บทที่ 235 คุณกำลังข่มขู่ผมเหรอ
เป็นแยม
เป็นหมายเลขโทรศัพท์ของแยม
มือของนรมนสั่นเทา
ก่อนหน้านี้เธอทะเลาะกับบุริศร์ด้วยเรื่องของแยม ตอนนี้กลับได้รับสายของแยม
ทำไมเมื่อสักครู่เธอไม่รับโทรศัพท์
หรือว่ามีความเกี่ยวเนื่องกัน
นรมนดูทีวีที่รายงานข่าวอย่างต่อเนื่อง ความคิดไม่ดีได้แวบเข้ามาในหัว
หรือว่าแยมต้องการปกป้องรเมศ
ทั้งหมดนี้เป็นแผนการของรเมศ
นรมนที่กำลังคิดเช่นนี้ และโทรศัพท์ก็ยังคงดังไม่หยุด
เธอจึงต้องหายใจเข้าลึกๆ แล้วข่มอารมณ์เอาไว้ แล้วก็กดรับสาย
“นรมน ช่วยฉันด้วย! รีบมาช่วยฉันที!”
เสียงแยมดังมาจากโทรศัพท์
นรมนในตอนนี้ไม่ได้พะวงและเป็นห่วงเหมือนก่อนหน้านี้
เธอจ้องรเมศในทีวีที่ท่าทางดูตะลีตะลาน แต่ว่าเธอกลับมีอารมณ์ที่อธิบายไม่ถูกได้แวบเข้ามาในดวงตา
นรมนดูไม่เข้าใจ แต่มีความรู้สึกว่าเรื่องนี้บางทีเกี่ยวข้องกับรเมศ
“แยม เธออยู่ที่ไหน”
เสียงของนรมนราบเรียบน่ากลัว ทำให้แยมชะงักไปชั่วขณะ แล้วก็กลับมาพูดด้วยเสียงที่สั่นกลัว : ฉันไม่รู้ เธอรีบมาช่วยฉันที ฉันกลัวมาก!”
ทำไมเธอต้องหนี”
นรมนไม่ถามสถานการณ์ของเธอ แต่กลับถามขึ้นด้วยคำถามนี้”
แยมจึงร้องไห้ขึ้น
“นรมน เธอเป็นอะไรไป หนีอะไรกัน ฉันถูกคนจับตัวไป ฉันอยู่บ้านดีๆจู่ๆมีคนเข้ามาทำร้ายจนสลบไป จนกระทั่งฉันตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองตัวที่นี่แล้ว ฉันไม่รู้ว่าที่นี่ที่ไหน แต่ว่าในนี้มืดมาก ฉันกลัวมากเลย”
คำพูดของแยมไม่เป็นที่ผิดสังเกต แต่ว่าทำไมจะบังเอิญอะไรเช่นนี้
บังเอิญเข้ากับที่บุริศร์ไปหาเพื่อต้องการคลายสงสัยข่าวการหายตัวพ่อกับแม่ แล้วเธอก็ถูกคนจับตัวไป
“แยม พวกเราเป็นเพื่อนกันใช่ไหม”
คำพูดนรมนทำให้แยมฉงนใจ
“ก็เป็นเพื่อนกันสิ”
“อย่างนั้นเธอบอกฉันมาว่าทำไมเธอถึงโทรศัพท์หาพ่อกับแม่ของฉัน เธอได้หมายเลขโทรศัพท์พ่อกับแม่ของฉันมาจากที่ไหน”
นรมนยิงคำถามติดๆ จนทำให้แยมไม่รู้ว่าควรจะตอบอย่างไรดี ทันในนั้นก็ได้ยินเสียงคุ้นๆของแม่ได้แทรกเข้ามาในเวลานี้
“ที่รัก ที่รัก คุณอย่าหลับนะ! ตื่นขึ้นมาสิ!”
คำพูดนี้เป็นเสียงของแม่นรมนที่บังเอิญดังแทรกเข้ามา เสียงที่ร้อนรน เป็นห่วง และก็ร้องห่มร้องไห้
นรมนเกิดอาการกระวนกระวายขึ้นในทันใด
“แยม เธออยู่ที่หน”
นรมนไม่สามารถที่จะอยู่นิ่งได้อีก
ไม่ว่านี่จะเป็นกับดักของรเมศ หรือเป็นแผนร่วมมือกันของแยมกับรเมศก็ตาม เธอก็ไม่สามารถที่จะใจเย็นได้อีก
ก่อนหน้านี้ได้รับรูปถ่ายของพ่อกับแม่ของเธอ ก็ทำให้เป็นกังวลมาก ตอนนี้ได้ยินเสียงเรียกของแม่ นรมนใจแทบแตกสลาย
ต่อให้อันตรายเฉกเช่นภูเขาดุจคมมีดหรือจะเป็นทะเลเพลิง เธอก็จะพร้อมที่ลุยฝ่าไป
แยมพูดทั้งร้องไห้: ฉันไม่รู้ ที่นี่มืดมาก อีกทั้งยังมีคนอื่นอยู่ด้วย ฉันเหมือนจะได้ยินเสียงน้ำทะเล ไม่รู้ว่าอยู่ใกล้ทะเลหรือเปล่า”
นรมนยังอยากจะถามรายละเอียดเพิ่มเติม แต่สายแยมได้กดวางลงทันใด
เมื่อนรมนโทรกลับไป ฝ่ายนั้นได้ปิดเครื่องไปแล้ว
ทะเลเหรอ
นรมนไม่รู้ว่านี่ใช่เหยื่อล่อหรือเปล่า แต่เธอไม่สามารถที่จะไม่ทำอะไรไม่ได้
เธอส่งข้อความให้บุริศร์ ยังไม่ทันได้ส่งออกไป เหมือนเธอฉุกคิดอะไรได้แล้วก็ลบข้อความทิ้งไป
การโทรครั้งนี้เห็นได้ชัดว่ามีคนแอบฟังอยู่
เธอลุกขึ้นเดินออกจากห้อง และไปหาพฤกษ์ในลำดับแรก
“ฉันขอยืมใช้โทรศัพท์หน่อย”
พฤกษ์ไม่รีรอ รีบยื่นโทรศัพท์ตัวเองให้กับนรมน
นรมนหยิบโทรศัพท์มา จากนั้นก็รีบส่งข้อความให้บุริศร์ เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ รวมถึงบอกในสิ่งที่ตัวเองคาดเดา
เธอบอกว่าเธอสงสัยนี่เป็นแผนการทั้งหมดที่รเมศกับแยมได้วางแผนไว้
ถึงแม้จะไม่รู้ว่าทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ ทำไมแยมถึงช่วยรเมศมาตลบหลังเธอ แต่นรมนก็ไม่อาจไม่บอกในสิ่งที่ตัวเองคาดเดาให้กับบุริศร์รับรู้
เธอไม่สามารถเอาความเป็นความตายของพ่อแม่เธอมาเดิมพัน
บุริศร์ยังอยู่สถานที่ถ่ายรูป ที่รอบๆรายล้อมไปด้วยนักข่าว
โทรศัพท์ของเขาดังขึ้นทีหนึ่งจากนั้นก็เงียบไป
เห็นเป็นหมายเลขโทรศัพท์ของพฤกษ์ บุริศร์ได้สไลด์เพื่อปลดล็อก และเห็นข้อความจากนรมน
ในความคิดของเขา กานต์ยังหาไม่เจอ บางทีที่บุริศร์ฟาดฟันกับเขาเช่นนี้คงคิดว่ากานต์อยู่ในกำมือของเขา ดังนั้นถึงได้บีบบังคับเขาเช่นนี้ ขอเพียงเขายังคงคิดแบบนี้ บุริศร์ก้ไม่กล้าที่จะพูดเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างนรมนกับเขา แต่ว่าเขานึกไม่ถึงว่าบุริศร์นั้นกลับพูดออกมา
หรือว่าเขาไม่สนใจความเป็นความตายของกานต์แล้ว
รเมศขมวดคิ้วขึ้น
“ประธานบุริศร์พูดตลกจังเลย ห้าปีก่อนผมช่วยภรรยาของคุณไว้ ห้าปีต่อมาคุณมาที่นี่เพื่อบีบบังคับตระกูลวัชโรทัย ช่างไม่สมเหตุสมผล หรือว่าบุญคุณต้องชำระ
รเมศยิงคำถามตรงๆไปที่บุริศร์
บุริศร์ยิ้มแล้วพูดอย่างเย้ยหยัน : “ทำไมผมถึงต้องทำแบบนี้ประธานรเมศย่อมรู้ดี ผมขอขอบคุณที่คุณช่วยภรรยาไว้ แต่เรื่องที่คุณใช้บุญคุณการช่วยเหลือครั้งนั้นมาข่มขู่คุกคาม กักขังหน่วงเหนี่ยวภรรยาผม หรือว่าผมไม่ควรที่จะตอบโต้ เรื่องคุณวางยากมลลูกสาวผม หรือผมไม่ควรทางความยุติธรรมจากคุณ
“ประธานบุริศร์ จะพูดอะไรต้องมีหลักฐาน ที่คุณพูดมาทั้งหมดมีหลักฐานหรือเปล่า เท่าที่ผมรู้ คุณนายบุริศร์ก็อยู่กับคุณในตอนนี้ อยู่สถานพักฟื้นไม่ใช่เหรอ และกมลลูกสาวของคุณ ห้าปีที่ผ่านมาก็เป็นผมที่ให้รักษาตัวที่โรงพยาบาลเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก โรงพยาบาลของตระกูลมาโดยตลอด ในจุดนี้ทุกๆคนก็รู้ ผมไม่รู้ว่าประธานบุริศร์ทำไมถึงทำกับผมแบบนี้ ถึงขนาดต้องใส่ร้ายผม ผมแค่ทำเรื่องดี ช่วยชีวิตคุณนายไว้เท่านั้นเอง ประธานบุริศร์กลับมาบีบบังคับกันเช่นนี้ หรือว่าการที่ผมช่วยภรรยาและลูกสาวท่านให้มีชีวิตอยู่ต่อบนโลกนี้เป็นการคุกคามคุณอย่างนั้นเหรอ”
การพลิกผิดให้เป็นถูกของรเมศ ทำให้บุริศร์ถึงกับต้องชื่นชม
เขานั้นไม่มีหลักฐานเกี่ยวกับการกระทำของรเมศทั้งหมด แม้จะมีใบเสร็จของการซื้อFallen heaven แต่ในเวลานี้เขาก็ไม่อาจจะเอาออกมาได้ มิเช่นนั้นสถานะของนรมนจะถูกผู้คนสงสัยและคาดเดาไปต่างๆนานา จนถึงขึ้นอาจมีคำพูดที่ไม่ดีเกิดขึ้น
และนี่ไม่ใช่สิ่งที่บุริศร์ต้องการเห็น
เขามองท่าทีที่มั่นอกมั่นใจของรเมศ จนแทบอยากฉีกเขาให้เป็นส่วนๆ
ไม่น่าเชื่อว่าผู้ชายคนนี้สามารถทำให้นรมนรู้สึกว่าเลิศเลอเพอร์เฟค
เธอตาบอดไปหรือเปล่า
นึกถึงนรมนก็ไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน มีอันตรายอะไรหรือเปล่า ดวงตาบุริศร์ค่อยๆเย็นลง”
“รเมศ คุณควรจะภาวนาให้ภรรยาผมปลอดภัย ไม่อย่างนั้นผมจะใช้ตระกูลวัชโรทัยทั้งโคตรในการเซ่นไหว้!”
“นี่ประธานบุริศร์กำลังข่มขู่ผมเหรอ”
“ใช่!”
ชายหนุ่มทั้งสองคนฟาดฟันกันต่อหน้านักข่าว กลิ่นตุๆของดินปืนกำลังจะปะทุ
และในเวลานี้นรมนกำลังขับรถมุ่งหน้าสู่ทะเล
เธอออกจากสถานพักฟื้นแล้วก็โยนโทรศัพท์ทิ้งไป จากนั้นก็ไปที่ร้านขายโทรศัพท์ซื้อเครื่องใหม่พร้อมกับซิมใหม่ แล้วขึ้นรถไป และก็โทรหากิมจิ
“สามารถระบุตำแหน่งที่ฉันอยู่ได้ไหม”
“เกรงว่าจะไม่ได้นายหญิงตอนนี้โทรศัพท์ของท่านไม่มีตำแหน่งของฉันนิ”
กิมจิรู้สึกหมดคำพูด
ต่อให้เขานั้นจะเก่งกาจแค่ไหน ก็ไม่สามารถค้นหาตำแหน่งของโทรศัพท์เครื่องใหม่ได้
นรมนได้ส่งตำแหน่งของตัวเองออกไป
“รีบตามมา ฉันมีเรื่องด่วน ถ้าหากเป็นไปได้ ให้ส่งคนมาสะกดรอยตามฉันด้วย เมื่อถึงเวลาจำเป็นก็ให้ออกมาช่วยฉัน”
เดิมทีนรมนไม่คิดที่จะให้คนสะกดรอยตาม แต่ว่าทางฝั่งบุริศร์ยังไม่รู้สถานการณ์ แม้ว่าเธอจะได้บอกกับบุริศร์ไปแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าบุริศร์จะมาทันหรือเปล่า อีกอย่างเธออยากให้พ่อกับแม่และตัวเองมีแผนการวิธีที่รอบคอบสำรองไว้ ถึงได้โทรศัพท์หากิมจิ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
650 ตอนยังไม่จบเลยค่ะ...
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...