ผู้คนจากสำนักอื่นล้วนทำหน้าสลดและสิ้นหวัง
เพราะนอกจากชงซูเก๋อแล้ว อีกสามสำนักที่เหลือนั้นแข็งแกร่งเหนือคณา และโอกาสที่พวกเขาจะชนะก็มีน้อยมาก
ในใจของพวกเขาได้แต่นึกอิจฉาพันธมิตรเก้าดาราที่ได้เลือกก่อน แต่ก็คัดค้านอันใดไม่ได้
ผ่านไปครู่หนึ่ง สำนักวิชาที่เหลือก็ได้ทำการจับคู่ท้าชิงกันเสร็จสรรพ
สำนักภูเขาเขี้ยวมังกร คู่กับ สำนักเพลิงศักดิ์สิทธิ์
สำนักกระบี่เมฆาม่วง คู่กับ สำนักนิมิตสวรรค์
สำนักเสวียนเฟิ่ง คู่กับ สำนักหลิงอวิ๋นจง
ทั้งแปดสำนักถูกแบ่งออกเป็นสี่กลุ่ม และถูกจัดให้กระจายตัวออกไป “สี่” ด้าน ตามลักษณะพื้นที่ของแอ่งสี่ทิศแห่งนี้
ซึ่งแม้ว่าตรงกลางของแอ่งกว้างนี้จะกลายเป็นแนวหุบเขาที่ดูลึกชัน ทว่าคนจากทุกสำนักก็สามารถมองเห็นสถานการณ์ของแต่ละฝ่ายได้อย่างชัดเจน
ผู้ชมสามารถเลือกมองการต่อสู้ของฝั่งใดฝั่งหนึ่งได้อย่างอิสระ และสามารถเคลื่อนตัวย้ายไปยังสนามประลองที่ต้องการชมได้ และไม่ต้องสงสัยเลยว่าสนามประลองระหว่างชงซูเก๋อ พันธมิตรเก้าดารานั้น ย่อมดึงดูดผู้คนได้มากที่สุด
กระทั่งผู้ชมทุกคนหาที่นั่งของตนได้แล้ว บางคนถึงได้พบว่ามีบางอย่างผิดปกติ
“…น่าแปลก ฉู่หลิวเยว่กับเชียงหว่านโจวไม่ได้มาด้วยรึ? เหตุใดข้าถึงไม่เห็นเงาของสองคนนั้นในกลุ่มลูกศิษย์ของชงซูเก๋อเลย?”
“หือ? เจ้าพูดถูก! พวกเขาไม่ได้มาจริงๆ”
“ไม่ได้สิ…วันนี้ชงซูเก๋อพาศิษย์มาน้อยคน และกว่าจะมีต้นอ่อนมากสรรพคุณเช่นนี้หลุดเข้าไปในชงซูเก๋อ ก็ถือว่ายากยิ่งนัก แต่พวกเขากลับไม่ได้อย่างนั้นหรือ?”
จากหนึ่งเสียงเป็นสิบเสียง จากสิบเสียงเป็นร้อยปากว่า
ไม่นานข่าวลือเรื่องที่ฉู่หลิวเยว่และเชียงหว่านโจวไม่ได้มาเข้าร่วม ก็แพร่กระจายเป็นวงกว้าง
แต่ถ้าอิงตามหลักเหตุผล การที่สำนักวิชานั้นไม่ได้พาศิษย์มาทั้งสำนัก ก็ไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องแปลกแต่อย่างใด
ทว่าเมื่อมันเกี่ยวข้องกับผู้ชนะอันดับหนึ่ง และอันดับสอง จากงานหมื่นทูรอย่างฉู่หลิวเยว่และเชียงหว่านโจว ก็ย่อมทำให้ผู้คนสงสัยอย่างปฏิเสธไม่ได้
น่าแปลกที่พวกเขาไม่มา น่าสงสัยสุดๆ
เมื่อได้ยินเสียงซุบซิบ และบทสนทนารอบตัว เย่หรานหร่านก็รีบดึงแขนเสื้อของลู่เจือเหยายิกๆ และกระซิบถามอย่างอดไม่ได้
“ศิษย์พี่ลู่ เจ้าว่า ฉู่หลิวเยว่กับเชียงหว่านโจวจะมาหรือไม่?”
ลู่เจือเหยาลดเสียงลง
“ศิษย์น้องชายบอกแล้วมิใช่หรือ ว่าจะรอมาพร้อมศิษย์น้องหญิง? พวกเขาต้องมาได้อยู่แล้วสิ? ช่วงนี้ศิษย์น้องหญิงมักจะวิ่งขึ้นไปบนยอดเขาเยี่ยนหลิน เหมือนขึ้นไปเพื่อลับคมกระบี่…”
อาวุธสมัยโบราณที่พวกเขาใช้นั้น ส่วนมากจะเป็นอาวุธที่ถูกซื้อมา อาวุธที่ท่านอาจารย์มอบให้บ้าง หรือไม่ห็เป็นสิ่งที่พวกเขาได้มาโดยบังเอิญเสียมากกว่า
ส่วนกระบี่ที่ลับคมเองกับมือนั้น…แทบหาไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
เย่หรานหร่านเอ่ยถามอย่างกังวล
“ขอให้พวกเขามาได้จริงๆ เถอะ…พวกพันธมิตรเก้าดาราตามกัดเราไม่ปล่อยเลย แน่นอนว่าครั้งนี้ พวกนั้นก็คงไม่ปล่อยเราไปแน่ๆ”
ไม่ว่าจะคิดอย่างใด ใครใครก็ดูออกว่าสำหรับงานประชุมสำนักคราวนี้ กลุ่มพันธมิตรเก้าดาราตั้งใจมาเพื่อชิงตำแหน่ง และดึงชงซูเก๋อออกจากหนึ่งในสี่สำนักวิชาหลักแน่นอน!
ลู่เจือเหยาเหลือบมองคนจากสำนักพันธมิตรเก้าดารา พลันเอ่ยเสียงเย็น
“ข้าจำได้ว่าคนที่กลั่นแกล้งเจ้าในสวนซินหลี่ครานั้น เป็นศิษย์ของพันธมิตรเก้าดารา?”
เย่หรานหร่านพยักหน้ารับ แล้วยกมือขึ้นชี้
“คนนั้น ผู้ชายผอมสูงชุดเขียวกับผู้หญิงชุดม่วงที่ยืนอยู่ข้างๆ กัน…”
ลู่เจือเหยาพยักหน้าตอบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...