สัญชาตญาณของผู้หญิงนั้นถูกต้องเสมอ
แค่เจียงอวี่เฉิงพูดกับฉู่หลิวเยว่เพียงไม่กี่คำ แต่มันทำให้ซั่งกวนหว่านหวาดระแวงได้ขนาดนี้แล้ว
น้ำเสียงเช่นนี้… แตกต่างจากตอนที่คุยกับนางลิบลับ!
ไหนจะแววตาที่เหมือนจะแฝงไปด้วยความอ่อนโยนที่มองไม่เห็นนั่นอีก
ซั่งกวนหว่านกัดริมฝีปากแน่น
หรือว่าเจียงอวี่เฉิงจะมีใจให้ฉู่หลิวเยว่จริงๆ?
มือของนางกำชายแขนเสื้อไว้แน่น และก้าวไปข้างหน้าด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยโทสะ
“พรุ่งนี้เป็นวันอภิเษกสมรสของเรา ตามกฎแล้ว ก่อนวันงานเราสองคนจะไม่สามารถพบกันได้ หากทำผิดกฎคงดูไม่ดีนัก และถึงเจ้าจะเป็นห่วงท่านพ่อ แต่ในตำหนักก็ยังมีข้าอยู่ทั้งคน เหตุใดเจ้าถึงทำตามใจตัวเองง่ายๆ เช่นนี้?
สรุปแล้วเขาไม่ไว้ใจนาง หรือเขาไม่จริงจังกับการแต่งงานของเรากันแน่?
เจียงอวี่เฉิงขมวดคิ้วเมื่อได้ยินสิ่งนี้
“หว่านเออร์ เจ้าคิดมากเกินไปแล้ว”
“ข้าน่ะหรือคิดมากเกินไป?”
ซั่งกวนหว่านหงุดหงิดกว่าเดิม
“แม้แต่สามัญชนยังพยายามไม่พบกันก่อนวันแต่งงานเลยนะ และเหตุใดเราสองคนถึง…”
นี่เป็นประเพณีที่สืบทอดมาจากราชวงศ์เทียนลิ่ง แม้เจียงอวี่เฉิงจะเจตนาดีเป็นห่วงเป็นใยบิดาของนาง แต่เขาก็ไม่ควรมาที่พระราชวังในเวลานี้!
เจียงอวี่เฉิงรู้สึกว่าซั่งกวนหว่านกำลังงี่เง่าหาเรื่องทะเลาะกับเขา
ก็แค่เจอหน้ากันเท่านั้น จักต้องแตกตื่นไปไย?
หากผ่านมันไปได้ ทุกอย่างย่อมออกมาดี
แต่ถ้าไปกันไม่ได้ ต่อให้เข็มงวดในขนบธรรมเนียมเพียงใด ก็ไร้ประโยชน์
เมื่อเห็นซั่งกวนหว่านดื้อแพ่งใส่เขามากขึ้นเรื่อยๆ ความอดทนของเจียงอวี่เฉิงก็ค่อยๆ หมดลง ใบหน้าคมเปลี่ยนเป็นเย็นชาขึ้นมาทันที
“ในเมื่อเจ้าให้ความสำคัญกับกฎนี้มาก เช่นนั้นข้าจะออกไปเดี๋ยวนี้”
หลังจากพูดจบ เขาก็หมุนตัวกลับพลางสะบัดแขนเสื้อแล้วจากไป
“เจียงอวี่เฉิง! เจ้าหยุดเดี๋ยวนี้!”
ซั่งกวนหว่านคิดไม่ถึงว่าเจียงอวี่เฉิงจะไม่ไว้หน้ากันแบบนี้
นางแค่พูดออกไปด้วยความไม่พอใจสองสามประโยค แต่เขากลับหันหลังจากไปเสียเฉยๆ!
แถมยังต่อหน้าผู้คนมากมายอีก!
แม้ก่อนหน้านี้จะมีช่วงที่เขาเคยอารมณ์เสียอยู่บ้าง แต่เขาก็ไม่เคยปฏิบัติกับนางแบบนี้!
ทว่าเจียงอวี่เฉิงกลับทำหูทวนลม ไม่สนใจเสียงเรียกรั้ง แล้วก้าวต่อไปไม่หยุด
ทุกคนล้วนมองเห็นความมุ่งมั่นและความเยือกเย็น ที่แผ่กระจายออกมาจากแผ่นหลังของเขา
หัวใจที่คุกกรุ่นไปด้วยโทสะของซั่งกวนหว่านเมื่อครู่ ถูกน้ำแข็งเย็นๆ สาดใส่จนไฟนั่นมอดดับ แต่ร่างกายกลับสั่นสะท้านด้วยความโกรธแทน
นางทำเพื่ออนาคตของเราสองคนเชียวนะ?
แต่สุดท้ายเขากลับทำกับนางแบบนี้!
บรรยากาศทั่วโถงรับแขกพลันเย็นยะเยือก!
บริวารที่อยู่รายรอบต่างก้มหน้าลงทีละคน ไม่กล้าเผชิญหน้ากับนางตอนกำลังโกรธเกรี้ยว
ก่อนวันงานอภิเษกสมรส องค์หญิงสามและองค์ชายใหญ่เจียงทะเลาะกันในตำหนักชิงเฟิง และพวกเขาก็เลิกกันอย่างไม่มีความสุข
ถ้าข่าวนี้แพร่ออกไปล่ะก็… ไม่รู้เลยว่าพวกข้างนอกนั่นจะใส่สีตีความนางเช่นไร!
ซั่งกวนหว่านค่อยๆ ดึงสติกลับมา ใบหน้าของนางเปลี่ยนเป็นสีแดงสลับขาว เพราะความอับอายเกินทน
จั่วหมิงซีรู้สึกลำบากใจและไม่รู้จะทำอย่างใดอยู่พักหนึ่ง
คือว่า… เจียงอวี่เฉิงมากับเขา แต่เขาไม่คาดคิดว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น…
ส่วนฉู่หลิวเยว่ที่ยืนมองภาพละครเศร้าเคล้าน้ำตานั่นอยู่ด้านข้าง ก็ทำเพียงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ราวไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น
เจียงอวี่เฉิงเป็นคนแบบไหน นางรู้ดีที่สุด
สำหรับอีกฝ่ายแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ตัวเขาเท่านั้น
คนเห็นแก่ตัวแบบสุดโต่งเช่นนี้ จะไปสนใจคนอื่นได้อย่างใด?
แต่ซั่งกวนหว่านน่าจะยังชอบเขาอยู่มาก ไม่เช่นนั้น นางจะใส่ใจเรื่องธรรมเนียมการพบกัน ก่อนวันอภิเษกสมรสเหตุใด
ทว่าน่าเสียดายที่เจียงอวี่เฉิงคร้านเกินกว่าจะตามใจนาง
ฉู่หลิวเยว่หลุบตาลงต่ำและเย้ยหยันในใจ
แค่วันนี้ก็กลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว ไม่รู้เลยว่าพรุ่งนี้จะได้เห็นละครที่ยอดเยี่ยมขนาดไหน…
ซั่งกวนหว่านกัดฟันกรอด พลางพยายามระงับความโกรธในใจของตนไว้
“พวกเจ้าทั้งสอง ตามข้าเข้าไปดูอาการของท่านพ่อด้านใน!!”
ครั้นสิ้นสุรเสียง นางก็เดินพาพวกเขาเข้าไปข้างใน
ฉู่หลิวเยว่และจั่วหมิงซีก้าวเท้าตามไปติดๆ
…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...