ฉู่หลิวเยว่ใช้เวลาอยู่ครู่หนึ่งในการตอบสนอง นึกไม่ถึงว่าอินทรีสามตาจะบอกว่า ยอมรับนางเป็นเจ้านาย
ไม่อยากจะเชื่อจริงๆ!
แม้แต่สัตว์อสูรธรรมดาก็ไม่เต็มใจที่จะยอมรับคนเป็นเจ้านาย นับประสากับอินทรีสามตาที่เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงสุด!?
อยู่ดีๆ นางจะได้โชคที่ไม่ควรจะได้ขนาดนี้เลยหรือ!?
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกสับสนเล็กน้อยกับประโยคที่ถูกเอ่ยขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“เจ้า…เจ้าพูดจริงหรือ!”
“ถ้ากล้าพูดว่าไม่เต็มใจรับข้า เจ้าตายแน่!”
อินทรีสามตาเอ่ยขู่! น้ำเสียงของมันเย็นเยียบราวกับถูกแช่แข็งมานาน
หากไม่ใช่เพื่อการฟื้นฟูเนื้อหนังของตัวเอง มันจะเต็มใจยอมรับเผ่าพันธุ์มนุษย์เป็นเจ้านายได้อย่างใด!
ในประวัติศาสตร์นับหมื่นปีของเผ่าอินทรีสามตานั้น แทบจะไม่เคยปรากฏเรื่องเช่นนี้ขึ้นเลย!
ในใจของมันคงไม่สบอารมณ์มากกว่าใคร และไม่เต็มใจมากกว่าใคร!
แต่ว่านี่เป็นเพียงวิธีเดียว!
มันถูกเผาอยู่ในหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์มานานนับพันปี ความเจ็บปวดทรมานที่ยาวนานนี้ ยืดเยื้อมานานจนมันเจ็บปวดทุกข์ใจเกินทน
อีกทั้งสติและจิตใจเองก็ถูกทำลายไปแล้วนับครั้งไม่ถ้วน!
หากไม่ได้ที่พึ่งพิงสุดท้าย มันก็คงยืนหยัดไม่ได้นานขนาดนี้ และตายท่ามกลางเปลวเพลิงไปนานแล้ว!
เมื่อเวลาผ่านพ้นไป สิ่งนี้ก็ได้กลายเป็นหลักยึดสุดท้ายของมันไปแล้ว
ดังนั้น มันจะต้องหาวิธีฟื้นฟูกายหยาบของมันแล้ว กลับไปอยู่บนจุดสูงสุดดังเดิมอีกครั้งให้ได้!
ฉู่หลิวเยว่กระแอมไอออกมา
“สำหรับเรื่องนี้ เจ้าคงคิดว่าข้าคงน้อมรับด้วยความยินดีใช่หรือไม่? เพียงแต่ ข้ามีถวนจื่ออยู่แล้ว…เกรงว่ามันค่อนข้างจะลำบากใจ”
ขณะที่พูด นางก็ลืมตาขึ้นและเห็นถวนจื่อกำลังจ้องมองตนด้วยสายตาราวกับปีศาจดุร้ายอยู่…พลันรู้สึกมวลท้องน้อยแปลกๆ
ทั้งตัวของมันเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าอย่างรุนแรง!
หากฉู่หลิวเยว่ตอบรับ จะต้องเกิดการต่อสู้ขึ้นแน่ๆ
อินทรีสามตาหัวเราะเยาะเย้ยด้วยความเย่อหยิ่งอย่างไม่ปิดบัง
“ข้าเป็นเผ่าเทพ เป็นธรรมดาที่จะไม่ถูกควบคุมด้วยกฎเกณฑ์เหล่านี้”
สิ่งที่เรียกว่าหนึ่งคนสามารถครอบครองสัตว์อสูรได้เพียงหนึ่งตัวเท่านั้น นั่นเป็นกฎเกณฑ์ของสัตว์อสูรธรรมดาทั่วไป
แต่มันเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ ฉะนั้นเรื่องแค่นี้ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด!
ฉู่หลิวเยว่เบิกตาโต
นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้ยินเรื่องเหล่านี้
และแม้แต่อสูรศักดิ์สิทธิ์…ยังยืนยันเช่นนั้น…
ถวนจื่อกัดฟันแล้วส่งเสียงคำรามขู่ กรงเล็บทั้งสองข้างของมันกำเข้าหากันแน่นเป็นกำปั้น
มันเตรียมต่อสู้กับอินทรีสามตาแล้ว!
ฉู่หลิวเยว่ตกอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ใจหนึ่งนางก็ไม่อยากทำให้ถวนจื่อเศร้าใจ แต่อีกใจหนึ่งนางก็อยากจะช่วยเหลืออินทรีสามตาให้ฟื้นคืนสู่สภาพเดิมได้จริงๆ
หลังจากที่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง นางก็เอ่ยถามขึ้น
“มันน่าจะยังมีวิธีอื่นอีกใช่หรือไม่?”
อินทรีสามตายิ้มเยาะ
“โดยธรรมชาติแล้ว ขอเพียงแค่เจ้าทะลวงขึ้นถึงระดับแปด โอกาสที่จะทำสำเร็จ ก็จะสูงตามไปด้วย!”
ฉู่หลิวเยว่ “…”
นางในตอนนี้อยู่แค่ระดับสามเท่านั้น ถ้ารอให้นางเลื่อนขั้นถึงระดับแปด ก็ไม่รู้ว่าต้องรอไปถึงเมื่อไร
ฉู่หลิวเยว่มองไปทางถวนจื่อ
“ถวนจื่อ ข้าขอถามเจ้าอย่างจริงจังอีกครั้งว่า เรื่องนี้เจ้ามีความคิดเห็นว่าอย่างใด หากเห็นด้วยให้เจ้าพยักหน้า หากเจ้าไม่เห็นด้วยให้เจ้าส่ายหน้า เจ้าว่าอย่างใดข้าก็ว่าอย่างนั้น ดีหรือไม่?”
ถวนจื่อนิ่งชะงักในทันที แล้วมองนางอย่างมึนงง คิดไม่ถึงว่าฉู่หลิวเยว่จะให้มันเป็นผู้ตัดสินใจ
มันรู้สึกหวงจริงๆ เมื่อคิดว่าต่อจากนี้ไป ฉู่หลิวเยว่จะไม่ได้เป็นของมันแค่ตัวเดียว แล้วก็รู้สึกเป็นทุกข์อย่างมาก
ไม่ง่ายเลยที่มันจะแบ่งนางให้ใคร…
แต่ว่าเมื่อนางถามมันด้วยความจริงใจและจริงจังเช่นนี้แล้ว มันก็ไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรดีเหมือนกัน
ในโลกนี้ หากมีคนที่สามารถครอบครองสัตว์ศักดิ์สิทธิ์มากกว่าหนึ่งตัวได้ จะเป็นเรื่องที่ดีขนาดไหนกันเชียว!?
ซึ่งเกรงว่าถ้าให้พวกเขาลงมือฆ่าสัตว์อสูรตัวเก่าด้วยมือตนเอง พวกเขาก็คงลงมือได้โดยไม่ต้องคิดให้มากความ!
แต่นางกลับบอกว่า หากมันเลือกเช่นไร นางก็จะเลือกเช่นนั้น
ในโลกนี้คงไม่มีคนเช่นนางอีกแล้ว
ดวงตาของถวนจื่อรื่นน้ำตา มันขดงอตัวลงอย่างรวดเร็วแล้วยกหางขึ้นเพื่อเช็ดตาแรงๆ
อินทรีสามตายิ้มเยาะ
“ให้มันเข้ามา ข้าจะพูดกับมันเอง!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...