวอีกครั้ง!
จากนั้นลวดลายอักขระก็หายไป พลังปราณทั้งหมดในร่างกายของเขาหลั่งไหลออกมา หากเขาฝ่าฟันทะลวงให้ผ่านขอบเขตนักรบระดับเจ็ดขั้นสุดท้ายได้ เขาก็สามารถเข้าสู่พรมแดนม่านฟ้าได้สำเร็จ!
หรงซิวสะบัดมือ
ชิ้ง!
พลันเกิดเสียงของคมดาบดังสะท้อนไปทั่วทั้งบริเวณ!
กระบี่เล่มยาวสีเงินที่เคยเจาะฝังกับพื้นเมื่อครู่ บินกลับมาอยู่ในมือเขาอย่างรวดเร็ว!
เท้าทั้งสองขยับเตรียมตั้งท่า พร้อมมือที่กำด้ามกระบี่ไว้แน่น พลันตวัดตามองไปที่จักรพรรดิจยาเหวิน!
พรึบ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...