รูม่านตาของเจียงอวี่เฉิงหดตัวลงเล็กน้อย ประกายแสงบางอย่างแล่นผ่านดวงตาของเขา พลันหายวับไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็ตอบว่า
“ไม่เคย”
ฉู่หลิวเยว่ขมวดคิ้วพลัน
ความจริงแล้วในคืนที่นางเปิดเผยตัวตนและขึ้นครองราชย์อย่างเป็นทางการนั้น นางได้ฝันถึงเรื่องราวบางอย่างที่ดูยืดยาวและซับซ้อน
ทว่าเรื่องราวในความฝันทั้งหมดกลับถูกแยกส่วน และเหลือเพียงเศษเสี้ยวความทรงจำที่ไม่ประติดประต่อกัน ซึ่งหลังจากตื่นขึ้นมา ส่วนใหญ่นางก็ลืมมันไปหมดแล้ว และจำได้เพียงบางฉากที่ดูคลุมเครือเท่านั้น
นอกจากศาลาแปดเหลี่ยมริมหน้าผาในฝันที่เห็นมาตลอดตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว ก็ยังมีฉากแปลกๆ ปรากฏขึ้นมาอีกมากมาย
นางไม่เคยไปสถานที่เหล่านั้น แต่ไม่รู้เหตุใดนางถึงรู้สึกคุ้นเคยกับพวกมันมากขนาดนี้
และที่สำคัญคือ นางจำรายละเอียดบางฉากได้ชัดเจน
ราวกับว่า… นางเคยไปเยือนสถานที่เหล่านั้นมาแล้วจริงๆ
หลังจากตื่นนอน นางพยายามวาดภาพในฝันเหล่านี้ลงบนกระดาษ แต่ทันทีที่หยิบพู่กันขึ้นมา นางกลับลืมภาพเหล่านั้นไปเสียหมด แม้แต่จะร่างโครงไว้ก่อนก็ยังทำไม่ได้
เว้นเสียแต่ศาลาแปดเหลี่ยมบนหน้าผาแล้ว สุดท้ายสถานที่อื่นๆ ทั้งหมดก็กลายเป็นเพียงภาพเลือนราง
แต่หนึ่งในนั้น ก็ยังมีภาพของสวนเทพเนรมิตที่ยังคงชัดเจนไม่จางหาย
นางฝันเห็นว่าตัวเองกำลังยืนอยู่ริมทะเลสาบ พร้อมกับเจียงอวี่เฉิงที่ยืนอยู่ตรงหน้า
และดูเหมือนว่านางกำลังพูดอันใดบางอย่างกับเขาด้วยถ้อยคำที่ฟังดูคลุมเครือ
อย่างเช่น การหมั้น การยกเลิก การให้คำมั่นสัญญา…
หลังจากตื่นขึ้น ฉู่หลิวเยว่ก็ครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่นานเพลา และรู้สึกตลอดว่ามันไม่น่าจะเป็นแค่ความฝัน
เพราะในฝันนั้นมีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้น และอาจเกี่ยวข้องกับความทรงจำที่หายไปของนางก็ได้!
ซึ่งถ้าสิ่งเหล่านั้นเคยเกิดขึ้นจริง… นางก็ขอเดาว่าตัวเองคงเข้าไปหาเจียงอวี่เฉิงเพราะต้องการยกเลิกงานหมั้นเป็นแน่
หลังจากรอมาสองสามวัน นางจึงตัดสินใจมาพบเขาที่นี่ เพื่อถามคำถามนี้ออกไปตรงๆ
แต่คิดไม่ถึงว่าเจียงอวี่เฉิงจะตอบว่านาง “ไม่เคย” พูด
ทว่าฉู่หลิวเยว่ก็หาได้ปักใจเชื่อไม่ นางรุดถามต่อ
“เป็นเช่นนั้นจริงหรือ?”
เจียงอวี่เฉิงมองดูท่าทางที่สงสัยใคร่รู้ของนาง และด้วยเหตุผลบางอย่าง จู่ๆ ก็มีรอยยิ้มบางๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
“ขนาดนี้แล้ว ข้ายังจักต้องโกหกเจ้าไปไย”
ย้อนกลับไปตอนนั้น เดิมทีนางไม่ได้จะพูดเรื่องยกเลิกงานหมั้น
เนื่องจากตอนนั้นพวกเขาเพิ่งหารือกันเพื่อเลือกเวลาทำสัญญาการหมั้นหมาย แต่ยังไม่ทันจะได้ไปตามวันนัด นางกลับเป็นฝ่ายบุกมาหาเขาแล้วพูดเรื่องยกเลิกสัญญาเสียเอง
เพียงเพราะว่านางมีคนที่ชอบแล้ว
แต่สุดท้าย การหมั้นหมายก็ยังดำเนินต่อไปอยู่ดี
ทว่านั่นก็เป็นเพียงเรื่องในอดีต
ซึ่งการที่นางถามเขาเช่นนี้ เป็นเรื่องบ่งบอกว่านางสูญเสียความทรงจำในตอนนั้นโดยสิ้นเชิง
ส่วนเจียงอวี่เฉิงเองก็ไม่ได้อยากชี้แจงนัก ยิ่งเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนั้น เขายิ่งไม่อยากพูดถึงมันเข้าไปใหญ่
สำหรับเขาแล้ว ภาพในอดีตเหล่านั้นไม่ใช่สิ่งที่ควรค่าแก่การจดจำ
ฉู่หลิวเยว่จ้องมองเจียงอวี่เฉิงอย่างระมัดระวัง นางแอบคิดซ้ำๆ ว่าที่เขาพูดมานั้นจริงหรือไม่
“เมื่อวาน จวนตระกูลเจียงถูกปิดตายแล้ว”
จู่ๆ นางก็เปลี่ยนเรื่อง
สีหน้าของเจียงอวี่เฉิงแข็งทื่อไปชั่วขณะ แต่มันก็หายวับไปในทันที และมีเพียงสีแดงจางๆ ปรากฏขึ้นในดวงตาคมคาย
แต่เขาก็ยังควบคุมการแสดงออกโดยรวมได้ดี ประหนึ่งว่าเรื่องนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขา
ทว่าความจริงแล้ว เนื่องจากสองวันก่อนเขาถูกพาตัวไปดูการประหารตัดหัวคนตระกูลเจียง เขาจึงคาดเดาเรื่องทั้งหมดนี้ไว้แล้ว
หรือจะพูดว่า เขาวาดภาพนี้ไว้ตั้งแต่วันที่เขาตัดสินใจหักหลังนางแล้วก็ว่าได้
เพียงแต่ที่ผ่านมาเขามั่นใจมาตลอด และคิดว่าตัวเองจะไม่มีวันพลาด แต่ก็ดันคิดไม่ถึงว่านางจะกลับชาติมาเกิดใหม่เสียนี่
“พวกเขาทั้งหมดตายเพราะเจ้า”
ฉู่หลิวเยว่จ้องมองเขา
“เจียงอวี่จือ น้องสาวของเจ้า ก่อนตายนางก็ยังตะโกนเรียกชื่อเจ้า เจ้าน่าจะได้ยินเหมือนกันใช่หรือไม่?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...