บทที่ 289 ผมจะประกาศหาคู่ให้หม่ามี้
กานต์พูดขึ้นอย่างได้ใจมาก
กิมจิยกนิ้วโป้งขึ้นมาให้กานต์แล้วพูดขึ้นว่า “สุดยอดมากจริง ๆ”
“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว! คุณก็ไม่ดูซะก่อนว่าผมเป็นลูกของใคร! หม่ามี้ของผมนั้นเป็นถึงหัวหน้าหญิงของอาณาจักรรัตติกาลเลยนะ”
กานต์รู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก
ป้าโอโกรธจนไม่มีวิธีแล้ว แต่ก็กลับขัดขืนไม่หลุด มีผู้ชายอยู่เยอะแยะมากมายขนาดนี้ เธอก็ยิ่งไม่มีทางที่จะถอดกางเกงของตัวเองออกได้แน่
แต่ว่ากิมจิกลับไม่สนใจสิ่งนี่ เขาคงจะเอารถทั้งคันไปพร้อมกับป้าโอด้วยไม่ได้หรอก
ป้าโอจ้องมองดูพวกเขาเข้ามา ก็รีบสตาร์ทรถขึ้นอย่างอัตโนมัติ กะว่าจะขับรถหนีออกไปจากที่นี่ แต่ไม่ว่าจะสตาร์ทยังไงก็สตาร์ทไม่ติดเลย
กานต์ทอดถอนใจทีหนึ่งแล้วพูดขึ้นว่า “ไม่รู้จริง ๆ ว่าคุณโตมาขนาดนี้โตมาได้ยังไงกัน แล้วกินอะไรโตมา หรือว่าคุณคิดจริง ๆ เหรอว่าผมเป็นเด็กคนหนึ่งที่จะให้คุณพาไปตามใจชอบได้เหรอ? ผมไม่ได้โง่อย่างคุณสักหน่อย รถมันไม่มีน้ำมันตั้งแต่แรกแล้ว ตอนที่คุณขับรถนั้นไม่ได้ดูหน้าจอแสดงน้ำมันเลยเหรอ?”
พอพูดจบ กานต์ยังส่ายหน้าส่ายหัวอย่างเสียดายอยู่เลย เหมือนอย่างกับป้าโอเป็นคนพิการทางสมองยังไงอย่างงั้น จนป้าโอโมโหจนหายใจไม่ออก แล้วเป็นลมไปเลย
“อ๋า โดนผมทำให้โมโหจนตายไปแล้วเหรอ?”
กานต์พูดขึ้นอย่างรู้สึกยินดีในความโชคร้ายของผู้อื่น
ตอนนี้กิมจิอยากจะหัวเราะแต่กลับไม่กล้า ถ้าไม่หัวเราะก็อัดอั้นอยู่อย่างว้าวุ่น จึงหัวเราะเหอเหอขึ้นสองคำ แล้วพูดว่า “ตอนนี้พวกเราควรจะพาเขาไปยังไงดีล่ะ?”
“ก็ถอดกางเกงแล้วพาไปไงล่ะ คนที่อายุเยอะขนาดเขาแล้วยังหน้าไม่อายเลย พวกคุณจะกลัวอะไรกัน? อ๋อ ใช่แล้ว พวกคุณกลัวว่าจะอุจาดตาของพวกคุณไปใช่ไหมล่ะ? นั่นก็ไม่มีทางแล้ว คงจะต้องฝืนใจพวกคุณหน่อยแล้ว”
กานต์พูดไปแล้วก็ทอดถอนใจไปด้วย จนทำให้ตอนนี้กิมจิอดกลั้นไว้ไม่อยู่แล้ว แล้วก็หัวเราะฮา ฮา เสียงดังออกมาเลย
“หยุดหัวเราะเถอะ ให้คนของคุณขับรถส่งผมกลับไปเถอะ ไม่งั้นหม่ามี้ของผมจะต้องเป็นห่วงแน่เลย”
นี่กานต์ถึงเพิ่งจะนึกถึงนรมนขึ้นมา
เฮ้อ!
อีกเดี๋ยวก็จะต้องโดนหม่ามี้ด่าขึ้นมาอีกชุดหนึ่งแน่เลย
กานต์ทอดถอนใจแล้วก็ขึ้นรถคันหนึ่งไป
กิมจิรีบให้คนขับรถส่งกานต์กลับไป และป้าโอก็โดนคนถอดกางเกงออกจริง ๆ แล้วใส่กางเกงในสีแดงไว้แล้วโดนคนยกขึ้นรถไป และยังจับมัดไว้แน่นหนาอีกด้วย
ทางด้านนรมนต้องคอยกังวลกานต์ไปด้วย และต้องคอยดูบุริศร์หลบหลีกไปด้วย หลังจากที่เสียท่าแล้วก็ยืนหยัดไม่ไหวต่อภายใต้การโจมตีของแชมป์ จนกระทั่งล้มลงไปกับพื้นเลย
“บุริศร์!”
นรมนรู้สึกว่าหัวใจก็จะแตกสลายแล้ว
เธอไม่มีทางที่จะจ้องมองดูบุริศร์โดนทำร้ายต่อหน้าต่อตาไปแบบนี้ แต่ว่าก็ไม่สามารถทำอะไรได้
แชมป์มองดูท่าทางของบุริศร์ในตอนนี้แล้ว ก็รู้สึกทำใจลงมือไม่ได้ขึ้นมา
ธิดากลับพูดขึ้นเสียงเย็นว่า “แชมป์ นายคิดดูดี ๆ นะ ลูกเมียของนายยังรอนายอยู่นะ จัดการผู้ชายคนนี้ไปซะ ป้าโอก็จะให้ครอบครัวของพวกนายได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันแล้ว”
“คุณหุบปากนะ! คุณรู้แค่ข่มขู่คนอื่น คุณยังรู้เรื่องอะไรอีก?”
นรมนโกรธจนผลักธิดาแล้วก็พุ่งตรงเข้าไป
เธอสู้กับธิดาไม่ไหว แต่ว่าตอนนี้กลับไม่สำคัญแล้ว และก็ไม่ได้สนใจเยอะขนาดนั้นแล้ว
บุริศร์มีบาดแผลไปทั่วตัว และตอนนี้นอนอยู่บนพื้นไม่ขยับแม้แต่น้อย นรมนเองก็ปวดใจจนทนไม่ไหวมาตั้งนานแล้ว ตอนนี้ธิดายังคงมีความสุขอยู่บนความทุกข์ของคนอื่นอยู่ เธอแทบจะไม่อยากจะสนใจชีวิตนี้ของตัวเองแล้ว และอยากจะสู้จนตัวตายกับธิดาแล้ว
ธิดาไม่ได้ป้องกันตัวใด ๆ แม้กระทั่งรู้สึกว่านรมนที่เป็นนกอ่อนแอแบบนี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเธอ แล้วก็ไม่มีความกล้านั้นด้วย เพราะนั้นตอนที่โดนนรมนพุ่งชนเข้ามานั้น เธอก็โอนเอียงหลบไปนิดหนึ่ง ยังไม่ทันได้ยืนอย่างมั่นคงเลย ก็โดนนรมนจู่โจมเข้ามาอีกครั้ง จนล้มลงไปกับพื้นเลย
“โอ๊ย!”
เธอไม่ทันได้ระวังตัว จนล้มลงไปกับพื้นตรง ๆ เลย ท่ามกลางแรกกระแทกทำให้ก้นของธิดารู้สึกเจ็บจี๊ด ๆ
“ยัยคนชั้นต่ำ แกอยากตายเหรอ!”
ธิดาโกรธจนตาเขียวแล้ว ในตอนที่อยากจะลุกขึ้นไปจัดการกับนรมนแรง ๆ สักทีนั้น แล้วอยู่ ๆ ก็มีฝ่ามือสับลงมาหนึ่งที แชมป์สับลงไปจนธิดาสลบไปเลย
“นาย……”
ธิดานั้นแปลกใจมาก แต่ว่ากลับไม่ได้พูดอะไรอีก แล้วเธอก็สลบไปเลย
แชมป์มองดูนรมน แล้วก็หันไปมองดูบุริศร์
บุริศร์ลุกยืนขึ้นมาจากพื้นโดยตรง แล้วเดินไปทางนรมนอย่างไม่เป็นอะไรเลยสักนิด
“ผู้หญิงโง่อย่างคุณ อะไรก็เรียนรู้ไม่เป็น แต่กลับฝึกเรียนรู้ที่จะสู้จนตัวตายกับคนอื่นแล้วเหรอ? แล้วกับชีวิตที่ต่ำต้อยของยัยธิดานี่ คู่ควรกับที่จะให้คุณไปสู้ด้วยเหรอ?”
น้ำเสียงของบุริศร์นั้นอ่อนโยน พอนรมนเห็นว่าเขาไม่เป็นไรแล้ว ก็ร้องไห้เสียงดังและเข้าไปซบอกของเขาทันที
“คุณทำฉันตกใจหมดเลย ฉันนึกว่าคุณจะไม่ไหวแล้วจริง ๆ ซะอีก!”
นรมนไม่เคยกลัวอย่างตอนนี้มาก่อนเลย แค่เวลาหนึ่งนาทีอารมณ์เหมือนกับว่าตกลงมาจากสวรรค์ถึงพื้นดินเลย
บุริศร์ลูบหัวของเธอไว้อย่างรักใคร่ แล้วพูดขึ้นว่า “หยุดร้องเถอะ ยังมีคนนอกอยู่นะ ไม่กลัวขายหน้าซะบ้างเลย”
นรมนไม่สนเรื่องพวกนี้ซะหน่อย แล้วก็เอาทั้งน้ำตาและน้ำมูกเช็ดใส่บนตัวบุริศร์เลย ท่าทางที่เหมือนอย่างกับเด็กแบบนี้ทำให้บุริศร์ทั้งอยากจะร้องไห้และอยากจะหัวเราะ
แชมป์ก็อดไม่ได้ที่จะไอกระแอมขึ้นมาคำหนึ่ง
นรมนถึงได้ถอยออกมาจากอ้อมอกของบุริศร์อย่างเก้อเขิน แต่ว่ามือทั้งคู่ยังเกาะแขนของเขาเอาไว้แน่นอยู่
“นี่มันเรื่องอะไรกัน?”
นรมนรู้สึกมึนงงเล็กน้อย
แชมป์เป็นคนทรยศแล้วไม่ใช่เหรอ?
แล้วทำไมอยู่ ๆ ถึงได้มาช่วยเธอและบุริศร์ได้ล่ะ?
บุริศร์มองไปที่แชมป์ แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “พี่สะใภ้และหลานชายอยู่ที่บ้านตระกูลโตเล็กที่เมืองชลธีแล้ว อีกเดี๋ยวนายกลับไปรับพวกเขาเถอะ”
“ขอบใจนายมาก บุริศร์ ฉันทำกับนายขนาดนี้แล้ว คิดไม่ถึงว่านายยังจะช่วยฉันพาลูกกับเมียหนีออกมาอีก”
เธอหันหน้าไปเลย กานต์รู้สึกหงุดหงิดแล้ว
“หม่ามี้ หม่ามี้จะยืนดูผมถูกคุณบุริศร์ตีแบบนี้เฉย ๆ เลยเหรอ? หม่ามี้ไม่เอ็นดูผม ไม่รักผมแล้วเหรอ?”
นรมนพยายามฝืนความอยากที่จะหันหน้ากลับไป แล้วก็ได้ยินบุริศร์พูดขึ้นเสียงเย็นว่า “แค่ความรู้พื้นฐานก็ยังไม่มีใช่ไหม? ตัวเองเป็นคนตัดสินใจเองก็ช่างเถอะ แต่นั่งรถยังไม่รู้จักคาดเข็มขัดนิรภัยใช่ไหม? ใครใช้ให้เธอนั่งข้างหน้ากัน? ยังลุกขึ้นมาโบกไม้โบกมืออีก เธอนี่คิดว่าตัวเองอายุยืนเกินไปแล้วใช่ไหม? ยังมีเมื่อกี้อีก ตัวเองพาป้าโอจากไปตัวคนเดียว เธอไม่รู้สักนิดว่าฉันกับหม่ามี้ของเธอเป็นห่วงเธอมากแค่ไหนเหรอ? ตอนนี้เธอรู้สึกว่าตัวเองยิ่งโตก็ยิ่งเก่งแล้วใช่ไหม มีความสามารถแล้วใช่ไหม? เธอลองอวดเก่งให้ฉันดูอีกสักครั้งซิ! น้องสาวของเธอร่างกายไม่แข็งแรง หม่ามี้ของเธอต้องคอยเป็นกังวลทุกวันก็ช่างเถอะ แต่ตอนนี้เธอดีแล้วนี่ เริ่มทำตัวเป็นตัวก่อเรื่องแล้วใช่ไหม? เธอนี่กะว่าจะให้ฉันกับหม่ามี้ของเธอปวดใจจนตายใช่ไหม?”
บุริศร์ตีไปด้วยด่าไปด้วย เขาไม่เคยโกรธขนาดนี้มาก่อนเลย
ชั่วขณะหนึ่งเมื่อกี้ เขารู้สึกเหมือนกับว่ายมทูตได้เดินสวนทางกระทบไหล่กับเขาแล้ว
ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าฝีมือของเขาแม่นยำอยู่หน่อยหนึ่ง ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าเขารับกานต์ไว้ได้ ผลที่ตามมาแทบไม่กล้าคิดเลย
คนขับรถที่ขับรถมาโดนพลังของบุริศร์ทำให้ตกใจไปแล้ว
นรมนรู้สึกปวดใจเล็กน้อย แต่ว่าก็รู้ว่าในตอนที่บุริศร์สั่งสอนลูกนั้นตัวเองเข้าไปพูดแทรกไม่ได้ เธอจึงได้แต่เพียงหันหน้าไปพูดกับคนขับรถอีกข้างว่า “คุณเป็นคนของอาณาจักรรัตติกาลเหรอ?”
“ใช่ครับ ผมเป็นคนของผู้จัดการกิมจิครับ”
คนขับรถรีบร้อนตอบกลับ มองออกได้ว่านรมนเป็นนายหญิงของพวกเขา และค่อนข้างนอบน้อม
“ตกลงมันเรื่องอะไรกัน? บอกฉันมาหน่อยซิ”
คำพูดของนรมนทำให้คนขับรถไม่กล้าเสียเวลา แล้วก็รีบเล่าเรื่องที่กานต์เป็นฮีโร่ออกมารอบหนึ่ง แล้วยังพูดต่อว่า “นายหญิง ถึงแม้ว่าคุณชายน้อยจะซุกซน แต่ว่าก็ยังมีไหวพริบมาก เมื่อกี้เป็นเพราะว่าผมไม่ดีเอง ที่ไม่ได้ตักเตือนคุณชาย คุณดูท่าแล้วก็อย่าให้ท่านประธานบุริศร์ตีอีกเลยนะครับ คงจะเจ็บน่าดูเลย”
พอกานต์ได้ยินเช่นนี้ ก็ร้องไห้“ว้า”เสียงดังออกมาคำหนึ่ง ดูเหมือนน้อยใจมากขนาดนั้น
นรมนปวดใจตั้งแต่แรกอยู่แล้ว พอตอนนี้ได้ยินลูกชายร้องไห้แล้ว ก็ยิ่งทุกข์ใจแทบไม่ไหวแล้ว
เธอมองไปที่บุริศร์อย่างขอความช่วยเหลือ
และแน่นอนว่าบุริศร์เองก็ตีไม่ลงแล้ว
เขามองดูกานต์ที่นอนอยู่บนน่องของเขาอย่างเจ้าเล่ห์ นี่มันทั้งรักทั้งเกลียดผสมปนเปกันไปจริง ๆ
คุณว่าลูกชายที่ซุกซนขนาดนี้ตกลงเป็นเหมือนใครกันแน่
“ลุกขึ้นมา!”
บุริศร์พูดขึ้นน้ำเสียงเย็นชา
กานต์กลับนอนคว่ำร้องไห้อย่างเจ้าเล่ห์ “ลุกไม่ขึ้นแล้ว ตูดลายแล้วตอนนี้!”
“กานต์ เธออย่ามาชุดนี้นะ ฉันยังไม่ได้ใช้แรงตีเลย”
“พูดไปเรื่อย คุณใช้แรง ใช้แรงมากด้วย ถ้าไม่เชื่อคุณนอนลงมาซิ ให้ผมลองตีคุณดู!”
คำพูดนี้ของกานต์ ทำให้บุริศร์โกรธจนมือเริ่มคันอีกแล้ว
“ฉันว่าเจ้าเด็กตัวเหม็นอย่างเธอนี่ ติดค้างการโดนตีใช่ไหม?”
บุริศร์แสร้งทำท่าทางยกมือขึ้นมาจะตีเขาอีก กานต์ก็ตกใจจนฝีเท้าไหลลื่นจนรีบลุกขึ้นมา จากนั้นก็หลบไปอยู่หลังนรมนเลย และโน้นศีรษะเล็ก ๆ ออกมา แล้วพูดอย่างโหดเหี้ยมว่า “คุณบุริศร์คุณนี่น่ารังเกียจที่สุดเลย! ผมจะประกาศหาคู่ให้หม่ามี้! ผมจะเปลี่ยนแด๊ดดี้!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
650 ตอนยังไม่จบเลยค่ะ...
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...