อู๋เป่ย : “ราชาเทพแล้วอย่างไร?”
เขาเพียงโบกมือก็ปรากฏเกมหมากรุกฟ้าดิน พื้นที่รอบๆ บิดเบี้ยว ตำหนักทองสัมฤทธิ์บนท้องฟ้าปรากฏดวงดาวมากมาย
อู๋เป่ยยืมพลังจากดวงดาวนับหมื่นและพลังถ้ำศักดิ์สิทธิ์ เพื่อเปิดใช้งานท่าสังหารดวงดาว!
ท่ามกลางความว่างเปล่า พลันมีเสียงทุ้มต่ำดังออกมาจากตำหนักตำหนักทองสัมฤทธิ์อันยิ่งใหญ่ : “ผู้ใดมารบกวนข้าผู้นี้กัน?”
อู๋เป่ยตะโกน : “เริ่ม!”
เวลานั้นเอง กระดานหมากดวงดาวสังหารถูกเปิดใช้งาน ดวงดาวนับแสนดวงหมุนรอบตำหนักทองสัมฤทธิ์ พลังแห่งการทำลายล้างก็รวมตัวกัน
ผู้ที่อยู่ในตำหนักตกใจ กล่าวด้วยโทสะว่า : “เจ้ามนุษย์ผู้ต่ำต้อยกลับกล้าลอบทำร้ายข้าผู้นี้ ไปตายซะ!”
อยู่ๆ ก็มีมือขนาดใหญ่พุ่งออกมาจากตำหนัก คว้าจับเหล่าดวงดาวอย่างโกรธแค้น ทันใดนั้นเองดวงดาวแต่ละดวงระเบิดเป็นผุยผง แต่การทำลายดวงดาวเพียงไม่กี่ดวงนั้นมิได้สร้างผลกระทบต่อการตั้งค่ายกลแต่อย่างใด
เวลานี้ เกมหมากรุกฟ้าดินของอู๋เป่ยได้ออกห่างจากหลิงชวน ไปปรากฏกลางจักรวาล เขาได้ขยายค่ายกลหมากรุกกว้างขึ้นเพื่อให้ครอบคลุมดวงดาวมากขึ้นเรื่อยๆ
“บูม บูม บูม!”
มือใหญ่ของราชาทองสัมฤทธิ์นั้นพลังแข็งแกร่งนัก ดวงดาวถูกระเบิดเป็นผุยผงไม่หยุดแต่ก็มีดวงดาวเกิดขึ้นมาใหม่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ใช้ประโยชน์จากดวงดาวเพื่อกดข่มฝ่ายตรงข้ามไว้นี่เป็นเพียงกลยุทธ์เท่านั้น ในขณะเดียวกันกระบวนท่าเก้าสิบเก้าแบบที่อู๋เป่ยพึ่งบรรลุใหม่กำลังดึงพลังจากจักรวาลอย่างต่อเนื่อง
ในขณะนี้ เกมหมากรุกฟ้าดินกำลังดูดซับพลังที่เหลืออยู่ในโลกของผู้แข็งแกร่งทั้งสิบในยุคนั้น เพื่อใช้มันสร้างหมากรุกฆาตสิบทิศ!
แต่ว่าการวางค่ายกลจำต้องใช้เวลาดังนั้นเขาจึงใช้ดวงดาวเหล่านี้ในการถ่วงเวลาไว้
“บูม บูม บูม!”
ยิ่งดวงดาวถูกระเบิดมากขึ้นเรื่อยๆ ราชาเทพทองสัมฤทธิ์ยิ่งบ้าคลั่ง : “เจ้าหนุ่ม ค่ายกลแค่นี้จะสามารถกักขังข้าได้กัน? จงระเบิดซะ!”
มีเสียงดังเกิดขึ้น ไม่นานดาวนับหมื่นก็ระเบิด เกมหมากรุกฟ้าดินของอู๋เป่ยสั่นคลอนเล็กน้อย
อู๋เป่ยยิ้มเย็น : “ราชาเทพทองสัมฤทธิ์ เจ้าฆ่าล้างสังหารเผ่ามนุษย์โดยไร้เหตุผล ควรรับโทษเช่นไร?”
ราชาเทพทองสัมฤทธิ์ยิ้มเย็นพลางตอบ : “เผ่ามนุษย์เช่นพวกเจ้า ก็แค่สิ่งมีชีวิตต้อยต่ำ ฆ่าก็ฆ่าไปแล้วก็เหมือนกับที่เจ้าสังหารมดตัวหนึ่งเท่านั้น จะต้องรู้สึกผิดไปไย?”
ใบหน้าของอู๋เป่ยเต็มไปด้วยความเย็นชา “ข้อแรก เผ่ามนุษย์มิใช่มดปลวก! อีกอย่างต่อให้ข้าจะพบเจอกับสิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอก็ไม่มีทางที่จะสังหารโดยไร้เหตุผล!”
ราชาเทพทองสัมฤทธิ์ส่งเสียง หึ หนักๆ ออกมา : “เจ้าโง่! ข้าบำเพ็ญมากว่าสามหมื่นปี อีกไม่นานก็จะเลื่อนเป็นจักรพรรดิเทพ เจ้าคิดว่าสามารถกักขังข้าได้หรือ? รอให้ข้าได้ออกไปก่อนเถิด ข้าจะทำลายที่ๆ เจ้าอยู่ ฆ่าล้างสังหารสิ่งมีชีวิตทั้งหมด!”
อู๋เป่ย : “เจ้าคุยโวไปเถอะ ค่ายกลนี้ของข้ายืมพลังมาจากดวงดาว ต่อให้ทำลายออกมาได้ก็ต้องใช้เวลาถึงสองวัน”
ราชาทองสัมฤทธิ์ยิ้มเย็น : “แล้วหลังจากสองวันนั้นเล่า?”
อู๋เป่ย : “เรื่องหลังจากสองวันนี้ก็ค่อยว่ากันเถอะ อย่างน้อยตอนนี้เจ้าก็ถูกข้าขังไว้ในค่ายกลหมากรุกนี้”
ราชาทองสัมฤทธิ์แสยะยิ้ม : “เจ้าคนต่ำต้อย ตอนนี้ก็จงอวดดีไปเถิด เมื่อถึงเวลานั้นเจ้าต้องร้องห่มร้องไห้ร้องขอชีวิตกับข้าผู้นี้!”
อู๋เป่ย : “ไม่ต้องพูดโอ้อวดก่อนเถิด ข้าถามเจ้าหน่อย เจ้าผู้เป็นถึงราชาเทพ เหตุใดถึงมาถึงที่คุนหลุนได้กัน? ”
ราชาทองสัมฤทธิ์ : “ตำหนักทองสัมฤทธิ์นี้เป็นอาวุธวิเศษที่ข้าสร้างขึ้น หากต้องการเพิ่มพลังให้อาวุธวิเศษ จะต้องดูดซับวิญญาณของสิ่งมีชีวิตทั้งหลายในโลกนี้ ดวงวิญญาณของมนุษย์นั้นมีคุณสมบัติไม่เลว ดังนั้นข้าจึงมาที่นี่”
อู๋เป่ยหรี่ตาลง “ที่แท้แล้วการที่เจ้ามาที่นี่ทุกๆ สามร้อยปีก็เพื่อดูดซับวิญญาณของเหล่ามนุษย์? เช่นนั้น การที่เจ้ามาในแต่ละครั้งนั้นต้องมีอีกกี่ชีวิตที่ตายกัน”
ราชาทองสัมฤทธิ์ : “ก็ไม่มากเท่าไหร่แค่พันกว่าล้านคนเท่านั้น”
อู๋เป่ยกล่าวด้วยโทสะ : “ความผิดนี้บาปใหญ่หลวงนัก! วันนี้ ข้าจะฆ่าเจ้าซะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...
มีหลายตอนไม่ได้อ่านครบอยากปืนยิงคนดูแลจังลงก็ไม่ครบดีดูแลไม่ได้เรื่องของครอบครัวคนดูแลมีแต่ความชิบหาย...
619 หายไปตอนนึงนะ...