นางปฏิเสธการคาดเดานี้อย่างไม่รู้ตัว แต่ว่าชื่อที่ปรากฏเมื่อครู่ก็บอกไว้อย่างชัดเจนแล้ว
เขาเขี้ยวมังกร เจี่ยนเฟิงฉือ!
ทั้งเมืองซีหลิงแห่งนี้ มีเพียงแค่เจี่ยนเฟิงฉือ ที่เขาเขี้ยวมังกรเพียงคนเดียวเท่านั้น!
เหตุผลที่นางรู้เรื่องนี้ก็เพราะว่า ตอนที่นางพูดคุยกับลูกพี่ลูกน้องในตอนนั้น ก็ได้ยินเขาพูดขึ้นมา
ภูเขาเขี้ยวมังกรกับสำนักหลิงอวิ๋น มีความบาดหมางกันมานานหลายปีแล้ว ต่างฝ่ายก็ต่างเกลียดชังกันมาโดยตลอด
จากคำอธิบายของเขา เจี่ยนเฟิงฉือคนนี้กำเริบเสิบสาน ไร้ยางอาย และยิ่งไปกว่านั้นเขายังเคยด่าผู้อาวุโสทั้งเก้าของสำนักหลิงอวิ๋นต่อหน้าเสียจนเละเทะ
คนทั้งสำนักหลิงอวิ๋น ต่างก็เกลียดเจี่ยนเฟิงฉือคนนี้เข้ากระดูกดำเชียว!
แต่เขาเป็นนายน้อยของภูเขาเขี้ยวมังกร ฐานะสูงส่ง อีกทั้งฝีมือยังเก่งกาจมาก
ไม่ต้องพูดถึงคนธรรมดาเลย ตระกูลลำดับสูงของซีหลิง เมื่อเจอเขาก็ยังต้องเกรงใจเขาอยู่สามส่วน!
หรือว่าชายหนุ่มที่พวกนางเจอในวันนั้น จะเป็น…
ในใจของนางรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย นางขยับตัวออกไปด้านข้างอย่างเงียบเชียบ
เมื่อผู้อาวุโสชิวซีและผู้อาวุโสตวนมู่ฉุนเห็นชื่อของเจี่ยนเฟิงฉือต่างก็รู้สึกตกใจอย่างมาก
และหันกลับไปมองฉู่หลิวเยว่อีกครั้งด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย
ฉู่หลิวเยว่เก็บลูกปัดกลับคืนมา เมื่อเห็นว่าทั้งสองคนมีท่าทีก็แปลกไป นางจึงยิ้มแล้วถามว่า
“ผู้อาวุโสทั้งสองท่านยังมีเรื่องอันใดอีกหรือไม่?”
ผู้อาวุโสตวนมู่ฉุนส่ายหน้า
“ไม่มีอันใด ลำดับของพวกเจ้าคือลำดับที่ห้าสิบสาม ลงไปเตรียมตัวเถอะ”
“เจ้าค่ะ”
ฉู่หลิวเยว่ตอบรับหนึ่งคำ จากนั้นก็หมุนตัวเดินออกไป เมื่อผู้อาวุโสทั้งสองสบตากันแล้ว พวกเขาก็มองเห็นแววตาความแปลกใจของอีกฝ่าย
“เหมือนว่าครั้งนี้เขาจะไม่ได้ส่งคนมานะ…”
“แต่รายชื่อนี้เป็นหลิ่วสิงอีที่ลงชื่อด้วยตนเองนะ ไม่น่าจะผิดพลาด บางที… เพียงแต่พวกเราไม่รู้เอง”
นอกจากเรื่องนี้แล้ว ก็เหมือนว่าจะไม่มีคำอธิบายข้ออื่นอีก
คนที่อยู่ด้านหลังก็เดินขึ้นมาแล้ว
ทั้งสองคนจึงหยุดสนทนาเรื่องนี้แล้ว จัดลำดับต่อไป
…
ในใจของจ้าวอวิ๋นจื่อรู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก นางรีบเดินกลับไปหาศิษย์พี่ศิษย์น้องกลุ่มนั้นที่กำลังคุยกันอยู่
เมื่อเห็นนางมีสีหน้าที่แปลกไป พวกเขาจึงถามขึ้นมาว่า
“อวิ๋นจื่อ เป็นอันใดหรือ?”
จ้าวอวิ๋นจื่อหันหน้ามาหาคนอื่น แล้วถามอย่างกังวลว่า
“คือ…คือว่าเจี่ยนเฟิงฉือ หน้าตาเป็นอย่างใดหรือ?”
พวกเขาชะงักไปครู่หนึ่ง
“เหตุใดอยู่ๆ ถึงถามเรื่องนี้ขึ้นมาได้ล่ะ?”
จ้าวอวิ๋นจื่อฝืนยิ้มออกมาแล้วถามว่า
“ก่อนหน้านี้เคยได้ยินลูกพี่ลูกน้องพูดเรื่องนี้ขึ้นมา จึงสงสัยเล็กน้อย?”
“เขาหรือ? เหอะ แน่นอนว่าหน้าตาเป็นภัยโดยธรรมชาติ”
ดวงตากลมโตของหญิงสาวฉายแววขุ่นเคือง และโมโหอยู่หลายส่วน
คนที่อยู่ข้างๆ ผู้หญิงคนนั้นก็หัวเราะขึ้นมา
“เจ้าอย่าทำให้จ้าวอวิ๋นจื่อตกใจสิ นางก็แค่ถามไปเท่านั้น แล้วก็ท่าทางแบบนี้ของเจ้า อย่าให้คนอื่นเห็นด้วยเด็ดขาดเลยนะ ไม่เช่นนั้นต้องเกิดเรื่องยุ่งยากขึ้นแน่”
เมื่อสิ้นเสียงนั้น หญิงสาวดวงตากลมโตก็กระทืบเท้าขึ้นแล้วพูดว่า
“เจี่ยนเฟิงฉือรูปร่างสูงใหญ่ สูงกว่าผู้ชายทั่วไปเล็กน้อย อีกทั้งดวงตาของเขาเป็นสีฟ้าราวกับน้ำแข็ง นี่คือลักษณะทางสายเลือดของคนภูเขาเขี้ยวมังกร หากเจ้าเจอเขาแล้ว แค่มองครู่เดียวก็สามารถแยกแยะออกได้ทันที แต่ว่าเจี่ยนเฟิงฉือมีบุญคุณความแค้นกับสำนักหลิงอวิ๋นของพวกเราเยอะมาก คนแบบนี้ไม่เจอยังดีกว่า”
ยิ่งจ้าวอวิ๋นจื่อได้ยิน นางก็รู้สึกตกใจมากขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...