อู๋เป่ยมองดูแล้วโบกแขนเสื้อของเขา ทันใดนั้นก็มีหมอกขึ้นมารอบ ๆ หินศักดิ์สิทธิ์ ปกคลุมเขาศักดิ์สิทธิ์
เขาลงมาที่เขาศักดิ์สิทธิ์และพบว่ามันเป็นหินศักดิ์สิทธิ์ที่ใหญ่เป็นพิเศษจริงๆ อีกทั้งมันยังมีคุณภาพสูงมาก! เขาเอาหินศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดเข้าเก็บไปในถ้ำอย่างไม่รีรอ
เขาเก็บหินศักดิ์สิทธิ์แล้วถามว่า: "ซินเยว่ ปกติทวีปรกร้างมักจะมีหินศักดิ์สิทธิ์ตกลงมางั้นเหรอ"
หลานซินเยว่: "มันเกิดขึ้นเป็นบางครั้ง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่มีหินศักดิ์สิทธิ์หล่นลงในจวนหวัง และมันใหญ่เกินไป อีกอย่างนี่มันมีขนาดใหญ่มาก ปกติบ้านอื่นที่มีหินศักดิ์สิทธิ์ตกใส่ขนาดแค่ประมาณหนึ่งกำมือ ใหญ่ที่สุดก็ประมาณประตูบ้าน การที่เห็นศักดิ์สิทธิ์ตกลงมาหลาย 100 เมตรแบบนี้ถือว่าพบได้ยากในประวัติศาสตร์ของทวีปรกร้าง”
อู๋เป่ย: "เวลาพบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต้องรีบเก็บให้ทันเวลา"
หลานซินเยว่: "หินศักดิ์สิทธิ์หนักเกินไป พื้นที่กักเก็บอาวุธของเรารับไม่ไหว"
อันที่จริง ตอนที่อู๋เป่ยรวบรวมหินศักดิ์สิทธิ์ เขาก็รู้ว่ามันหนักมากและพื้นที่กักเก็บอาวุธของคนธรรมดาทั่วไปนั้นมาใช้เก็บไม่ไหว
ท่านใดนั้นข้างนอกก็มีเสียงตะโกนด้วยความโกรธ: "พวกท่านจวนจ้านหวังจะไม่มีเหตุผลเกินไปแล้ว! นี่มันเป็นสมบัติที่พระเจ้าประทานให้และใครก็ตามที่เห็นมันก็จะมีส่วนร่วมด้วย แต่ทำไมพวกท่านจวนจ้านหวังถึงเก็บมันไว้เอง? "
เมื่อไม่ได้ยินเสียงเสียงนี้ดังขึ้น อู๋เป่ยก็สะบัดแขนเสื้อ หมอกที่มีก็สลายไป เขาเห็นผู้คนรุมล้อมเขา หนึ่งในนั้นเป็นชายผมสีแดงร่างสูงกำลังตะโกนมาทางเขา
อู๋เป่ยจ้องไปที่คนคนนี้และพูดอย่างเย็นชาว่า: "จวนจ้านหวังตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็นจวนอู่หวังแล้ว ฉันคือราชาอู๋ ดูเหมือนว่านายจะไม่พอใจฉันเหรอ?"
เห็นส่งเสียงดังดังหึ: "ราชาอู๋ ต่อให้ท่านจะเป็นราชาอะไรก็ตาม แต่ท่านไม่สามารถ เก็บหินศักดิ์สิทธิ์ไว้คนเดียวได้!"
ใบหน้าของอู๋เป่ยเต็มไปด้วยความเย็นชา: "ของในพื้นที่พระราชทานของฉัน ล้วนเป็นของฉัน!"
ชายผมแดงยิ้มเยาะ: "มีคนตั้งมากมายที่เห็นหินศักดิ์สิทธิ์นี้ ท่านอยากจะเก็บมันไว้คนเดียว เกรงว่าคงไม่ง่ายขนาดนั้น!"
อู๋เป่ย: "ใช่ ฉันจะเก็บสิ่งศักดิ์สิทธิ์นี้ไว้ ทำไมนายไม่ยอมหรอ?"
สีหน้าของชายผมแดงเปลี่ยนไป เขาพูดว่า: "ราชาอู๋ ท่านทำเช่นนี้ เกรงว่าจะมีคนมากมายที่ไม่พอใจ…... "
"เพียะ!"
อู๋เป่ยตบชายคนนั้นกระเด็น หัวของเขายุบ ชายคนนั้นกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เขาเตะชายคนนั้นขึ้นจนลอบไปในอากาศ ก่อนจะกระทืบชายคนนั้นลงกับพื้นแล้วพูดว่า: “กล้าดียังไงหยาบคายกับฉัน!"
เท้าที่เหยียบนั้นเต็มไปด้วยพลังดาบ ซึ่งนั่นทำให้เส้นลมปราณทางจิตวิญญาณของชายคนนั้นแตกสลายในทันที ชายคนนั้นคร่ำครวญและสูญเสียการฝึกฝนของเขาทั้งหมด!
“ท่าน...”ชายคนนั้นตกใจปนโกรธ
อู๋เป่ย: “ ไสหัวออกไปจากที่ของฉันเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นแม้แต่ตัวนายก็คงไม่เหลือ!"
“กล้ามากเกินไปแล้ว! แม้แต่ข้า เจ้าก็จะฆ่างั้นเหรอ?”
ทันใดนั้น ชายหนุ่มคนหนึ่งก็เดินออกมาจากฝูงชน เขาสวมเสื้อคลุมสีแดงทองและมีตราราชวงศ์บนข้อมือ
เมื่อเห็นเขาคนนี้ หลานซินเยว่ก็แอบกระซิบว่า: "ที่รัก ชายคนนี้คือโอรสคนที่ 29 ของราชวงศ์เฮยสุ่ย"
อู๋เป่ยมองไปที่เขาแล้วพูดว่า "องค์ชาย คุณจะพิสูจน์ได้ยังไงว่าตัวเองคือองค์ชาย"
เลี่ยนอวิ๋นเยว่พูดด้วยน้ำเสียงโกรธ ๆ: ใครมันจะกล้ามาแกล้งเป็นองค์ชายกันล่ะ ราชาอู๋ เจ้ากล้ามากที่มาสงสัยในตัวตนของข้า!"
อู๋เป่ย: “ สัตว์ประหลาดเก่งในเรื่องแปลงกายจะตายไป ฉันว่าแกน่ะ เป็นสัตว์ประหลาดแปลงกายมาซะมากกว่า"
เลี่ยนอวิ๋นเยว่โกรธมากจนเลือดขึ้นหน้า แต่เขารู้ว่าอู๋เป่ยตั้งใจ เขาจึงพูดตอบเสียงเย็น: "ราชาอู๋ เจ้าเชื่อไหม ว่าข้าสามารถไปหาพ่อของข้าเพื่อให้ออกหนังสือตัดเจ้าออกจากการเป็นเจ้าได้?"
อู๋เป่ยหัวเราะเยาะ: "ตัดฉันออกจากการเป็นเจ้า? งั้นก็ช่างปะไร อยากตัดก็ตัด แต่ท่านก็ต้องคิดให้ดีแล้วกัน ว่าท่านแข็งกว่าราชาปีศาจนภารึเปล่า?"
เมื่อได้ยินดังนั้น หัวใจของเลี่ยนอวิ๋นเยว่ก็เต้นระรัวทันที ราชาปีศาจกลืนนภาแข็งแกร่งกว่าราชวงศ์เฮยสุ่ย แต่มันก็ยังถูกราชาอู๋สับหางปีศาจจนขาด!
ทันใดนั้นเลี่ยนอวิ๋นเยว่ก็อ่อนลง เขาพูดว่า: "ราชาอู๋ องค์ชายคนนี้ต้องการหินศักดิ์สิทธิ์ ท่านพอจะ….. "
“ของของฉัน แม้แต่เสี้ยวเดียวฉันก็ไม่ให้” อู๋เป่ยปฏิเสธก่อนที่เขาจะพูดจบ ซึ่งนั่นทำให้เลี่ยนอวิ๋นเยว่รู้สึกอายมากและเสียหน้ามาก
ทันใดนั้นก็มีเสียงในฝูงชนพูดว่า: "กับอีแค่ราชาเพียงคนเดียวจะยิ่งใหญ่ขนาดไหนกัน ทุกคนรุมฆ่าเขาแล้วเอาหินไปกันเถอะ!"
ทันทีที่เขาพูดจบ ไฟสังหารสี่ดวงก็ปรากฏขึ้นในอากาศ ไฟพวกนั้นพุ่งมาหาอู๋เป่ยทันที
ณ ตงเทียนเซินทู่ อู๋เป่ยก็มาถึงพระราชวังฉื่อหมิง
สี่เหลียนเซิ่งออกมาต้อนรับเขาแล้วพูดว่า "คุณชาย เจ้าเจ้าตำหนักกำลังเก็บตัวอยู่"
อู๋เป่ย: "ผู้อาวุโสสี่ ผมก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรหรอก แค่อยากจะมาหุบเขาเสินหนงสักหน่อย อ๋อใช่ ตงเทียนเซินทู่กับอาคารจูเชว่มีค่ายกลข้ามมีติใช่ไหม?"
ถังปินเซียนกำลังฝึกซ้อมอยู่ที่อาคารจูเชว่ แม้ว่าเขาจะเอาใจใส่กับความสัมพันธ์แต่เขาก็ไม่วางใจและต้องการจะไปดูสักหน่อย
สี่เหลียนเซิ่งยิ้มและพูดว่า "มีครับ คุณชายอยากจะไปอาคารจูเชว่เหรอ??"
อู๋เป่ย: "อืม ภรรยาฉันอยู่ที่นั่น"
สี่เหลียนเซิ่ง: "ถึงยังไงอาคารจูเชว่ก็ไม่ได้อยู่ภายใต้การปกครองของตำหนักฮุนเทียน หากคุณชายไม่ถือสาอะไร ผมสามารถหาทางส่งคนมาที่นี่ได้"
อู๋เป่ย: "ไม่รีบ ไว้ฉันไปถึงค่อยว่ากัน"
หลังจากพูดคุยกันสองสามคำ เขาก็ไปที่หุบเขาเสินหนงก่อน
ทางเข้าหุบเขาเสินหนงได้รับการปกป้องโดยผู้อาวุโสสองคน เมื่อเห็นเขามา ทุกคนก็ทำความเคารพ ในฐานะลูกศิษย์หลักของตำหนักฮุนเทียน ยังไงสถานะของอู๋เป่ยนั้นสูงกว่าผู้อาวุโส ดังนั้นทั้งสองคนจึงต้องสุภาพกับเขาเป็นธรรมดา
แหวกเมฆหมอกแล้วเข้าไปที่หุบเขา
หุบเขาเสินหนงมีขนาดใหญ่มาก อีกทั้งข้างในก็มีค่ายกลเล็ก ๆ มากมาย ดูดซับพลังงานทางจิตวิญญาณจากโลกมิติสูง ดังนั้นที่นี่จึงมียาเยอะมาก
ครั้งที่แล้วเขาแค่เดินไปรอบๆ ขอบนอก แต่คราวนี้เขาตัดสินใจเดินเข้าไปข้างใน
หลังจากเดินเข้าไปในหุบเขาได้สักพัก เขาก็เห็นต้นวิสทีเรียต้นหนึ่งพันอยู่รอบ ๆ เสาหินสูงสองสามต้น โดยมีฟักทองขนาดใหญ่เท่ากับหัวมนุษย์ห้อยอยู่ ฟักทองนั่นส่งกลิ่นหอมออกมา
ฟักทองแบบนี้ เขาไม่รู้จัก แต่เขารู้สึกได้ว่าพลังชีวิตของวิสทีเรียนั่นน่าทึ่งมาก อีกทั้งยังอันตรายมาอีกด้วย!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...
มีหลายตอนไม่ได้อ่านครบอยากปืนยิงคนดูแลจังลงก็ไม่ครบดีดูแลไม่ได้เรื่องของครอบครัวคนดูแลมีแต่ความชิบหาย...
619 หายไปตอนนึงนะ...