บทที่ 340 หน้าตาท่าทางของบุริศร์ที่เข้าไปในห้องครัวค่อนข้างหล่อเลยทีเดียว
บุริศร์กอดนรมนเอาไว้แน่นๆ หลังจากรถยนต์ของพวกเขาจากไป ตุลยาถูกคิมลากออกไปจากโรงพยาบาลโดยตรง สีหน้าทั้งคู่ต่างไม่ค่อยดีนัก
"แม่คะ หนูไม่มีเจตนาอื่นจริงๆนะคะ หนูก็แค่มาเยี่ยมเยียนคุณแม่ หนูเป็นห่วงคุณแม่มากเลยนะคะ"
ตุลยาดูกล้ำกลืนสุดๆ
เธอมองดูคนที่อยากจะตีสนิทมาตั้งแต่เด็กๆ แต่กลับไม่ได้ใกล้ชิดกันเลยด้วยซ้ำ นัยน์ตาจึงแดงก่ำ
ช่วงนี้คิมก็คิดมากเหลือเกิน โดยเฉพาะคำพูดนี้ของนรมนยังคงสะท้อนอยู่ในหูของเธอมาโดยตลอด ตอนนี้เห็นหน้าตาของตุลยาเป็นแบบนี้ เธอถอนหายใจโดยไม่รู้ตัว
"ตุลยา หนูน่าจะโตได้แล้วนะ ดูหนูสิอายุก็มากขนาดนี้แล้ว ทำไมถึงยังไม่เข้าใจอะไรเลย? ที่นี่เป็นเมืองชลธีนะ ไม่ใช่อเมริกา ยิ่งไม่ใช่ศูนย์ดูแลคนชราของพ่อหนู หนูมาเสียงดังวุ่นวายในโรงพยาบาลเช่นนี้ ยิ่งไปกว่านั้นรบกวนผู้ป่วยทุกคน หนูคิดว่าพ่อของหนูทำได้ทุกอย่างจนถึงขั้นยื่นมือเข้ามายุ่งเรื่องของหนูถึงที่เมืองชลธีเชียวหรอ? "
ได้ยินคิมพูดแบบนี้ ตุลยารู้สึกฝืนทนและพูดขึ้นมาว่า:" ก็ยังมีแม่อยู่ที่นี่ทั้งคนไงคะ?หนูมาหาแม่โดยเฉพาะเลยนะคะ"
"ในเมื่อมาแล้วก็เที่ยวเล่นให้สนุกไปเลย ช่วงนี้แม่งานยุ่งๆไม่มีเวลาอยู่กับหนู ไมค์น่าจะค่อนข้างคุ้นเคยที่เมืองชลธีนะ ให้เขาอยู่เป็นเพื่อนหนูก็แล้วกันนะ"
พูดจบ คิมหันหลังก็เดินออกไปเลย
ตุลยาจับมือเธอเอาไว้และพูดว่า:" แม่คะ หนูอยากอยู่กับแม่ค่ะ"
"ตอนนี้ แม่ยายของแม่สุขภาพไม่ค่อยดีนัก ต้องมีคนคอยดูแลอยู่ข้างๆ บ้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดาเป็นตระกูลใหญ่ในเมืองชลธี ความสัมพันธ์ของหนูกับแม่จึงไม่ต้องพูดให้ชัดเจนขนาดนั้น แต่ว่าถ้าเรื่องบานปลายขึ้นมาก็ดูไม่ดีนัก ช่วงนี้แม่ต้องช่วยแม่ยายกายภาพบำบัด ไม่มีเวลาอยู่เป็นเพื่อนหนูจริงๆนะ"
คำพูดนี้ของคิมทำให้ตุลยาเสียใจขึ้นมาอีกครั้ง
เธอก็เป็นลูกของแม่นะ แต่ว่าทำไมในสายตาของคุณแม่ ถึงพาตัวเองออกไปโชว์ไม่ได้ขนาดนั้นหล่ะ?
"หนูก็สามารถอยู่ข้างๆคุณแม่แบบเงียบๆ จริงๆนะคะ หนูรับรองไม่มีเสียง และไม่เสียมารยาทกับคุณนายท่านหรอกค่ะ"
หน้าตาท่าทางของตุลยาที่แทบจะก้มตัวลงไปเพื่อให้ได้อยู่ข้างกายของคิมแบบนั้นแล้ว ทำให้หัวใจของคิมเอ็นดูไม่น้อยเลยทีเดียว
คิดถึงหลายวันมานี้ตัวเองไม่สามารถแยกเวลาออกมาเยี่ยมเยียนตุลยาเลย งั้นก็ให้เธอเฝ้าอยู่ข้างกายตัวเองยังดีเสียกว่า
"ก็ดีนะ เพียงแต่ว่าหนูอย่าปากโป้งหล่ะ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงความสัมพันธ์ของหนูกับแม่ต่อหน้าแม่ยายของแม่นะ รู้รึเปล่า ?ถ้าหากทำไม่ได้ หนูกลับไปที่อเมริกาเดี๋ยวนี้เลย"
เงื่อนไขของคิมถือว่าค่อนข้างเข้มงวดกวดขันกันเลยทีเดียว
ถึงแม้ตุลยาทรมานเล็กน้อยก็ตาม เพียงแต่ว่าเพื่อให้ได้อยู่ข้างกายของคิมแล้ว จึงพยักหน้าและพูดว่า:"หนูไม่พูดคะ หนูรับรองเลยว่าไม่พูดอะไรทั้งนั้นเลยค่ะ"
"งั้นหนูตามแม่มาเถอะ"
คิมพาตุลยากลับมาที่โรงพยาบาลอีกครั้ง
ตอนนี้ ไมค์ตามมาก็ไม่ใช่ ไม่ตามมาก็ไม่ใช่อีก ขณะที่เขาลังเลตัดสินใจไม่ได้ ตุลยาเหมือนกับนึกถึงตัวตนของเขาขึ้นมาซะงั้น พูดเสียงทุ้มต่ำว่า:"ไมค์ คุณกลับไปเถอะ ฉันอยู่เฝ้าแม่ฉันที่นี่เอง ไม่มีอะไรหรอก"
"ถ้างั้นคุณรักษาตัวเองดีๆนะ"
ไมค์ก็รู้สึกว่าสถานการณ์แบบนี้ตัวเองไม่เหมาะที่จะอยู่ต่อ พยักหน้าให้กับคิม ถึงหันหลังและเดินจากไป
บุริศร์ทางนี้พานรมนมาถึงที่บ้านเดี่ยวแล้ว พฤกษ์รอพวกเขาที่หน้าประตูเรียบร้อยเเล้ว ขณะที่เขาเห็นว่าคมทิพย์เป็นคนส่งบุริศร์พวกเขากลับมา อึ้งเล็กน้อย
"อึ้งอะไรกัน?รีบเข้ามาช่วยสิ"
คมทิพย์ตะคอกเสียงทุ้มต่ำออกมานึงครั้ง ปฏิกิริยาของพฤกษ์ถึงมีการตอบรับ
"ประธานบุริศร์ครับ จัดเก็บเรียบร้อยหมดแล้วครับ เพียงแต่ว่าคนรับใช้ยังไม่ได้หาเลยนะครับ เดี๋ยวผมจะไปดูที่ตลาดเองนะครับ"
พูดอยู่เขารับของมาจากมือของคมทิพย์แล้วก็เข้าไปที่บ้านเดี่ยวพร้อมกับเขา
บุริศร์อุ้มนรมนเข้าไปในห้องนอน
พฤกษ์นี่ได้เรื่องจริงๆ แอร์ในห้องนอนได้เปิดเอาไว้ตั้งนานแล้ว มีอุณหภูมิบ้างแล้ว
วางนรมนไว้บนเตียง บุริศร์ดึงผ้าห่มบางๆห่มให้กับเธอ พูดกับคมทิพย์ข้างๆว่า:"คุณช่วยจัดเก็บข้าวของแป๊บนึงนะ ฉันไปทำของกินสักหน่อย กลัวว่าเดี๋ยวเธอตื่นแล้วจะหิว"
"คุณทำอาหารเป็นหรอ?อย่าให้นรมนของเราอาหารเป็นพิษเชียวนะ"
คมทิพย์ดูถูกบุริศร์เล็กน้อย
พฤกษ์ไอนึงครั้งแล้วพูดว่า:"ฝีมือในการทำอาหารของประธานบุริศร์ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียวนะ"
"งั้นก็ดี เชื่อคุณชั่วคราวก็แล้วกัน"
คมทิพย์พูดว่าเชื่อบุริศร์ นั่นก็เป็นเพราะว่าพฤกษ์เอ่ยปากพูดไม่ใช่หรอ?
บุริศร์ส่ายหน้า รู้สึกว่าตัวเองอยู่ในใจของคมทิพย์ยังเทียบกับพฤกษ์ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ เขามองหน้าพฤกษ์สองครั้งโดยไม่รู้ตัว ทำให้พฤกษ์รู้สึกอึดอัดไปทั้งคน
"ประธานบุริศร์ครับ มีอะไรหรอครับ?"
"ออกมาเป็นผู้ช่วยด้วย"
บุริศร์พูดเสียงทุ้มต่ำ จากนั้นเดินออกไปก่อน
พฤกษ์มองหน้าคมทิพย์เห็นคมทิพย์แลบลิ้นให้กับเขาทำให้พฤกษ์ร้อนระอุอย่างกะทันหัน
"ผมออกไปก่อนแล้วนะ มีอะไรเรียกผมก็แล้วกัน"
เขาออกไปจากห้องนอนอย่างกับวิ่งหนี
คมทิพย์หัวเราะเบาๆครั้งนึง เริ่มเก็บข้าวของให้กับนรมน
ขณะที่พฤกษ์ออกมาอย่างตื่นตระหนก ซึ่งไม่เห็นบุริศร์ยืนอยู่ที่หน้าประตู จึงไม่ได้สังเกต ชนเข้าไปที่ตัวของบุริศร์เต็มๆ
"ขอโทษด้วยนะครับ ท่านประธานบุริศร์"
พฤกษ์รีบถอยกลับมา สีหน้าตื่นเต้นเล็กน้อย
นี่เป็นครั้งแรกที่บุริศร์เห็นหน้าตาของพฤกษ์เป็นแบบนี้ พูดแบบยิ้มแย้มโดยไม่รู้ตัวว่า:"ทำอะไรง่ะ?ชอบยายเด็กขี้โมโหคนนั้นเข้าแล้วเหรอ?"
"เปล่าครับ เปล่านะครับ"
หัวใจของพฤกษ์เต้นเร็วมากขึ้นมาเล็กน้อย
บุริศร์กลับพูดแบบเรียบเฉยว่า:"ถ้านายเอายายเด็กคนนั้นให้อยู่หมัดก็ไม่เลวนะ เธอจะได้เลิกหาเรื่องฉันสักที และยังเป็นส่วนเกินอีกด้วย"
"ไม่ใช่นะครับ ประธานบุริศร์ ผมกับคุณหนูคมทิพย์ไม่มีอะไรกันจริงๆนะครับ"
"ใช่สิ ไม่มีอะไร ไม่มีอะไรทำไมต้องร้อนระอุไปทั้งตัว กับแค่คนอื่นแลบลิ้นใส่นิดเดียวเอง ความหนักแน่นในอดีตหายไปหมดเลย"
บุริศร์พูดจบ ส่ายหน้าโดยตรง และหันหลังเดินเข้าไปในห้องครัว
"เอาจริงๆนะ พฤกษ์ อายุของนายก็ไม่น้อยแล้ว ควรมีแฟนได้แล้ว"
นรมนไม่ได้ห้ามไว้
สำหรับเธอ ที่นี่เป็นถิ่นของบุริศร์ น่าจะค่อนข้างปลอดภัยและค่อนข้างวางใจได้
คมทิพย์เพิ่งเปิดประตูห้องนอน ก็เห็นพฤกษ์พาชายนึงหญิงนึงเข้ามาแล้ว
ผู้หญิงยังได้รับบาดเจ็บนิดหน่อยด้วย
บุริศร์ออกมาจากห้องครัว ขณะที่เห็นพวกเขาอึ้งไปแป๊บนึง
"นาวิน ธิดา?พวกนายมาได้ยังไง?"
นาวินมองหน้าบุริศร์ ไม่รู้ว่าควรเอ่ยปากยังไงดี สุดท้ายธิดาเป็นคนเอ่ยปากเอง
"ประธานบุริศร์คะ ดิฉันกับนาวินได้ตัดสินใจกันแล้วว่า ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป เราจะคอยเฝ้าท่านกับคุณนายเองค่ะ ถ้าหากพวกท่านยังเชื่อใจเรา เราจะปรนนิบัติรับใช้ท่านสองสามีภรรยาอย่างจงรักภักดีและจริงใจค่ะ"
บุริศร์นิ่งไปสักพัก คิดไม่ถึงธิดาจะตัดสินใจแบบนี้
เขามองดูนาวิน ถามว่า:"นายก็จะอยู่ที่นี่ด้วย?ไม่ไปต่างประเทศแล้ว?"
“ธิดาอยู่ไหน ผมก็อยู่นั่นครับ"
นาวินไม่พูดมาก
บุริศร์พูดเสียงทุ้มต่ำว่า:"เรื่องนี้ฉันตัดสินใจเองไม่ได้ เดี๋ยวไปถามคุณนายดูสิว่าเธอว่ายังไง"
นรมนนอนอยู่บนเตียงได้ยินอย่างชัดเจนแล้ว
เธอลังเลเล็กน้อย
ธิดากับนาวินเคยเป็นศัตรูของพวกเขา ตอนนี้กลับต้องการอยู่ต่อด้วยตัวเอง ดีหรือไม่ดีกันหล่ะ?
คมทิพย์มองหน้านรมนถามว่า:"เธอว่ายังไงหล่ะ?"
"ไม่รู้สิ"
"ไม่รู้คือหมายความว่า?จะอยู่ก็อยู่ไป หรือไม่ก็ให้พวกเขาออกไปเลย ถ้าหากเธอรู้สึกลังเล ถ้างั้นก็อย่าให้อยู่เลย ฉันลงไปพูดกับพวกเขาเอง เธอให้พวกเขาไป"
พูดอยู่คมทิพย์ก็จะลงไปเลย กลับถูกนรมนตะโกนรั้งไว้
"ให้พวกเขาอยู่เถอะ ฝีมือของพวกเขาต่างไม่เลวเลยทีเดียว ถ้าหากจริงใจกับฉันจริงๆ ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีนะ"
ได้ยินนรมนพูดแบบนี้ คมทิพย์ถามทันทีว่า:" เธอคิดดีแล้วหรอ ถ้าหากเอาภัยใกล้ตัว แย่เลยนะ"
"ฉันรู้แล้ว ไม่มีอะไรหรอก พูดแบบนี้เถอะนะ ฉันเคยได้ยินบุริศร์พูดว่า ขณะที่ฉันสลบอยู่ ธิดาเคยมาเยี่ยมฉัน ฉันคิดว่าเธอน่าจะอยากอยู่จริงๆแหละ"
คำพูดนี้ของนรมนทำให้คมทิพย์ไม่ค่อยเห็นด้วยสักเท่าไหร่ เพียงแต่ว่าในเมื่อเป็นความคิดเห็นของนรมน เธอก็ไม่พูดอะไร แต่พูดกับข้างล่างไปโดยตรงว่า:"นรมนพูดแล้วว่า ให้พวกเขาอยู่เถอะ เพียงแต่ว่าธิดาคนนั้น คุณบาดเจ็บไปทั่วร่างกายแบบนี้ก็ดูแลไม่ได้หรอก รักษาบาดแผลก่อนเถอะนะ"
ธิดารีบพูดว่า:"บาดเจ็บแค่นี้ดิฉันไม่เป็นไรหรอกนะคะ"
"ในเมื่อคุณนายให้คุณรักษาบาดแผลก่อน คุณก็รักษาบาดแผลก่อนเถอะ เรื่องของวันข้างหน้าค่อยว่ากันเถอะนะ"
บุริศร์พูดจบ มองหน้าคมทิพย์นึงครั้ง จากนั้นเข้าไปในห้องครัวอีกครั้ง
คมทิพย์มองเห็นหน้าตาของบุริศร์ซึ่งสวมใส่ผ้ากันเปื้อนไว้ พูดกับนรมนแบบล้อเล่นว่า:"บุริศร์บ้านเธอ หน้าตาท่าทางที่เข้าไปในห้องครัวหล่อเชียวนะ!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
650 ตอนยังไม่จบเลยค่ะ...
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...