เวิ่นกล่าว “เผ่าเทพที่ถือกำเนิดในยุคนี้ เรียกว่าเทพยุคใหม่ มักจะไม่มีสถานะสูงส่งนัก และไม่สามารถก้าวเข้าสู่แกนกลางเผ่าเทพได้ เทพที่ผ่านพ้นหนึ่งหรือสองยุค เรียกว่าเทพยุคโบราณ พวกนั้นมีรากฐานลึกซึ้ง เหนือกว่าเทพยุคใหม่อย่างเทียบไม่ติด ส่วนเทพที่ผ่านพ้นสามยุค เรียกว่าเทพชั้นสูง ปัจจุบันผู้ปกครองแกนกลางเผ่าเทพเก้าในสิบล้วนมาจากตระกูลเทพชั้นสูง
หลังจากฟังคำพูดของเวิ่น อู๋เป่ยจึงถามว่า “ผ่าเทพแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ ทำไมยังต้องสร้างเทพปีศาจอีกล่ะ”
เวิ่นถอนหายใจเบาๆ “ทุกยุคทุกสมัย ย่อมมีผู้ครองความยิ่งใหญ่คนใหม่เผยตัวออกมา เหมือนที่เผ่าเทพเข้ามาแทนที่เผ่าเซียนยังไงล่ะ เหล่าผู้อาวุโสของเผ่าเทพต่างรู้ดีว่าไม่มีเผ่าพันธุ์ใดสามารถครอบครองความยิ่งใหญ่นี้ได้ตลอดไป ดังนั้นจึงต้องเตรียมการล่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็นการกดขี่เผ่ามนุษย์ หรือการสร้างเทพปีศาจ เป้าหมายก็เพื่อสิ่งนี้”
เวิ่นกล่าวต่อ “ภายในร่างกายของฉัน บรรจุวิชาลับขั้นสูงสุดสองชุดเอาไว้ แต่เนื่องจากพรสวรรค์ของฉันไม่เพียงพอ จึงไม่สามารถถอดรหัสและดูดซับมันได้ หากไม่มีอะไรผิดพลาด สักวันหนึ่งฉันจะถูกสิ่งมีชีวิตอื่นกลืนกิน พลังในร่างกายก็จะถูกมันดูดซับไปด้วย แทนที่จะให้มันได้ไปเปล่าๆ สู้มอบมันให้นายดีกว่า”
อู๋เป่ยตกใจ “ให้ฉันเหรอ?”
เวิ่นพยักหน้า “ใช่ มอบให้นาย หากนายสามารถถอดรหัสทั้งสองวิชานี้ได้ นายจะมีความสามารถพิเศษในชีวิตใหม่สองอย่าง เพียงแต่มันยากมาก เพราะนายเป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์”
อู๋เป่ยมองเวิ่นแล้วพูดว่า “หากพี่มอบวิชาลับให้ผมแล้ว จะมีผลกระทบต่อพี่ไหม?”
เวิ่นยิ้มและพูดว่า “ไม่ เพราะฉันไม่เคยถอดรหัสมันได้ ตรงกันข้าม หากไม่มีมัน เทพปีศาจก็จะไม่พบฉัน และฉันจะปลอดภัยกว่าเดิม”
อู๋เป่ยกล่าว “ถ้าอย่างนั้นก็ดี”
จากนั้นเขาก็ถามว่า “ในร่างกายของสิ่งมีชีวิตอื่นก็มีวิชาลับที่คล้ายกันไหม?”
เวิ่นส่ายหัวและพูดว่า “น้อยมาก สินค้าที่ล้มเหลวเช่นฉันส่วนใหญ่ตายหมดแล้ว คนที่รอดชีวิตเช่นฉันหายากมาก ฉันเดาว่ามีไม่เกินสิบคนที่นี่ที่มีวิชาลับเหมือนฉัน”
อู๋เป่ย “นั่นหมายความว่าในร่างกายของเทพปีศาจก็มีวิชาลับเช่นกัน”
เวิ่นพยักหน้า “ใช่ ความแตกต่างคือเทพปีศาจได้ดูดซับวิชาลับแล้ว ดังนั้นความแข็งแกร่งของมันจึงแข็งแกร่งมาก”
อู๋เป่ยกล่าวว่า “ขอบคุณพี่เวิ่น”
เวิ่นถามเขาว่า “ถ้าไม่รังเกียจ ฉันขอเรียกนายว่าว่าน้องชาย น้องชาย นายมีเหล้าไหม?”
อู๋เป่ยยิ้มแล้วพูดว่า “แน่นอนว่ามี”
เขามีไม่เพียงเหล้า แต่ยังมีอาหารอร่อยๆ มากมาย ในไม่ช้าเขาก็จัดโต๊ะอาหารรินเหล้าให้เวิ่นเต็มแก้วแล้วพูดว่า “พี่เวิ่น ผมขอคารวะพี่”
หลังจากดื่มไปหลายแก้ว เวิ่นก็หัวเราะออกมา “ในฐานะของหนูทดลอง ฉันไม่เคยได้รับความสุขจากชีวิตเลย มีลูกได้แท้ๆ แต่ก็ปกป้องเขาไม่ได้”
เธอหัวเราะอย่างเจ็บปวด แล้วก็เอามือเข้าไปในอกตัวเอง ทันใดนั้นเลือดก็พุ่งกระฉูด เธอควักเอาแสงศักดิ์สิทธิ์ออกมา ก้อนแสงนั้นเปล่งแสงสองสี มีกลิ่นอายที่น่าตกใจ
อู๋เป่ยตกใจมาก “พี่เวิ่น พี่ทำอะไรเนี่ย?”
เวิ่นยิ้มแล้วพูดว่า “ฉันเบื่อชีวิตมานานแล้ว ก่อนตายได้รู้จักน้องชายอย่างนาย ฉันก็พอจะสบายใจขึ้นมาหน่อย วิชาลับนั้นเอาออกจากร่างไม่ได้หรอก นอกจากฉันจะยอมมอบให้เอง ไม่มีใครเอาไปได้หรอก”
อู๋เป่ยใจหายวาบ “พี่เวิ่นไม่เห็นต้องทำแบบนี้เลย ฉันพาพี่ออกไปจากที่นี่ ไปใช้ชีวิตในโลกที่พี่ฝันถึงได้นะ”
เวิ่นส่ายหัว “ฉันไม่อยากไปไหนแล้ว ฉันไม่น่าเกิดมาในโลกนี้เลย นายเป็นคนแรกที่ทำดีกับฉัน ขอบใจนะ”
พูดจบ ลมหายใจของเธอก็อ่อนลง ไม่ว่าอู๋เป่ยจะใช้ทักษะทางการแพทย์แผนไหน ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตเธอไว้ได้
ไม่กี่นาทีต่อมา เวิ่นก็สิ้นใจ อู๋เป่ยเสียใจมาก เขาได้แต่สร้างหลุมฝังศพให้ในสวน
หลังจากไหว้หลุมศพแล้ว อู๋เป่ยก็ใช้ดวงตาแห่งมิติมองดูแสงศักดิ์สิทธิ์ก้อนนั้น เขาเห็นข้อมูลที่ซับซ้อนมากข้างใน มีแต่คนที่มีร่างกายแข็งแกร่งและสติปัญญาสูงส่งเท่านั้น ถึงจะถอดรหัสมันได้
นี่คือสภาวะชีวิตขั้นสูงสองแบบ แบบหนึ่งคือสภาวะสุดขั้วของวิถียักษ์ อีกแบบคือสภาวะสุดขั้วของเผ่าเทพ สภาวะชีวิตสองแบบรวมกันเป็นหนึ่ง กลายเป็นแสงศักดิ์สิทธิ์ก้อนนี้
อู๋เป่ยอดนึกถึงคัมภีร์เต๋าไท้ชิงไม่ได้ คัมภีร์กล่าวถึงการก้าวกระโดดของชีวิต กระบวนการเปลี่ยนจากคนเป็นเซียน กลุ่มแสงศักดิ์สิทธิ์นี้ ทำให้เขามีแรงบันดาลใจอย่างมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดคุณหมอตาวิเศษ
เสียตังด้วยออ...
ก็แค่นิยายก๊อปปี้เนื้อเรื่องกันไปมาทำไมต้องเสียตังอ่าน😛😛😛...
ชอบอ่านฟรีมากกว่า555...
เวปนี้เสียเงินด้วยหรือผมอ่านมาหลายเรื่องแล้วผึ่งมาเจอระยะหลังต้องเสียเงิน...
น่าจะมีหักทาง ทรูมันนี่วอเล็ตบ้างนะคับ...
ใครเคยเติมบ้างแล้วครับ เติมแล้วเป็นอย่างไรบ้าง...
แล้วเติมเหรียญยังงัย...
อ่านมาเพิ่นๆหลังๆมาเสียตังซะแล้ว...
มีหลายตอนไม่ได้อ่านครบอยากปืนยิงคนดูแลจังลงก็ไม่ครบดีดูแลไม่ได้เรื่องของครอบครัวคนดูแลมีแต่ความชิบหาย...
619 หายไปตอนนึงนะ...