บทที่ 344 ใครรังแกใครหรอ
"แม่คะ วันหลังหนูจะไม่ทำให้ท่านเป็นห่วงหนูอีกแล้วค่ะ"
นรมนจับมือของแม่นรมนไว้แน่นๆ พูดซะจนแม่นรมนหดหู่ใจและอยากร้องไห้
"ได้เลยลูก ลูกจำคำพูดนี้ไว้ให้ดีๆนะลูก"
ทั้งคู่พูดกันอีกหลายคำ แม่นรมนถึงระงับอารมณ์
"แม่ได้ยินมาอีกว่าบ้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดาทางโน้นได้รับใบอนุญาตบัตรประชาชนแล้ว อีกไม่กี่วันนี้ก็จะทำบัตรประชาชนให้กับลูกแล้ว ถึงตอนนั้ยคุณนายบ้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดาทางโน้น ลูกต้องกตัญญูให้มากๆนะ คุณนายท่านคนนี้เพื่อเห็นแก่อารมณ์ของแม่กับพ่อแล้ว ให้ลูกใช้นามสกุลเดียวกับเรา มิตรภาพนี้ลูกต้องชดใช้แทนพ่อกับแม่ด้วยนะ"
คำพูดนี้ของแม่นรมนทำให้อารมณ์ของนรมนซับซ้อนเล็กน้อย
"หนูรู้แล้วค่ะ แม่ เรื่องนี้หนูจะจัดการให้เรียบร้อย"
"เอาหล่ะ ไม่พูดมากแล้ว ร่างกายลูกในตอนนี้ไม่เหมาะที่จะเหน็ดเหนื่อยเกินไป ลูกนอนพักผ่อนสักครู่นะ แม่ไปทำอะไรอร่อยๆมาให้ลูกท่าน"
"ขอบคุณค่ะแม่"
นรมนรู้สึกว่าอยู่ต่อหน้าแม่นรมนค่อนข้างเป็นตัวของตัวเอง
ถึงแม้คิมเป็นแม่แท้ๆของตัวเองก็ตาม แต่ว่าหลายปีที่ผ่านมานี้ ระยะเวลาที่เธอสัมผัสกับคิมไม่นานนัก อีกอย่างไม่สามารถยอมรับคิมในช่วงเวลาสั้นๆเช่นนี้
แต่ว่าแม่นรมนแตกต่างกัน ท่านเป็นคนที่เลี้ยงดูตัวเองมาอย่างกับลูกคนรวย และเป็นคนที่หวังดีและทำเพื่อเธออย่างสุดความสามารถ
มองเห็นฝีเท้าที่เดินโซเซของแม่นรมน นรมนทรมานใจเหลือเกิน
เธอติดค้างคนแก่คนนี้เยอะมากเลยจริงๆ
แม่นรมนออกไปได้ไม่นาน นรมนพิงอยู่ที่หัวเตียงหลับตาพักผ่อนอยู่
บ้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดาก็จะทำบัตรประชาชนให้กับตัวเองแล้ว ถึงตอนนั้นเธอต้องออกหน้าแน่นอนอยู่แล้ว ซึ่งไม่รู้ว่าตอนนี้คุณนายตระกูลทวีทรัพย์ธาดาเป็นยังไงบ้างแล้ว
นรมนคิดอยู่หลายสิ่งหลายอย่าง
ร่างกายของคุณนายโตเล็กอยู่ระหว่างการฟื้นฟู และเป็นเพราะว่าบุริศร์เพิ่งรับช่วงต่อบริษัทฮัวยูกรุ๊ปจำกัด คุณนายโตเล็กยังต้องช่วยเหลือเขา เพราะฉะนั้นไม่มีเวลาเป็นห่วงเธอทางนี้ เพียงแต่ว่าคุณนายโตเล็กให้คนส่งอาหารบำรุงมาให้ตั้งมากมายก่ายกอง และให้เธออย่าคิดมากชั่วคราว ทุกอย่างมีตรินท์และท่านอยู่
นรมนรู้ดี คุณนายโตเล็กเป็นห่วงเธอ เพียงแต่ว่าแยกร่างไม่ได้ก็แค่นั้นเอง
สำหรับคุณนายโตเล็ก นรมนรู้สึกอยู่ตลอดเวลาว่าติดค้างเยอะมาก
เธอกับบุริศร์ละทิ้งทุกอย่างและไปจากเมืองชลธี และไปอยู่ที่เมืองอื่นอย่างถาวร สำหรับคุณนายโตเล็กแล้วมันโหดร้ายเกินไปมั๊ย?
เพียงแต่ว่าไม่ไปจากที่นี่ แม่นรมนกับพ่อนรมนก็ไม่สบายใจตัวเองอีก
นรมนถอนหายใจเบาๆ รู้สึกลำบากใจเล็กน้อย
"ถอนหายใจทำไมหล่ะ?"
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่บุริศร์ได้เปิดประตูและเดินเข้ามาแล้ว
ขณะที่นรมนเห็นเขาอึ้งค้างเล็กน้อย มองไปที่ข้างหลังเขา มองไม่เห็นเงาของกมล ถามด้วยความสงสัยว่า:"กมลหล่ะ?ไม่ได้ตามขึ้นมาหรอ?"
"ยายเด็กคนนี้เล่นจนเหนื่อยล้า เพิ่งหลับไปเมื่อสักครู่ กานต์กับพ่อเฝ้าดูเธอไว้ ใช่แล้ว เมื่อกี้คุณถอนหายใจทำไม?"
บุริศร์มาถึงข้างกายของนรมน ถอดรองเท้าขึ้นไปบนเตียง และกอดนรมนไว้ในอ้อมอกโดยตรง
ผ่านไปสิบกว่าวันแล้ว มือเท้าของนรมนยังหนาวเย็นอยู่เลย เหตุการณ์แบบนี้ทำให้บุริศร์หมดหนทาง นี่ก็เป็นเหตุผลสำคัญที่เขาให้แม่นรมนอยู่ต่อ
ตอนนี้คุณนายโตเล็กยุ่งเกินไป คิมต้องดูแลคุณนายทวีทรัพย์ธาดา คนที่สามารถดูแลนรมนในเวลานี้ได้ก็มีแต่แม่นรมนเท่านั้นแล้ว
ที่สำคัญความสัมพันธ์ของแม่นรมนกับนรมนไม่เลวเลยทีเดียว ปรนนิบัตินรมนก็จะต้องทำอย่างสุดความสามารถอยู่แล้ว
บุริศร์เอามือของนรมนวางไว้ตรงหน้าอกตัวเองเพื่อให้ความอบอุ่นแก่เธอ
"อย่านะ มือฉันหนาวเย็น เดี๋ยวจะทำให้คุณเป็นหวัดได้นะ"
นรมนอยากเก็บมือเข้ามา กลับถูกบุริศร์ห้ามปราม
"ผมไฟแรง ให้ความอุ่นกับคุณได้พอดี"
นรมนยิ้มแย้มอ่อนๆ เอาร่างกายพิงไว้ที่อ้อมอกของเขา หาท่าที่สบายๆและพูดว่า:"ฉันได้ยินพ่อฉันพูดว่า คุณกะจะหลังจากพาฉันไปเที่ยวเล่นเรียบร้อยแล้ว หาที่ที่หนึ่งอยู่อย่างถาวร?ไม่คิดจะกลับมาที่เมืองชลธีอีกแล้ว?"
"อืม คุณกับผมใกล้จะสามสิบแล้ว ปีก่อนๆอยู่ด้วยกันน้อยมาก ตอนนี้บ้านตระกูลโตเล็กไม่สงบสุข และมีอยู่หลายเรื่องเราต่างไม่สามารถป้องกันได้เลย ผมคิดแค่ว่าอยากใช้ชีวิตอยู่กับคุณและลูกๆอย่างสงบสุขไปหลายๆปี"
คำพูดนี้ของบุริศร์ทำให้นรมนซาบซึ้งใจมาก
"แบบนี้หรอ ภาระในตัวของตรินท์กับแม่ก็หนักอยู่แล้วนะ"
"ผู้หญิงโง่ คุณอย่าคิดถึงแต่คนอื่นได้ไหม?คิดถึงตัวเองบ้างก็ได้นะ?หรือว่าคุณไม่อยากให้ผมอยู่กับคุณให้มากๆ?ยังมีกมลอีก สี่ปีก่อนหน้านี้ โดยพื้นฐานแล้วเธอไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย อยู่ที่โรงบาลมาโดยตลอด ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป ผมจะพาพวกคุณไปดูข้างนอก แบบนี้ไม่ดีหรอ?หลายปีมานี้ผมทุ่มเทให้กับตระกูลโตเล็กก็ไม่น้อยแล้วนะ ตอนนี้ตรินท์ก็สามารถบริหารเองแล้ว เราออกไปใช่ว่าจะไม่ได้ สำหรับแม่ทางโน้น ท่านเป็นคนมีเหตุผล ไม่โทษเราหรอก"
บุริศร์พูดเรื่องที่นรมนกังวลออกมาจนหมดเปลือก พูดซะจนนรมนไม่มีโอกาสได้ตอบโต้ใดๆ
"คิดออกรึยังว่าสถานีแรกเราจะไปไหนดี?"
"คุณตัดสินใจเลยนะ"
บุริศร์ยิ้มแย้มอ่อนๆ หน้าตาเหมือนกับสามีผู้แสนดี
นรมนคิดๆดูแล้วพูดว่า:"เอาอย่างนี้มั๊ยเราไปที่ยูนนาน?"
"ยูนนาน?"
"ถูกต้อง ยูนนาน ได้ยินว่าวิวที่นั่นสวยงามมาก"
นรมนพูดอย่างตั้งหน้าตั้งตารอคอยสุดๆ
บุริศร์คิดไม่ถึงว่านรมนจะไปที่นั่น เพียงแต่ว่าก็ยังพยักหน้าอยู่ดีและพูดว่า:"ได้เลย ขอแค่คุณดีใจ ไปไหนก็ได้ รออีกแค่ไม่กี่วัน คุณออกจากการอยู่ไฟแล้ว ผมก็จะเริ่มวางแผนแล้ว"
"พฤกษ์จะไปพร้อมกับเรามั๊ย?"
"น่าจะไปนะ เขาเป็นผู้ช่วยผม ไม่ใช่ผู้ช่วยบ้านตระกูลโตเล็ก ทำไมหรอ?"
บุริศร์รู้สึกว่านรมนถามคำถามนี้อย่างกะทันหันจึงสงสัยเล็กน้อย
นรมนยิ้มแย้มพูดว่า:"ไม่มีอะไรหรอก ฉันก็แค่ถามดู พอดีว่าคมทิพย์ก็ไม่มีงาน ยังถูกเจตต์ดองไว้อีกด้วย สู้ไปกับเราดีกว่า"
"นี่คุณกำลังเปลี่ยนวิธียุให้พวกเขาคบกันหรอ"
"ก็ไม่เลวไม่ใช่หรอ หรือว่าคุณรู้สึกว่าทิพย์ไม่คู่ควรกับพฤกษ์?"
ถ้าหากคุณกล้าพูดว่าใช่หน้าตาท่าทางของนรมนที่เอาเป็นเอาตายแบบนี้ ทำให้บุริศร์หัวเราะออกมาทันที
นรมนเห็นว่าเพื่อนรักตัวเองมีแฟนที่ดี ดีใจแทนเธอด้วย
เธอลุกขึ้นมาและมาถึงในห้องดอกไม้ เห็นธิดากำลังดูแลดอกไม้อย่างตั้งอกตั้งใจ เดินไปหาเธอโดยไม่รู้ตัว
"ร่างกายดีขึ้นบ้างรึยัง?"
นรมนเอ่ยปากอย่างเสียงเบา
ธิดาก้มตัวลงไปแป๊บนึง และรีบลุกขึ้นมา
"คุณนายคะ?ท่านมาได้ไงคะ?"
"มาดูๆทางนี้หน่อย"
นรมนมองดูธิดา พบว่าเธอสวยกว่าเมื่อก่อนเยอะมาก สีหน้าก็ดูดีมากเลยทีเดียว แววตาคู่นั้นกระพริบแสงแห่งความสุขอยู่ หน้าตาเหมือนสาวน้อยเต็มตัว
ธิดาเห็นนรมนมองตัวเองแบบนี้ รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองสักเท่าไหร่
"คุณนายคะ ทำไมถึงมองดิฉันแบบนี้หรอคะ?"
"คบกับนาวินเป็นยังยังไงบ้าง?"
"ก็ถือว่าใช้ได้นะคะ"
พูดถึงนาวินมุมปากของธิดายกขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว สีหน้าท่าทางนั้นเหมือนกับผู้หญิงที่มีความสุข
นรมนมองเห็นพวกเขาแบบนี้ ดีใจแทนพวกเขาด้วย
"ฉันพูดกับบุริศร์แล้วนะ อายุของพวกเธอต่างไม่น้อยกันแล้ว ซึ่งก็ไม่มีญาติพี่น้องอะไร วันหลังหาเวลาสักวันไปจดทะเบียนสมรสที่สำนักกิจพลเรือน กลับไปฉันกับบุริศร์เป็นเจ้าภาพ เป็นเจ้าภาพให้กับพวกเธอสองคนเอง นี่เป็นของขวัญที่ฉันกับบุริศร์มอบให้กับงานแต่งของพวกเธอนะ"
นรมนเอากุญแจดอกหนึ่งออกมาและยื่นให้กับธิดา
"คุณนายคะ นี่คือ........."
"อยู่ข้างๆบ้านนี่แหละ บุริศร์ซื้อบ้านให้กับพวกเธอหนึ่งหลัง ไม่ว่ายังไงซะ แต่งงานกันแล้ว และเป็นครอบครัวกันแล้ว ต้องมีบ้านสักหลัง บ้านโอนเป็นชื่อของนาวินเรียบร้อยแล้ว นี่เป็นกุญแจ"
คำพูดนี้ของนรมนทำให้ธิดาอึ้งไปเลย จากนั้นนัยน์ตาเปียกชื้นทันที
"คุณนายคะ สิ่งนี้ดิฉันรับไว้ไม่ได้นะคะ แพงเกินไปแล้วค่ะ"
"พูดอะไรโง่ๆหล่ะ มีที่ไหนกันหล่ะคืนของขวัญแต่งงาน?ไม่กลัวไม่มงคลรึไง"
นรมนมอบกุญแจออกไปอีกครั้ง และพูดอย่างยิ้มแย้มว่า:"ถ้าหากพวกเธอมีความคิดอย่างอื่นก็บอกกับเราโดยเร็ว ฉันไม่ได้คิดว่าพวกเธอจะมาเป็นคนรับใช้ให้ฉัน พวกเธอควรมีชีวิตของตัวเอง"
"ดิฉันกับนาวินคิดไว้แล้ว อยากติดตามประธานบุริศร์และทำการค้าขายแบบลงทุนน้อยๆ"
ธิดาพูดความคิดของตัวเองออกมา
"ก็ดีนะ ฉันคิดว่าบุริศร์ไม่ปฏิเสธหรอก"
"ขอบคุณท่านประธานบุริศร์ และขอบคุณคุณนายค่ะ"
ธิดาดีใจจนเก็บไม่อยู่ หน้าตาท่าทางที่ดีอกดีใจนั้นทำให้อารมณ์ของนรมนดีใจตามด้วยเช่นกัน แต่ว่าในขณะนี้ เสียงฝีเท้าได้ดังเข้ามาจากข้างนอกอย่างกะทันหันไม่นานนักพฤกษ์ก็ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว
"คุณนายครับ แย่แล้วครับ เกิดเรื่องแล้ว"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
650 ตอนยังไม่จบเลยค่ะ...
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...