ซั่งกวนหว่านรู้สึกมึนงงสับสน
เจียงอวี่เฉิงไม่เคยปฏิบัติต่อนางด้วยความจริงใจแม้เพียงสักส่วน เรื่องนี้นางรู้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว!
ตอนนี้เขาแทบจะโยนความผิดทั้งหมดลงบนศีรษะของนางจนจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว แล้วเหตุใดเขาถึงจะต้องมาขอร้องแทนนางด้วยล่ะ?
แต่เมื่อคิดขึ้นมาแล้ว ความสัมพันธ์ที่แนบแน่นในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ก็เพียงเป็นภาพลวงตาที่นางสร้างขึ้นมาเองเท่านั้น!
แผนงานวิวาห์ที่เตรียมมาอย่างดีสุดท้ายแล้วก็เป็นเพียงเรื่องขบขันเท่านั้น!
ซั่งกวนหว่านหลับตาลงอย่างสิ้นหวัง น้ำตากลับเหือดแห้ง เหลือเพียงความเศร้าภายในใจที่กลวงโบ๋
ในตอนนั้นเองนางก็กลอกตาขึ้นแล้วสลบไปทันที
“นำตัวนางไป แล้ว “ดูแล” ให้ดีล่ะ”
ฉู่หลิวเยว่สั่งการเสียงเรียบ
“พ่ะย่ะค่ะ!”
ชีหานตอบรับหนึ่งคำ จากนั้นก็ลากซั่งกวนหว่านออกไปอย่างรวดเร็ว เหลือเพียงคราบเลือดสีแดงที่ทิ้งเอาไว้บนพื้นอย่างน่าอนาถเท่านั้น เพื่อเป็นตัวบ่งบอกว่าที่แห่งนี้ได้มีเรื่องอันใดเกิดขึ้นมาบ้าง
ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์นี้ด้วยความเงียบ ต่างรู้สึกสะเทือนใจอย่างมาก
ใครจะไปคิดกันว่าก่อนหน้านี้ไม่นานซั่งกวนหว่านยังสุขสมหวัง แต่จุดจบของนางกลับมาเป็นเช่นนี้ภายในชั่วข้ามคืน?
ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปท้องฟ้าเมืองซีหลิงนั้นจะเปลี่ยนแปลงไปขนาดไหนกัน…
…
ตั้งแต่ต้นจนจบเหมือนว่าจะมีเพียงคนคนเดียวที่ดูจะไม่สนใจเรื่องนี้เลย คนผู้นั้นคือ เจียงอวี่เฉิง
ต่อให้เขาเพิ่งเห็นภรรยาที่เพิ่งแต่งงานไปมีสภาพเช่นนั้น แต่สีหน้าของเขาก็ยังคงไร้อารมณ์เช่นเดิม ราวกับเรื่องนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเขาเลยแม้แต่น้อย
มีเพียงชายแขนเสื้อที่ขาดแหว่งและเปรอะเปื้อนคราบเลือดเท่านั้น ที่ทำให้คนอื่นรู้ว่าแขนของเขานั้นถูกตัดไปแล้วครึ่งหนึ่ง
ฉู่หลิวเยว่มองไปทางเจียงอวี่เฉิง ก่อนจะหมุนข้อมือของตนเอง
พรึ่บ!
กระบี่หลงหยวนพุ่งตรงออกไปด้านหน้า!
ประกายคมกระบี่สีดำนั้น มีแสงเย็นยะเยือกปรากฏออกมา พร้อมจิตสังหารที่แผ่กระจาย
ราวกับว่าในวินาทีต่อไปมันสามารถตัดหัวของเจียงอวี่เฉิงได้โดยตรง!
“ตอนนี้ถึงตาของเจ้าแล้ว!”
…
“ฝ่าบาท!”
เสียงหนึ่งดังขึ้นด้วยความตื่นตระหนกและโศกเศร้า ทันใดนั้นก็มีเงาร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากทางด้านหลัง เข้าขวางด้านหน้าของเจียงอวี่เฉิงเอาไว้ “ตุ้บ!” พร้อมเสียงเข่ากระแทกพื้นเสียงดังลั่น
คนผู้นั้นคือ เจียงลี่่จั่ว
ในตอนนั้นเองใบหน้าที่เคยหยิ่งผยองสูงส่งล้วนจางหายไปหมดสิ้นแล้ว เหลือเพียงความตื่นตระหนกเท่านั้น
เขานั่งคุกเข่าอยู่ตรงนั้น พร้อมมองฉู่หลิวเยว่ด้วยสายตาสิ้นหวังและถ่อมตน
“ฝ่าบาท ได้โปรดไว้ชีวิตเจียงอวี่เฉิงด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”
ฉู่หลิวเยว่เบนสายตาออกมาเล็กน้อย ราวกับกำลังมองดูเรื่องขบขันอยู่
“ราชครูเจียง เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ ท่านน่าจะได้ยินอย่างชัดเจนแล้วไม่ใช่หรือ เหตุใดตอนนี้ถึงยังมีหน้ามาบอกให้ข้าไว้ชีวิตเขาด้วยล่ะ? เจียงอวี่เฉิงร่วมมือกับซั่งกวนหว่าน วางยาพิษข้ากับเสด็จพ่อ ยิ่งไปกว่านั้นยังออกราชโองการเท็จ ใส่ร้ายขุนนางภักดี พยายามฆ่าล้างบางสำนักชงซูเก๋อ! การกระทำเช่นนี้เป็นอาชาญากรรมที่ไม่ควรได้รับโทษอย่างนั้นหรือ? ในตอนนี้ เจ้ามาขอให้ข้าไว้ชีวิตเขา ไม่ทราบว่าท่านไปเอาความมั่นใจมาจากไหนว่าข้าจะยินยอม?”
เหงื่อเย็นๆ ไหลโทรมกายเจียงลี่่จั่ว ใบหน้าซีดเผือด
เหตุใดเขาจะไม่รู้ว่าโทษนี้ร้ายแรงขนาดไหน!
แต่เจียงอวี่เฉิงคือลูกชายคนโตของเขา และเป็นลูกชายคนที่เขารักมากที่สุดด้วย!
เมื่อครู่ตอนที่เขาเห็นว่าเจียงอวี่เฉิงถูกตัดแขนไป เขาก็เกือบจะกระโดดออกมาอย่างอดไม่ได้แล้ว ในตอนนั้นเขารู้สึกตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงต้องทนต่อไปเช่นนั้น
แต่ในตอนนี้เมื่อเขาได้ยินฉู่หลิวเยว่พูดว่าต้องการชีวิตของเจียงอวี่เฉิง แล้วเขาจะนั่งดูอยู่เฉยๆ ได้อย่างใด?
“อวี่เฉิง อวี่เฉิง เขาชอบฝ่าบาทมาโดยตลอด เขาจะทำร้ายท่านได้อย่างใด? บางทีจะเป็นซั่งกวนหว่านที่มีความแค้นต่อฝ่าบาท แต่ว่า…อวี่เฉิงไม่มีนะพ่ะย่ะค่ะ! ที่ตรงนั้น ตรงนั้นจะต้องมีความเข้าใจผิดกันอย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ!”
“งานวิวาห์เมื่อสองปีก่อน พิธีการทางตระกูลเจียง เขาเป็นคนจัดการด้วยตนเองทั้งหมด เขาเป็นคนที่ต้องการให้งานแต่งงานครั้งนี้ราบรื่นยิ่งกว่าใครๆ แล้วเขาจะทำเรื่องเหล่านั้นได้อย่างใดเล่าพ่ะย่ะค่ะ?”
เจียงลี่่จั่วคุกเข่าลงกับพื้น
“ฝ่าบาท! เมื่อหลายปีก่อนอวี่เฉิงนั้นก็มีความคิดเช่นนั้นกับฝ่าบาทแล้ว เขาเฝ้าคะนึงหาท่านมาตั้งหลายปี เขาไม่มีทางหักหลังท่านได้อย่างแน่นอน!”
มุมปากของฉู่หลิวเยว่ยกขึ้น
“ถ้าเช่นนั้นจะบอกว่าข้าจำคนที่ฆ่าข้าผิดไปอย่างนั้นหรือ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...