บทที่ 234 เขาสำคัญที่สุด
นรมนเดิมทีก็คิดมากอยู่แล้ว ตอนนี้ถูกตุลยามาปั่นป่วนอีก จิตใจก็ยิ่งกลัดกลุ้ม
“ตุลยา ผู้ชายในโลกมีตั้งมากมาย ทำไมเธอต้องมาแย่งกับฉันด้วย”
“ก็เพราะผู้ชายอย่างบุริศร์คนนี้ดีไง ของดีๆต้องแย่งถึงจะได้มา เธอไม่รู้เหรอ หรือเธอคิดว่าบุริศร์เกิดมาเพื่อทำดีกับเธอ เธอถือสิทธิ์อะไรมิทราบ”
คำพูดตุลยาทำให้นรมนไม่รู้จะตอบอย่างไรดี
ใช่สิ!
ถือสิทธิ์อะไร
ก็สิทธิ์ความรู้สึกที่บุริศร์มีต่อเธออย่างไรเล่า
ความรู้สึกที่ไม่ว่าเธอจะทำอะไร บุริศร์ก็จะมีแต่อดทนและอภัยให้เธอเสมอ
แล้วเธอล่ะถือสิทธิ์อะไรมาบอกว่าสิ่งที่ตัวเองคิดนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
นรมนเหมือนจะคิดอะไรได้ จึงอยากไปหาบุริศร์เพื่ออธิบายให้เข้าใจ ความรู้สึกที่เธอมีต่อรเมศคือความซาบซึ้งใจ แต่ไม่ใช่เป็นแบบที่เขาคิดอย่างแน่นอน
เธอก้าวเท้าเพื่อจะจากไป แต่ถูกตุลยาขัดขวางไว้
“หลบไป!”
“ให้ฉันหลบน่ะได้ แต่ต้องยกบุริศร์ให้ฉันก่อน!”
ตุลยายิ้มขึ้น ถึงแม้จะน่ากลัว แต่ก็ไม่ได้ทำให้นรมนตกใจกลัวแต่อย่างใด
“บุริศร์ไม่ใช่สิ่งของ ที่จะขอกันได้ง่ายๆ ถ้าเธอมีปัญญาทำให้เขาชอบเธอ อย่างนั้นเธอก็แย่งไปได้เลย”
“เธอช่างมั่นหน้ามั่นโหนกจังเลยนะ คงคิดว่าใบหน้าของฉันที่เสียโฉมใบนี้จะแย่งบุริศร์มาไม่ได้งั้นสิ ฉันจะบอกเธอให้นะ ถึงแม้จะไม่มีMrs.Yan ฉันก็สามารถทำให้ความงามของฉันให้กลับคืนมาได้ ไม่เชื่อก็รอดูแล้วกัน!”
นรมนไม่ได้ใส่ใจการท้าทายของตุลยา
บุริศร์เป็นคนอย่างไรเธอนั้นเข้าใจดีที่สุด เมื่อเขาอ่อนไหวกับใครแล้วต่อให้ตายก็ไม่มีวันเปลี่ยนใจ ถึงแม้เมื่อสักครู่เธอจะโกรธผิดหวัง แต่ก็ไม่ถึงกับทำให้บุริศร์ตัดสินใจทำเรื่องที่ผิด
เพราะฉะนั้นเสียงรังควานของตุลยานั้น ไม่ได้ทำให้นรมนใส่ใจแม้แต่น้อย เธอรีบจากไปอย่างรวดเร็ว เพื่อไปหาบุริศร์ เมื่อไปถึงกลับพบว่าบุริศร์ออกไปแล้ว
พฤกษ์มีอาการลังเลในการพูดเล็กน้อย
“มีอะไรก็พูดมาเถอะ”
นรมนมองท่าทางอึดอัดของเขา จึงได้ปริปากพูดออกมาก่อน
พฤกษ์เกาหัวด้วยความเกรงใจแล้วถามขึ้น : “คุณนายครับ คุณทะเลาะกับประธานบุริศร์หรือครับ”
“คุณดูออกเหรอ”
นรมนยิ้มทั้งน้ำตา
ถ้าแม้แต่พฤกษ์ยังดูออก แล้วจะมีใครดูไม่ออกว่าบุริศร์กำลังโกรธอยู่
พฤกษ์ส่ายหัวแล้วพูด : “ไม่ใช่ว่าผมดูออก แต่เพราะผมรู้สึกได้ ก่อนหน้านั้นประธานบุริศร์ให้พวกผมไปเชิญนักออกแบบจิวเวลรี่มาออกแบบแหวนแต่งงาน ตอนนี้นักออกแบบคนนั้นงานยุ่งมาก จึงให้ผมไปถามประธานบุริศร์ว่าสามารถเปลี่ยนวันเวลาได้ไหม ประธานบุริศร์กลับตอบว่าแล้วแต่”
ประโยคนี้ทำให้นรมนตกใจ
“แหวนแต่งงานเหรอ บุริศร์ให้คุณหานักออกแบบเพื่อออกแบบแหวนแต่งงานเหรอ”
“ใช่ครับ ประธานบุริศร์ไม่ได้บอกคุณเหรอครับ ประธานบุริศร์ได้นำขนาดนิ้วมือของคุณและของเขามาให้ผมแล้วด้วย เขาบอกว่าอยากจัดงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่ให้กับคุณ อยากให้ทุกคนในโลกใบนี้รู้ว่าคุณเป็นภรรยาของประธานบุริศร์”
เมื่อได้ยินพฤกษ์พูดเช่นนี้ จิตใจนรมนก็รู้สึกทรมาน
บุริศร์จริงจังจริงใจต้องการที่จะแต่งงานกับเธอ อยากมอบสถานะที่ชัดเจนให้กับเธอ ถึงขนาดที่อยากจะเซอร์ไพรส์เธอ แต่เธอกลับทำอะไรลงไป
เพราะการหายตัวไปของแยม เพราะไม่กี่ประโยคของรเมศ ทำให้เธอทำอย่างนั้นกับบุริศร์ ตั้งคำถามกับเขา
เธอเป็นอะไรไป
หรือว่าจะเป็นเหมือนอย่างที่บุริศร์พูด ในใจเธอมีรเมศอยู่อย่างนั้นหรือ
หรือด้วยผลกระทบจากคำพูดของรเมศ
นรมนรู้สึกว่าตัวเองนั้นเลวสิ้นดี
ทำไมเธอถึงทำแบบนี้
ที่บุริศร์ทำกับรเมศนั้นทำไปเพื่ออะไร คนอื่นไม่รู้ แต่เธอจะไม่เข้าใจเชียวหรือ
ในวันที่รเมศกักขังหน่วงเหนี่ยวเธอนั้น บุริศร์จะต้องทนทุกข์ทรมาน ก่อนที่บุริศร์จะไปให้ความช่วยเหลือเธอออกมานั้น ความตระหนกของเธอ ความกระอักกระอ่วนใจของเธอ แม้แต่ตอนที่กลับมาแล้ว อุปสรรคที่อยู่ภายในใจของเธอ คอยทำร้ายบุริศร์อยู่ตลอดเวลา
บุริศร์รักเธอ เปรียบเธอเหมือนสิ่งมีค่าที่อยู่ในมือ เห็นรเมศทำกับเธอเช่นนี้ ทำไมเขาจะไม่โกรธ และกมลซึ่งเป็นลูกสาวของเขา ถูกรเมศใช้ความรักเพื่อวางมอร์ฟีนเธอ ทำให้ร่างกายของกมลในตอนนี้เลวร้ายลงกว่าที่คิด ในฐานะพ่อคนหนึ่ง เขาไม่สมควรเด็ดหัวของรเมศอย่างนั้นเหรอ
ไม่ว่าจะกระทำต่อเธอหรือกมล บุริศร์ก็จำฝังไว้ในก้นบึ้งของหัวใจ แต่เมื่อเขาลงมือกับตระกูลวัชโรทัย กลับปราศจากคำพูดจากเธอ ในฐานะที่เป็นภรรยา เป็นการไม่ให้เกียรติสามี ในฐานะความเป็นแม่นั้นเป็นการไม่มีความรับผิดชอบต่อกมล
แต่ว่าเธอกลับคำนึงถึงแต่บุญคุณที่รเมศได้ช่วยเธอไว้เมื่อห้าปีก่อน
หรือว่าสิ่งที่รเมศได้กระทำในภายหลังเทียบไม่ได้กับบุญคุณที่เคยช่วยเธอไว้
ถ้าอย่างนั้นเธอยังลังเลอะไรอยู่
นรมนรู้สึกว่าตัวเองคงป่วยแล้วจริงๆ หรือว่าเธอรู้สึกต่อรเมศไม่เพียงแค่หนี้บุญคุณ
เธอเองก็เลอะเลือนไปแล้ว
พฤกษ์เห็นนรมนยืนอยู่ตรงนั้นพูดจาไม่รู้เรื่อง จึงรู้สึกลนลาน
“คุณนายครับ คุณเป็นอะไรหรือเปล่า ประธานบุริศร์แค่โกรธชั่วขณะเท่านั้น คุณไม่ต้องเป็นห่วง เขาออกไปเดินเล่นสักพักเดี๋ยวก็กลับมา ปกติประธานบุริศร์เป็นคนโมโหง่าย คุณก็รู้ คุณอย่าได้ถือสาเขาเลยนะ”
พฤกษ์พูดแบบนี้ทำให้นรมนยิ่งรู้สึกว่าตัวเองยิ่งไม่ได้เรื่อง
อะไรคืออย่าไปถือสาบุริศร์
เหมือนกับว่าตั้งแต่ต้นจนจบมีแต่เป็นบุริศร์ที่ตามใจเธอ ไม่ถือสาเธอ
คำพูดเมื่อสักครู่นี้ก็ไม่รู้ได้ทำร้ายบุริศร์หรือเปล่า
นรมนกลัดกลุ้มใจมาก
หัวสมองชองนรมนสับสนไปหมด
บุริศร์ถึงแม้ว่าจะโกรธมาก แต่ว่าเขาไม่มีทางโกหกนรมน
เมื่อสักครู่นั้นจิตใจเธอคงถูกครอบงำ ถึงได้พูดแบบนั้นกับบุริศร์ ตอนนี้เมื่อคิดๆดูแล้วรู้สึกเสียใจ
ตอนนี้มานั่งทบทวนคำพูดของบุริศร์ ถ้าหากสิ่งที่บุริศร์พูดเป็นความจริง อย่างนั้นการหายตัวไปของพ่อกับแม่มันมีประโยชน์ต่อแยมอย่างไร
แล้วทำไมเธอถึงต้องทำแบบนี้
นรมนคิดไม่ตก เธอในตอนนี้หวังเพียงต้องการรู้ข่าวคราวของแยม บางทีรู้ข่าวคราวของแยมแล้วก็อาจจะรู้ความจริงทั้งหมด ถึงตอนนั้นก็อาจจะตามหาพ่อกับแม่เจอ
เมื่อนึกถึงพ่อกับแม่ จิตใจนรมนก็ร้อนรนดุจไฟแผดเผา แต่กลับทำอะไรไม่ได้
เธอเปิดทีวีขึ้น หวังว่าทีวีนั้นจะช่วยเบี่ยงเบนความสนใจของเธอ แต่กลับต้องตกใจค้างกับข่าวในนั้น
ไม่นานมานี้เพิ่งจะได้ยินบุริศร์ประกาศศึกกับรเมศ ทำให้ในงานเกิดความโกลาหลขึ้น และรเมศเพื่อได้มาซึ่งพื้นที่ชานเมืองเขตทางใต้ ได้ไปยืมเงินจากสถาบันการเงินvcแห่งหนึ่ง ได้ถอนเงินกองทุนมาบางส่วน มองจากภายนอกต่อให้ตระกูลวัชโรทัยจะถูกตระกูลโตเล็กฟ้องร้อง ก็ทำให้ตัวเองเสียหายไม่มาก
แต่ว่าข่าวในวันนี้กลับเปิดเผยว่า สถาบันการเงินvcที่ให้รเมศไปกู้ยืมเงินเป็นของบุริศร์!
บุริศร์เป็นผู้ดูแลสถาบันการเงินvc ตอนนี้ต้องการถอดถอนการกู้ยืมเงินของบริษัทวัชโรทัย แค่เพียงชั่วครู่เดียวก็ทำให้เกิดคลื่นน้ำในแวดวงธุรกิจ
ตระกูลวัชโรทัยเป็นตระกูลเก่าแก่ร้อยปี ฝังรากลึกในสหรัฐอเมริกา บุริศร์นั้นมาจากเมืองชลธีเพียงลำพัง ทุกคนเลยมองข้ามบุริศร์ แต่ว่าการฟาดฟันครั้งนี้ดูเหมือนบุริศร์อยู่ตำแหน่งที่เหนือกว่า
นรมนดูท่าทางเย็นชาของบุริศร์ในทีวี รู้ดีว่าเขาถูกคำพูดเมื่อสักครู่ทำร้าย ดังนั้นจึงได้เริ่มดำเนินการลงมือกับรเมศ
ประหลาดใจไหม
เจ็บปวดไหม
รู้สึกผิดต่อรเมศหรือไม่
นรมนกลับไม่ได้มีความรู้สึกเช่นนี้ รู้สึกว่าจิตใจสงบดุจน้ำนิ่ง
เห็นได้ชัดว่าภายในใจของเธอนั้น บุริศร์กับลูกๆนั้นสำคัญที่สุด ความขัดแย้งที่ฝังแน่นอยู่ภายในใจก่อนหน้านี้ ในที่สุดเธอก็เข้าใจแล้วในตอนนี้
รเมศช่วยเธอเมื่อห้าปีก่อน แต่หลังจากห้าปีสิ่งที่เขากระทำต่อเธอกับกมลทั้งหมดนั้น เพียงพอที่จะลบล้างบุญคุณชีวิตเมื่อห้าปีก่อนแล้วไม่ใช่เหรอ
นรมนมองท่าทางตะลีตะลานของรเมศ เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นรเมศตะลีตะลานเช่นนี้
ไม่พูดไม่ได้ว่า บุริศร์นั้นมีวิธีการที่สุดยอด และผู้ชายคนนี้ก็เป็นสามีของเธอ!
นรมนจู่ๆก็รู้สึกภาคภูมิใจ
ดูอย่างไรเธอก็รู้สึกว่าบุริศร์นั้นช่างหล่อเหลือเกิน
เวลาที่เขาโกรธ ท่าทีที่เย็นชานั้นหล่อมาก แม้แต่ตอนนี้ที่เขาไม่สนใจไยดี ท่าทางที่ดูถูกรเมศก็ช่างหล่อสุดๆ
นรมนรู้สึกว่าตัวเองโดนพิษเข้าเสียแล้ว ตัวเองเป็นได้เช่นนี้เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รักบุริศร์
เธอแทบอยากจะโทรหาบุริศร์ เพื่อบอกความในใจให้เขาได้รับรู้ รเมศไม่ได้สำคัญขนาดนั้นสำหรับเธอ เขาต่างหากที่สำคัญที่สุด
แต่เมื่อนรมนหยิบโทรศัพท์ออกมา โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น เป็นหมายเลขที่คุ้นเคยจนทำให้นรมนตกใจเล็กน้อย จนในใจรู้สึกถึงความไม่สบายใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
650 ตอนยังไม่จบเลยค่ะ...
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...