บทที่ 114 อย่าแสร้งทำเป็นบ้าต่อหน้าฉัน
นรมนคิดได้แต่แรกแล้วว่ากมลจะถามคำถามแบบนี้ เพราะไม่ว่าจะเป็นกานต์หรือกมล หน้าตาของพวกเขาก็เหมือนบุริศร์มาก
ถ้าหากพวกเขาทั้งสามคนยืนอยู่ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นใครก็ดูออกว่าเป็นความสัมพันธ์ระหว่างพ่อและลูก
แต่ในขณะนี้นรมนไม่รู้ว่าจะบอกกับกมลเกี่ยวกับสถานะของบุริศร์อย่างไร
“เขาเป็น.......”
“ เป็นพ่อของหนูเหรอคะ”
กมลถามอย่างรีบร้อน น้ำเสียงเร่งด่วนแบบนั้น
นรมนตะลึงไปเลย
นี่ถือว่าเป็นกระแสจิตระหว่างเด็กกับบุริศร์หรือเปล่า?
เธออยากจะปฏิเสธ แต่เมื่อมองไปที่ดวงตาที่เต็มไปด้วยคาดหวังคู่นั้นของกมล เธอไม่สามารถพูดออกมาได้
“กมล เรื่องนี้ไว้คราวหลังแม่ค่อยเล่าให้หนูฟังได้ไหมคะ?”
“ค่ะ”
กมลรู้สึกผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยิ้มและพูดว่า “แม่คะ เขาเป็นอะไรหรือเปล่า? ป่วยเหรอ? เป็นโรคเดียวกับที่กมลเป็นหรือเปล่า?งั้นให้เขามารักษาที่สหรัฐอเมริกากับกมลได้ไหม?"
สำหรับกมลแล้ว คนที่นอนอยู่ในโรงพยาบาลเป็นผู้ป่วยทั้งนั้น และคนที่ซีดเหมือนเธอ อาจป่วยเป็นโรคเหมือนเธอก็ได้
แม้ว่าเธอจะไม่รู้จักว่าความตายคืออะไร แต่เธอก็รู้จากสายตาของนรมนและกานต์ว่าสักวันพวกเขาก็ต้องแยกจากกัน
นรมนน้ำตาไหลเมื่อลูกสาวของเธอพูดอย่างนั้น
“ไม่ใช่ค่ะ เขาแค่ได้รับบาดเจ็บ ถ้าดูแลดีๆก็จะดีขึ้น”
“แม่คะ ถ้าหนูหายป่วย หนูไปเยี่ยมคุณอาได้ไหมคะ?”
กมลเรียกบุริศร์เป็นคุณอาโดยอัตโนมัติ และความรู้สึกของนรมนในขณะนี้เจ็บราวกับว่าถูกมีดบาด
“กมลเป็นเด็กดีนะคะ แค่กมลเชื่อฟังคุณหมอ ก็จะดีขึ้นค่ะ ถึงเวลานั้นอย่าว่าแต่มาเยี่ยมคุณอาเลย กมลอยากทำอะไร แม่เห็นด้วยกับหนูทั้งนั้น”
“แม่ใจดีจังค่ะ งั้นแม่ต้องดูแลคุณอาดีๆนะคะ ไม่งั้นเดี๋ยวหนูกลับไปไม่เจอเขาแล้ว”
มีร่องรอยของความปรารถนาในดวงตาของนรมน
นรมนรีบพยักหน้าตอบรับ
“เป็นเด็กดีนะคะ พ่อทูนหัวของหนูกำลังจะมาแล้วใช่ไหม? รีบอาบน้ำเตรียมตัวหน่อย เดี๋ยวให้พ่อทูนหัวของมาเห็นว่าหนูเล่นโทรศัพท์แต่เช้า จะถูกว่าเอานะ"”
หลังจากกมลได้ยินคำพูดนั้น ก็รีบพยักหน้าแลบลิ้นออกมาอย่างซุกซน
“บ๊ายบายค่ะแม่”
“บ๊ายบายค่ะลูกรัก”
นรมนวางวิดีโอด้วยรอยยิ้ม แต่น้ำตาไหลลงอย่างห้ามไม่ได้
เธอมองบุริศร์ที่อยู่บนเตียง ในใจสับสนอย่างมาก
ตกลงจะบอกความเป็นอยู่ของกมลหรือเปล่าเนี่ย?
จริงๆเธอไม่จำเป็นต้องคิดเรื่องนี้ แต่ตอนนี้ท่าทีที่บุริศร์ปกป้องเธอด้วยชีวิตทำให้เธอหัวใจที่เย็นชาของเธอมีรอยแยกอีกครั้ง
บางทีสิ่งที่บุริศร์พูดเป็นความจริง
ตอนนั้นเขาไม่ได้จะปฏิบัติแบบนั้นต่อเธอและลูกจริงๆ
แต่จะเชื่อเขาได้จริงๆเหรอ?
นรมนไม่รู้
พอถึงกลางดึก บุริศร์เริ่มมีไข้
เขาเอาแต่พูดเรื่องไร้สาระ
นรมนรีบลุกขึ้น จับหน้าผากเขาดู ร้อนจนน่ากลัว เธออยากจะไปหาหมอ แต่บุริศร์กลับจับมือเธอไว้อย่างกะทันหัน
“นรมน อย่าไปจากผม คุณอย่าไป......”
เสียงของบุริศร์ไม่ดัง แต่กลับทำให้หัวใจของนรมนสั่นไปทีหนึ่ง
เธอหันกลับมาทันที พบว่าบุริศร์ไม่ได้ตื่น
“นรมน ขอโทษ ผมไม่ได้สังเกตความรู้สึกของผมที่มีต่อคุณให้เช้ามากกว่านี้ ทำให้คุณและลูกเกิดอุบัติเหตุ เป็นความผิดของผมเอง”
บุริศร์พูดไปด้วย น้ำตาก็ซึมออกมาจากขอบตา
นรมนต้องการที่จะชักมือตัวเองกลับมา แต่ก็ทำไม่ได้ เงยหน้าขึ้นมาก็เจอน้ำตาของบุริศร์
เขาร้องไห้!
ว่ากันว่าน้ำตาผู้ชายไม่ไหลกันง่ายๆ นับประสาอะไรกับผู้ชายที่ไร้ความรู้สึกอย่างบุริศร์ แต่น้ำตาที่ขอบตาของเขาคืออะไร?
“บุริศร์ นายปล่อยฉัน!”
นรมนรู้สึกว่าบุริศร์แกล้งทำ
ผู้ ชายคนนี้คงจะตื่นแล้ว จงใจที่จะเล่นละครกลยุทธ์ทุกข์กายเพื่อให้เธอดู
แต่ไม่ว่าเธอจะดึงมือของเธออย่างไรก็ไม่สามารถหลุดออกมาได้ และในตอนนี้บุริศร์รู้สึกเจ็บปวดมากยิ่งขึ้น
“ตรินท์ ขอโทษ ขอโทษจริงๆ พี่ปกป้องนายได้ไม่ดี นายไว้ใจได้เลยนะ พี่จะเลี้ยงดูลูกของนายเหมือนดั่งลูกชายตัวเอง เขาเป็นเด็กบ้านตระกูลโตเล็ก ไม่ว่าเขาจะฉลาดหรือไม่ เขาก็เป็นลูกของนาย!”
เธอตะโกน ร้องไห้ ถึงขั้นไม่สนใจสภาพที่น่าสมเพชในตอนนี้
ธรณีตกใจกับท่าทีของนรมน
ถ้ายังดูไม่ออกว่านรมนมีความรู้สึกต่อบุริศร์อีกละก็ เขาถือว่ามีชีวิตไปเปล่าๆ
ไม่รู้ว่าทำไม ธรณีถึงรู้สึกไม่สบายใจทันที ส่วนเป็นความไม่สบายใจแบบไหน ตอนนี้เขาก็ไม่มีเวลามาสนใจ
หมอและพยาบาลรีบเข้ามา เข็นบุริศร์เข้าไปในห้องฉุกเฉินอีกครั้ง
นรมนอยากจะตามเข้าไป แต่ถูกคุณหมอห้ามไว้ข้างนอก
เธอยั้งสติไม่อยู่ไปหมด
นรมนนั่งลงบนพื้นที่ประตูห้องฉุกเฉิน ราวกับว่าเรี่ยวแรงทั้งหมดถูกพรากไป
ตอนที่พฤกษ์มาถึง ก็เห็นนรมนที่อยู่ในสภาพสิ้นหวังแบบนี้
เขารีบก้าวเข้ามา เอาเสื้อคลุมพาดอยู่บนไหล่ของนรมน
“คุณนรมน ประธานบุริศร์ต้องไม่เป็นอะไรครับ พื้นมันลง คุณลุกขึ้นก่อนเถอะครับ”
นรมนถูกพฤกษ์พยุงให้มานั่งเก้าอี้ แต่น้ำตาของเธอก็ไหลตลอด
เธอคิดมาเสมอว่าตัวเองจะมีความสุขเมื่อบุริศร์ตาย อย่างน้อยความทุกข์ทรมานมานานหลายปีก็ไม่ได้ถูกเอาเปรียบไปเปล่าๆ แต่เมื่อมันมาถึงชีวิตและความตายของเขา นรมนไม่สามารถหลอกตัวเองได้อีกต่อไป
เธอดูไร้ประโยชน์ใช่ไหม?
แต่เธอทนดูอยู่เฉยๆไม่ได้จริงๆ ไม่มีวิธีที่ทำให้ตัวเองไม่เสียใจ
พฤกษ์ไม่รู้จะปลอบใจนรมนยังไง
เขาก็เป็นห่วงบุริศร์ แต่ยังไงก็ตามเขาเป็นถึงผู้ชาย ตอนนี้นอกเหนือจากเคียงข้างเธอก็ไม่รู้จะทำอะไรแล้ว
ธรณีเข็นรถเข็นมา ยื่นผ้าเช็ดหน้าในมือออกไป
“เช็ดหน่อยเถอะ ถ้าเขาตาย ชีวิตผมคืนให้คุณ”
ธรณีพูดเสียงเบา แต่แฝงไปด้วยความเด็ดขาด
นรมนปัดผ้าเช็ดหน้าเขาทิ้ง พูดอย่างเกลียดชังว่า “ชีวิตของนายสำหรับฉันไม่มีค่าอะไรเลย! ธรณี นายหลีกไปซะ! ก่อนที่ฉันจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ หลีกไป!”
ดวงตาของเธอเป็นสีแดงเข้ม มีกลิ่นไอของความแค้น
ในขณะนี้ ธรณีไม่ต้องสงสัยเลยว่า นรมนอยากจะฆ่าเขาจริงๆ!
“คุณแคทเธอรี ขอโทษครับ!”
ธรณีขอโทษนรมนอย่างจริงจัง แต่เสียดายนรมนไม่รับ เธอลุกขึ้นมาทันที ในตอนที่อยากจะทำอะไรกับธรณี ทันใดนั้นทุกอย่างตรงหน้ามืดไปหมด แล้วสลบไปทั้งคน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
650 ตอนยังไม่จบเลยค่ะ...
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...