“นางเป็นคนฉลาดมาก หากไม่ใช่คนที่สนิทมาก นางจะตกหลุมพรางได้อย่างใด แต่สุดท้ายนางก็เลือกที่จะตายเอง!”
ซั่งกวนหว่านหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เพราะทั้งโมโหระคนโกรธแค้นองค์ประกอบใบหน้าทั้งห้าบิดเบี้ยวน่ากลัว แววตาแดงก่ำราวกับปีศาจร้าย
“อย่าลืมโทษทัณฑ์ก่อนที่นางจะตายสิ มันไม่มีทางสำเร็จถ้าขาดพวกเจ้า”
เสียงแหลมปรี๊ดแหวกอากาศ ทำให้ทุกคนรู้สึกหนาวสั่นสะท้านอย่างมาก
ทันใดที่เสียงของนางจบลง ทุกคนที่อยู่ในสถานการณ์ก็แสดงใบหน้าสยดสยองออกมา
เมื่อครู่นี้…ซั่งกวนหว่านพูดว่าอย่างใดนะ?
นางพูดว่า…ในปีนั้นเจียงอวี่เฉิงเป็นคนฆ่าองค์หญิงใหญ่ด้วยตนเองอย่างนั้นหรือ!
แล้วยังใช้เวลาวางแผนมานานกว่าสามปี!
อีกทั้งองค์หญิงใหญ่ไม่ได้ตายเพราะฝึกฝนจนธาตุไฟเข้าแทรก แต่เป็นพวกเขาที่บังคับให้นางนั้นหมดหนทาง จนต้องเลือกที่จะฆ่าตัวตายแทน!
เพียงแค่คำพูดสั้นๆ ไม่กี่คำ แต่ได้เปิดเผยความลับที่น่าตกใจออกมา!
ต่อให้ก่อนหน้านี้พวกเขาสามารถเดาได้อยู่แล้วว่าเจียงอวี่เฉิงเป็นคนที่ทำร้ายอวี้ฉือซงและคนอื่นๆ แต่เมื่อมาได้ยินความจริงพวกเขาก็ยังรู้สึกตกใจอย่างมาก!
ทันใดนั้นซั่งกวนโหยวก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาที่หน้าอก เขาถอยหลังลงไปเล็กน้อย
อวี่เหวินเว่ยและเจี่ยนเฟิงฉือรีบพุ่งเข้าไปพยุงทันที
“ฝ่าบาท…ท่าน…ท่านจงรักษาสุขภาพก่อนนะพ่ะย่ะค่ะ!”
อวี่เหวินเว่ยอยากจะปลอบใจสักประโยคสองประโยค แต่คำพูดเหล่านั้น เขาไม่รู้ว่าควรจะพูดมันออกมาอย่างใด
องค์หญิงใหญ่เป็นบุตรีที่ฝ่าบาทรักใคร่มากที่สุด ตั้งแต่เล็กจนโต ไม่รู้ว่าฝ่าบาททุ่มเทให้กับองค์หญิงใหญ่มากเท่าใด
ในวันปกติ ต่อให้องค์หญิงใหญ่บาดเจ็บเพียงเล็กน้อย แต่เขามักจะรู้สึกทุกข์ใจอยู่เสมอ
ไม่ว่าจะเป็นพิธีบรรลุนิติภาวะ หรือว่าประชุมเช้า หรือแม้จะเป็นงานมหามงคลสมรส
เขาก็ยังประคองเด็กคนนั้นอยู่ในฝ่ามือ เพราะเกรงว่าจะทำให้นางได้รับความไม่สบายใจ แต่ว่าตอนนี้ นางกลับถูกผู้อื่นลอบวางแผนปลงพระชนม์!
แล้วเขาจะรับได้อย่างใด?
เจี่ยนเฟิงฉือเฝ้ามองจากด้านข้าง รอยยิ้มที่เคยมีได้หายไปตั้งนานแล้ว
แม้ตอนที่พระองค์รู้ว่าซั่งกวนหว่านและคนอื่นๆ ได้ทำร้ายตนเอง ฝ่าบาทก็ยังไม่ได้แสดงกิริยาเช่นนี้เลย
แต่เมื่อได้ยินถึงการตายของซั่งกวนเยว่ กลับส่งผลกระทบต่อเขาอย่างมาก
“ฝ่าบาท…”
ซั่งกวนโหยวโบกมือจากนั้นก็ดึงตัวออกจากการพยุงของทั้งสองคน ในตอนนั้นร่างกายของเขาเหมือนจะแก่ขึ้นมาหลายปีเลยทีเดียว ใบหน้าซีดขาว
เขาหันไปมองทางซั่งกวนหว่านและเจียงอวี่เฉิง ก่อนจะระงับโทสะที่เดือดพล่านอยู่ในใจ พร้อมถามขึ้นมาว่า
“ข้าขอถามว่า เยว่เอ๋อนาง…ทำเรื่องอันใดให้พวกเจ้าขุ่นข้องใจหรือ? เหตุใดพวกเจ้าถึงได้ทำร้ายนางเช่นนี้!”
เมื่อคิดขึ้นมาได้ว่าในตอนนั้นตอนที่เยว่เอ๋อถูกลอบปองร้าย สุดท้ายกลับมาพบว่าคนที่ปองร้ายนางไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นคนที่นางให้ความเชื่อใจมากที่สุดถึงสองคน…
หัวใจของนางคงจะเจ็บปวดเกินจะทนรับ!
จนถึงวันนี้ แค่พูดออกมาเพียงประโยคสองประโยค แต่ความเจ็บปวดที่เยว่เอ๋อต้องประสบและเก็บงำเล่า! ตอนที่นางถูกฝังนางจะทุกข์ทรมานใจขนาดไหน!
คนเหล่านี้ต่อให้ตายเป็นหมื่นครั้งก็ยากจะลบล้างความผิดที่เขาก่อ!
เมื่อซั่งกวนหว่านได้ยินดังนั้น ประสาทสัมผัสของนางก็ถูกกระตุ้นขึ้นมาอีกครั้ง!
นางกรีดร้องเสียงแหลม
“ข้ารู้อยู่แล้ว! ข้าคิดเอาไว้อยู่แล้ว! พูดไปพูดมา ทุกคนก็จะพูดแต่คำพูดเดิมๆ! ราวกับว่าข้ามีเรื่องที่ต้องรู้สึกผิดกับนางอย่างใดอย่างนั้น! แต่ตัวข้าแล้ว สำหรับนางก็เป็นแค่การทำทาน! ใครมันจะมาสนใจข้ากัน!?”
“เสด็จพ่อ ข้าก็เป็นบุตรีของท่านเช่นกัน ตั้งแต่เล็กจนโต ท่านเคยหันมาสนใจข้าสักนิดหรือไม่?! ตอนที่ข้ากินไม่อิ่มนอนไม่หลับ ตอนที่ข้าถูกกลั่นแกล้งจากคนในวัง ท่านเคยคิดถึงลูกสาวอย่างข้าบ้างหรือไม่! ในสายตาของท่านมีแต่ซั่งกวนเยว่คนเดียวเท่านั้น!”
น้ำเสียงของซั่งกวนหว่านสั่นสะท้าน ราวกับว่าต้องการระบายความแค้นที่สั่งสมมาในหลายปี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...