บทที่ 215 เขาหาว่าใครยั่วยุใคร
เสียงตะโกนนี้ทำให้นรมนตกใจเป็นอย่างมาก เธอจึงเผลอหยุดเดินไปชั่วขณะ
ในตอนนั้นเองกิมจิก็ไม่รู้ว่าโผล่มาจากที่ไหน เขาดิ่งตรงไปที่รเมศทันที
“ประธานรเมศ ดูสิครับ ทำไมคุณถึงได้ดื่มหนักขนาดนี้กัน เร็วเข้า ไปหาบริกรมาช่วยดูแลเขาหน่อย“
ขณะที่กิมจิกำลังพูด จอร์จก็รีบวิ่งเข้าแล้วจับรเมศแยกออกจากนรมนทันทีมาทันที
รเมศพูดอย่างไม่เต็มใจว่า “พวกแกไสหัวไปให้หมด นรมน เธออย่าไปนะ! รีบกลับมาหาฉันเดี๋ยวนี้!”
“ประธานรเมศ คุณดื่มหนักเกินไปแล้วนะครับ!”
แม้ว่ากิมจิจะดูผอมไปหน่อย แต่เขาก็ยังมีพละกำลัง ถึงอย่างนั้นก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี จึงจับรเมศมัดไว้ไม่ให้ขยับไปไหนได้
นรมนจึงใช้โอกาสนี้หนีออกจากFallen heavenไปพร้อมกับพฤกษ์อย่างรวดเร็ว
ทั้งสองคนรีบขึ้นไปบนรถ หัวใจของนรมนเต้นเร็วมาก เหงื่อเย็นๆ ไหลซึมไปทั่วทั้งหน้าผาก
พฤกษ์ไม่พูดอะไร เขารีบสตาร์ทรถแล้วขับทะยานออกไปทันที
นรมนรู้สึกสับสนมาก
เธอรู้ดีว่ารเมศรักเธอมาก แต่ตอนนี้เธอไม่สามารถให้อภัยสิ่งที่รเมศทำกับกมลได้ เดิมทีเธอคิดว่าตัวเองจะเกลียดผู้ชายคนนี้ไปแล้ว แต่ในพริบตานั้นสมองของเธอกลับว่างเปล่า ไม่สามารถควบคุมอะไรได้เลย
แท้จริงแล้วบุญคุณที่รเมศเคยช่วยเหลือเธอไว้เมื่อห้าปีก่อนยังคงอยู่ ความดีที่เขามีต่อเธอตลอดห้าปีนั้นก็สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน แต่ตอนนี้เรื่องระหว่างพวกเราไม่สามารถกลับไปเป็นดั่งเดิมได้แล้ว
ไม่ใช่แค่เพราะการที่รเมศซื้อตัวเธอและกักขังเธอเอาไว้ แต่ยังเป็นเพราะเรื่องของกมล เธอจึงไม่สามารถกลับไปซาบซึ้งในบุญคุณของเขาแบบเดิมได้อีกแล้ว
นรมนเอนหลังพิงกับเก้าอี้แล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
หลังจากที่รถขับออกไปได้สักพัก อยู่ๆ พฤกษ์ก็พูดออกมาว่า “คุณนายครับ มีคนกำลังไล่ตามเรามา”
ทันใดนั้นหัวใจของนรมนก็เต้นรัว
มองผ่านกระจกมองหลังไปก็เห็นว่ามีรถสีดำสำคัญกำลังวิ่งเรียงแถวไล่ตามมา ดูเหมือนว่าจะตามมาจริงๆ ด้วย
นรมนรู้สึกเป็นกังวลไม่น้อย
เป็นใครกันนะ
คนของตระกูลวัชโรทัยอย่างนั้นเหรอ
หรือว่าจะเป็นคนอื่น
นรมนขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยเสียงต่ำว่า “มีวิธีสลัดพวกเขาออกไปไหม”
“ผมจะลองดูครับ”
พฤกษ์เร่งความเร็วขึ้น แต่รถคันหลังก็เร่งความเร็วขึ้นด้วยเช่นกัน หลังจากนั้นเริ่มตะโกนใส่พวกเขาอย่างไม่มีใครยอมใคร
นรมนใจเต้นรัว มือจับโทรศัพท์เอาไว้แน่น แต่ไม่รู้ว่าควรที่จะโทรหาบุริศร์ดีหรือเปล่า
ในตอนนั้นเองอยู่ๆ พฤกษ์ก็เลี้ยวรถ แล้วขับตรงเข้าไปในเขตของพวกตระกูลชั้นสูง
ไม่รู้ว่าพฤกษ์แสดงอะไรให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพวกนั้นเห็น พวกเขาถึงได้ไม่เปิดทางให้ทันที
นรมนหันกลับไปมองข้างหลัง รถทั้งสามคันนั้นไม่ขับตามเข้ามา ดูเหมือนว่าพวกเขาจะหวาดกลัวเขตเล็กๆนี้มาก
“ที่นี่คือที่ไหน”
ความจริงแล้วนรมนเองก็น่าจะคุ้นเคยกับสหรัฐอเมริกาเป็นอย่างมาก อย่างไรเธอก็อยู่ที่นี่มาตั้งห้าปี แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่เคยไปสถานที่อย่างFallen heavenมาก่อน และก็ไม่เคยเข้ามาในเขตเล็กๆ นี้ด้วย
พฤกษ์ถอนหายใจอย่างโล่งอกแล้วพูดออกมาว่า “ผมเองก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ คุณไมค์ให้บัตรผ่านใบนี้กับผมมา บอกว่าหากเกิดเรื่องอะไรขึ้นก็ให้มาหาเขาที่เขตเล็กๆ แห่งนี้ เมื่อกี้นี้ผมก็แค่ลองเสี่ยงโชคดู ไม่คิดว่าจะได้ผลจริงๆ ”
“ถ้าอย่างนั้นตอนนี้พวกเราจะทำยังไงกันดี”
นรมนเห็นว่าถึงแม้รถพวกนั้นจะไม่ขับตามเข้ามา แต่ก็ไม่ได้ขับออกไปไหน เห็นได้ชัดว่าจะดักรอพวกเขาอยู่ตรงนั้น
พฤกษ์เอ่ยเสียงต่ำว่า “ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไปหาคุณไมค์กันเถอะครับ ประธานบุริศร์เองก็น่าจะอยู่ที่นั่น คุณไมค์ค่อนข้างที่จะมีอิทธิพลในสหรัฐอเมริกาไม่น้อย พวกนั้นไม่น่าจะกล้าเข้ามายุ่ง”
ในเมื่อตอนนี้มาถึงจุดนี้แล้ว นรมนก็ไม่มีทางเลือกอื่น จึงทำได้เพียงพยักหน้า
พฤกษ์ขับรถไปที่หน้าประตูบ้านของไมค์
ที่นี่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยดูแลอย่างแน่นหนา
นรมนจึงเริ่มอยากรู้เรื่องตัวตนของไมค์เล็กน้อย
“ไมค์คนนี้เป็นใครกัน”
“เป็นลูกชายของผู้ว่าการรัฐครับ ความจริงแล้วสถานะของเขาไม่ค่อยชัดเจน แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับประธานบุริศร์ค่อนข้างที่จะดีมาก เป็นไปได้ว่าประธานบุริศร์อ่ะจะรู้รายละเอียดเกี่ยวกับตัวเขา”
พฤกษ์พูดจบก็ลงจากรถ
นรมนมาถึงขั้นนี้แล้วก็จำเป็นที่จะต้องลงตามไป
เธอกับพฤกษ์เดินไปที่หน้าประตู ทว่ากลับถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยขวางไว้
พฤกษ์แสดงบัตรผ่านที่ไมค์ให้เขามา ฝั่งนั้นจึงเริ่มติดต่อไปยังคนข้างใน หลังจากนั้นไม่นานบุริศร์ก็เดินออกมา
“นรมนคุณมาได้ยังไง”
บุริศร์ค่อนข้างแปลกใจกับการปรากฏตัวของนรมน
เมื่อนรมนเห็นบุริศร์ หัวใจของเธอก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย
“ฉันมีปัญหานิดหน่อยน่ะค่ะ”
ต่อให้เธอไม่พูดตรงๆ บุริศร์ก็มองออก หลังจากนั้นก็รีบดึงมือเธอเข้าไปข้างใน
การตกแต่งภายในบ้านของไมค์หรูหราเป็นอย่างมาก ทันทีที่เข้าไปก็จะพบกับสระว่ายน้ำ แล้วก็ยังมีน้ำพุ ทว่าบุริศร์กลับไม่ได้พูดอะไร เขาจูงมือนรมนเข้าไปในห้องโถงด้านข้าง
“พี่สะใภ้เหรอ รีบนั่งลงก่อนเถอะ!”
ไมค์เดินออกมาจากข้างในห้องทั้งรอยยิ้ม ทั่วทั้งร่างเต็มไปด้วยเหงื่อ ดูเหมือนว่าเมื่อกี้นี้กำลังออกกำลังกายอยู่ แต่บนตัวกลับมีรอยฟกช้ำอยู่จำนวนหนึ่ง
นรมนยอมรับเลยว่าไมค์รูปร่างหน้าตาดีมากจริงๆ แต่เธอก็ไม่ได้จ้องมองเขานานนัก เพียงแต่ยิ้มแล้วพยักหน้าให้ ก่อนจะพูดกับบุริศร์ว่า “ที่ด้านนอกมีคนไล่ตามเรามา พฤกษ์เลยจำเป็นต้องขับเข้ามาข้างในนี้ คุณว่าพวกเราจะทำยังไงต่อไปดี”
บุริศร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย มองไมค์ที่ไม่ได้ส่วนชุดคลุม แล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบว่า “เมื่อกี้นี้ยังโดนอัดไม่พอใช่ไหม”
“อย่ามา ฉันไปทำอะไรอีกแล้วเหรอ”
ไมค์รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมจะตายอยู่แล้ว เขาหาว่าใครยั่วยุใคร แค่บอกว่าจะซ้อมกับเขาโดยไม่พูดอะไรสักคำ
ฝึกซ้อมกับผีน่ะสิ แค่หาคนมารับบทเป็นกระสอบทรายชัดๆ
นรมนรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง เธอไม่ควรคุยเรื่องนี้กับบุริศร์ที่นี่
เป็นธรรมดาที่บุริศร์จะรู้ดีว่านรมนกำลังคิดอะไรอยู่ เขาจึงเอ่ยเสียงเบาว่า “ไม่เป็นไร ไมค์เป็นคนของเรา เขาไม่พูดอะไรหรอก”
หลังจากพูดเขามองไปที่ไมค์อีกครั้ง ทว่าสีหน้ากลับแตกต่างจากตอนที่มองนรมนอย่างสิ้นเชิง
“นายเองก็อย่าเสียงดังนัก ฉันเองก็เพิ่งจะรู้เหมือนกันว่าFallen heavenเป็นกิจการของตระกูลโตเล็ก แต่ไม่ใช่ของฉันนะ เป็นของพี่สะใภ้นายต่างหาก นายไม่ต้องสอดมือเข้าไปยุ่ง”
“อะไรนะ”
คราวนี้ไมค์ประหลาดใจยิ่งกว่าเดิมเสียอีก
เขารีบเข้าไปนั่งข้างๆ นรมนจากนั้นก็พูดอย่างประจบประแจงว่า “พี่สะใภ้คิดว่ายังไงถ้าผมจะขอแบ่งอำนาจหรือร่วมหุ้นสักหน่อย”
“ไสหัวไปให้ไกลเลย!”
บุริศร์ถีบไปทีหนึ่ง
ไมค์กลับยังคงทำตัวหน้าหนาว ย้ายมาอยู่ข้างกายนรมนแล้วพูดต่อว่า “พี่สะใภ้ ปกติพี่ก็ไม่ค่อยจะสะดวกหรอกหน้าเองใช่ไหม และที่นี่ก็ไม่ใช่ถิ่นของตระกูลโตเล็กด้วย พี่ให้ผมร่วมหุ้น ผมรับรองว่าจะช่วยพี่จัดการทุกอย่างเอง”
ถึงตรงนี้แล้วก็รู้ได้ทันทีว่าผลกำไรของFallen heavenค่อนข้างที่จะน่าดูชมเลยทีเดียว ใครก็ต่างต้องการเข้ามามีส่วนร่วมทั้งนั้น แต่ผู้ปกครองที่อยู่เบื้องหลังFallen heavenนั้นลึกลับเกินไป ไม่มีคนรู้ว่าเป็นใคร วันนี้ไมค์ได้รู้แล้วว่าเป็นนรมนที่อยู่ตรงหน้าเขา จึงเป็นธรรมดาที่ไม่คิดจะปล่อยไป
นรมนถูกท่าทีของเขาทำให้รับมือไม่ทัน จึงมองไปที่บุริศร์อย่างช่วยไม่ได้ คนคนนี้คือคนที่บุริศร์นับถือเป็นพี่น้อง และดูจากความสนิทสนมระหว่างเขากับบุริศร์แล้วเรียกได้ว่าน่าจะเกิดตายแทนกันได้ ความจริงแล้วที่ไมค์พูดก็มีเหตุผลอยู่ เธอไม่ได้สะดวกที่จะออกมาตลอดเวลาจริงๆ เพียงแต่เธอเพิ่งจะได้รับมอบอาณาจักรรัตติกาลมา แต่กลับพาไมค์เข้าไปทันที ไม่รู้ว่าแม่บุริศร์จะคิดเห็นอย่างไร
เห็นได้ชัดว่าบุริศร์รู้จักเธอเป็นอย่างดี
เขาจึงพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า “เจ้าโง่คนนี้อะไรก็ดีไปเสียหมด ทั้งยังรักในทรัพย์สินเงินทอง เรื่องของFallen heavenเธอก็กลับไปลองคิดดูเสียก่อน ไม่จำเป็นที่จะต้องรีบให้คำตอบเขา”
“ไม่ได้ บุริศร์ นายนี่มันไม่ได้เรื่องเลย ฉันช่วยนายไว้ตั้งเยอะขนาดนั้น แต่นายกลับไม่ยอมมอบหนทางการทำเงินให้ฉันสักครั้งเนี่ยนะ”
ไมค์รู้สึกสะเทือนใจเล็กน้อย
บุริศร์พูดเสียงต่ำ “เรื่องในนี้ไม่ใช่แค่เกี่ยวกับการทำเงินเท่านั้น ถ้าจะให้นายเข้ามา มีหลายอย่างที่จะต้องพูดเอาไว้ให้ชัดเจนตั้งแต่เนิ่นๆ แล้วก็ยังมีหลายเรื่องที่ไม่สามารถพูดออกมาให้ชัดเจนได้ในทันที ดังนั้นจึงรอก่อนแล้วค่อยพูดกัน”
“ก็ได้”
เมื่อเห็นท่าทีเช่นนี้ของบุริศร์แล้ว ไมค์ก็ไม่ได้ดึงดันอะไรต่ออีก จากนั้นเขาก็สั่งให้คนยกอาหารมา
บุริศร์เล่าเรื่องที่นรมนถูกคนไล่ตามมาให้เขาฟัง
ไมค์ค่อนข้างที่จะแปลกใจ
“มีคนสะกดรอยตามพี่สะใภ้มาจากหน้าประตูของFallen heavenอย่างนั้นเหรอ เป็นคนของใครกันนะ”
“ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ว่าฉันบังเอิญเจอกับรเมศที่Fallen heaven เขาน่าจะจำฉันได้ ถ้าไม่ใช่เพราะว่าผู้จัดการกิมจิขวางเอา ไว้ฉันก็คงจะออกมาไม่ได้”
นรมนรู้สึกเสียใจทีหลังไม่น้อย
บุริศร์ขมวดคิ้วแล้วพูดเสียงทุ้มต่ำว่า “ตอนนี้ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นใคร เรื่องการโจมตีตระกูลวัชโรทัยก็ยังต้องดำเนินการ”
นรมนพูดเสียงเบา “ฉันได้ยินมาว่าคุณไปตามหาคนถึงตระกูลวัชโรทัย”
“ใช่ ผมอยากจะดูว่าตระกูลวัชโรทัยจะเอาอะไรมาให้ผม”
บุริศร์ยกยิ้มเย็นชา ในเวลานี้ดูเหมือนว่าเขาจะหายเป็นปกติแล้ว
นรมนไม่ได้พูดอะไร เธอยังคงนิ่งเงียบต่อไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
650 ตอนยังไม่จบเลยค่ะ...
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...