เหนือวงแหวน รูปร่างลักษณะแปลกๆ ก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้นมา
ทันใดนั้นเอง ฉู่หลิวเยว่รู้สึกว่าภายในร่างกายของตนเองมีปราณที่กว้างใหญ่และสุดยอดเพิ่มขึ้น
นั่นคือ…อินทรีสามตา
จากนั้นพลังฟ้าดินที่อยู่รอบๆ ก็เริ่มไหลเวียนเข้ามาในตัวของนางอย่างไร้เสียง!
ความรวดเร็วในการดูดซับนั้นแข็งแกร่งกว่าที่นางฝึกฝนเองหลายเท่าตัวนัก!
ในใจของฉู่หลิวเยว่ก็รู้สึกตกใจอย่างมาก แต่นางกลับดูดซับพลังงานนี้แล้วแปลงเป็นปราณของตัวเองโดยไม่รู้ตัว
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใด ในที่สุดการเคลื่อนไหวทุกอย่างก็หยุดชะงัก
ทันใดนั้นวงแหวนนั้นก็กลายเป็นลำแสงสายหนึ่งพุ่งออกมา เงาร่างอินทรีสามตาสีดำตัวหนึ่ง ก็หายเข้าไปในร่างกายของฉู่หลิวเยว่!
ฉู่หลิวเยว่สัมผัสถึงมันได้อย่างชัดเจน ราวกับว่ามีอันใดบางอย่างที่ต่างออกไป
…ในร่างกายของนาง มีพลังสายหนึ่งเพิ่มขึ้นมา
นางค่อยๆ ก้มหน้าลง จากนั้นก็มองมือทั้งสองข้างของตนเอง
ในช่วงเวลาสั้นๆ คาดไม่ถึงว่าพลังของนางจะก้าวกระโดดขึ้นได้มากขนาดนี้! นี่เกือบจะแตะนักรบขั้นสี่แล้ว!
“หากนักรบระดับสามทั่วไปได้ทำพันธะสัญญากับอสูรศักดิ์สิทธิ์ และได้รับพลังเทียมฟ้าเช่นนี้ จะต้องทะลุไปสู่ระดับสูงสุดของขั้นสี่แล้วแน่นอน ไม่แน่อาจจะข้ามไปถึงขั้นห้า แต่คาดไม่ถึงว่าของเจ้ายังไม่ทะลุระดับสามเลย…”
ทันใดนั้นอินทรีสามตาก็พูดขึ้น
ฉู่หลิวเยว่หัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก แล้วยักไหล่เบาๆ
ตอนแรกนางคิดว่าสามารถก้าวหน้าไปได้มาก แต่คิดไม่ถึงว่า…
แต่ว่าปัญหานี้ร่างกายของนาง เดิมทีนางก็รู้สึกชินกับมันเสียแล้ว
“แบบนี้ก็ดี อาศัยแรงจากด้านนอกทะลวงเข้าไปจะได้ผ่านอย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะสามารถข้ามขั้นไปอย่างรวดเร็วนั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่”
ตอนนี้นางหวังว่าจะสามารถต่อสู้กับคนอื่น เพื่อฝึกฝนพื้นฐานของตนเอง
งานหมื่นทูร…นี่เป็นโอกาสที่ดีอย่างยิ่ง!
…
เช้าวันรุ่งขึ้น ฉู่หลิวเยว่เก็บของอย่างง่ายๆ แล้วออกจากห้องไป ต้วนจืออวี่กำลังรออยู่ด้านนอกเรือน
เมื่อเห็นเขาแล้ว ฉู่หลิวเยว่ก็เพิ่งนึกได้ว่าเมื่อวานนางยุ่งอยู่กับอินทรีสามตาทั้งวันจนลืมเรื่องของมู่ชิงเห่อไปเลย
“รองแม่ทัพมู่กลับมาหรือยัง?” นางถามขึ้น
ต้วนจืออวี่จึงตอบด้วยความเคารพว่า
“รองแม่ทัพกลับมาตั้งแต่เมื่อคืนตอนดึกแล้ว และออกไปตั้งแต่ครึ่งชั่วยามก่อน”
“ไปแล้ว? มีเรื่องอันใดกันเขาถึงรีบร้อนขนาดนั้น?”
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
มู่ชิงเห่อจะยุ่งขนาดนั้นได้อย่างใด?
อาการบาดเจ็บของเขาน่าจะยังไม่หายดีไม่ใช่หรือ?
“เรื่องนี้ข้าน้อยก็ไม่ทราบ รองแม่ทัพบอกว่าให้ข้านำทางท่านไปเข้าร่วมงานหมื่นทูร”
ฉู่หลิวเยว่หัวเราะแล้วกล่าวว่า
“เช่นนั้นรบกวนท่านนายพลต้วนแล้ว”
ตอนที่ตื่นมาในตอนเช้า นางพบว่าปีศาจแดงได้ออกไปแล้ว มันจะต้องไปหามู่ชิงเห่ออย่างแน่นอน
ความจริงแล้วนางก็อยากเจอเขาเช่นกัน แต่ตอนนี้คงจะไม่เหมาะสม นางจึงทำได้แค่รอเท่านั้น
“หากครั้งหน้ารองแม่ทัพมู่กลับมาแล้ว รบกวนท่านต้วนแจ้งข้าสักหน่อยนะ ข้ามีเรื่องที่จะต้องคุยกับรองแม่ทัพมู่”
เพราะว่าเป็นเรื่องของปีศาจแดง ต้วนจืออวี่จึงปฏิบัติตัวกับฉู่หลิวเยว่ค่อนข้างสุภาพ
“คุณหนูฉู่วางใจได้เลย”
จากนั้นทั้งสองคนจึงเดินทางไปที่จตุรัสเสวียนจี
…
บนถนนสายหลัก มีคนเดินผ่านไปมาคึกคักอย่างมาก
คนส่วนใหญ่ก็มุ่งหน้าไปทิศทางเดียวกัน
ฉู่หลิวเยว่และต้วนจืออวี่ก็ไหลตามฝูงชนไป
แม้ว่าต้วนจืออวี่จะสวมชุดเกราะสีดำ แต่เพราะว่ามีทหารม้าทมิฬกระจายอยู่ทั่วซีหลิง ดังนั้นจึงไม่ได้เป็นจุดสนใจมากนัก
แต่คนที่เป็นจุดรวมสายตากลับเป็นฉู่หลิวเยว่
ใบหน้าที่งดงามเย้ายวน ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด ก็สามารถดึงดูดผู้คนรอบข้างได้อย่างดี
“ผู้หญิงคนนั้นคือใครกันน่ะ? เหตุใดข้าถึงไม่เคยเห็นในเมืองซีหลิงมาก่อนเลยล่ะ?”
“ความงามเช่นนี้ นางต้องเป็นคนมีชื่อเสียงแน่นอน คิดไปแล้วนางน่าจะเป็นคนที่มาจากด้านนอกพรมแดนม่านฟ้า เพื่อมาเข้าร่วมงานหมื่นทูรอย่างแน่นอน”
“อ่า! ข้านึกออกแล้ว! นางคือคนที่ชนะการแข่งขันแบบต่อสู้ของเมื่อวานอย่างใดเล่า! เหมือนว่าจะชื่อ…ชื่อ…ใช่แล้ว! ฉู่หลิวเยว่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...