บทที่ 363 คุณบุริศร์ครับคุณนี่ช่างเอาถ่านจริงๆเลยนะครับ
"กมล หนูพูดอะไรหล่ะเนี้ย?"
นรมนยังไม่ได้เอ่ยปากเลย กานต์ก็ฟังต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว
ยายเด็กน้อยคนนี้ถึงแม้ชอบบุริศร์มาโดยตลอดก็ตาม แต่ว่าปกป้องเขาเช่นนี้ไม่ได้หรอกนะ?
"หนูไม่ได้พูดผิดสักหน่อย เป็นแบบนั้นจริงๆนี่น่ะ"
กมลไม่มีความรู้สึกเลยแม้แต่นิดเดียวว่าตัวเองพูดอะไรผิดไป
กานต์มองหน้าบุริศร์อย่างดูถูกดูแคลนและพูดว่า:"เป็นถึงลูกผู้ชายทั้งแท่งออกจากบ้านยังต้องให้ผู้หญิงคอยปกป้อง น้องรู้สึกว่าผู้ชายแบบนี้มีอะไรดีหรือ?"
"กานต์ อย่าพูดมั่วๆนะลูก"
นรมนกลัวว่ากานต์จะกระตุ้นถึงบุริศร์ วันนี้อารมณ์ของบุริศร์ไม่ค่อยดีอย่างเห็นชัด
บุริศร์หรี่ตาขึ้นมาแล้วจริง
"ไอ้เด็กบ้าคนนี้อยากลองดีกับฉันใช่มั๊ย?"
"พ่ายแพ้ที่ข้างนอก กลับมาเอาเด็กอย่างผมมาระบายความโกรธ คุณบุริศร์ครับ คุณนี่ช่างเอาถ่านจริงๆเลยนะครับ"
กานต์ไม่กลัวใบหน้าที่เย็นชาของบุริศร์เลยแม้แต่นิดเดียว ประชดประชันออกไปนึงคำ บุริศร์โมโหซะจนแทบอยากจะกระอักเลือด
เดิมทีเรื่องรูปถ่ายนั้นก็ทำให้บุริศร์หดหู่ใจมากพออยู่แล้ว ตอนนี้กลับมายังต้องถูกลูกแท้ๆมาพูดจาดูถูกดูแคลนอีกสีหน้าของเขาจึงเข้มขรึมขึ้นมาทันที
"ฉันเอาถ่านอยู่แล้ว!"
พูดจบ เขายกขาขึ้นมาและเดินขึ้นไปที่ข้างบนตึกโดยตรง ดูๆไปแล้วน่าจะโกรธแล้วจริงๆแหละ
นรมนอึ้งไปเลยทั้งคน
กมลเกือบจะร้องไห้แล้วด้วยซ้ำ
"พี่คะ ทำไมพี่ถึงเป็นแบบนี้ค่ะ?พี่เกรงใจแด๊ดดี้หน่อยไม่ได้หรอกคะ?หนูไม่ชอบพี่แล้ว!"
พูดจบ เธอกระทืบเท้า และวิ่งไปตามบุริศร์โดยตรง
"แด๊ดดี้ แด๊ดดี้..........."
เพียงแต่ว่าบุริศร์เหมือนไม่ได้ยิน "ปั้ง"เสียงดังขึ้นมานึงครั้ง ปิดประตูห้องไปเรียบร้อยแล้ว
กมลหยุดนิ่ง ณ ที่นั่นทั้งคน มองดูประตูห้องที่ปิดไปแล้ว หันหน้ากลับมาจ้องหน้ากานต์กับนรมนอย่างดุๆและพูดว่า:"หนูเกลียดพวกพี่!เชอะ!"
พูดจบ เธอวิ่งช้าๆกลับมาถึงห้องของตัวเอง เลียนแบบท่าทางของบุริศร์ ปิดประตูแรงๆอย่างเสียงดังกังวาน
ที่นี่คนที่เบลอที่สุดก็คือนรมนกับกานต์
โดยทั่วไปแล้วบุริศร์ไม่เคยถือสากับเด็กเลยนะ วันนี้เป็นอะไรไปเนี้ย?
กานต์ใช้นิ้วมือทิ่มนรมน ถามเสียงต่ำว่า:"นี่คุณบุริศร์เป็นอะไรไปครับเนี้ย?”
นรมนส่ายหน้าแบบงงๆและเบลอๆ
"ฉันก็ไม่รู้ จู่ๆแด๊ดดี้เขาก็เหมือนอย่างกับเด็กต่อสู้กับเจตต์ที่ข้างนอก หม่ามี้ลากเขากลับมาก็เป็นแบบนี้แล้ว"
นรมนรู้สึกว่าบุริศร์ในวันนี้ดื้อดึงสุดๆ แต่เขากลับไม่ยอมพูด
ได้ยินหม่ามี้พูดแบบนี้ กานต์เอียงหัวและขมวดคิ้วถามว่า:"หรือเป็นเพราะว่าหึงหวง?"
"หึงหวงอะไรกัน?"
นรมนตอบลูกชายอย่างเชื่องช้า
กานต์จนคำพูดไปเลยทีเดียว
"หม่ามี้ครับ ก่อนหน้านี้ท่านกับคุณอาเจตต์ไปมาหาสู่กันค่อนข้างบ่อย คุณบุริศร์คนนั้นถึงแม้ดูๆไปแล้วค่อนข้างเย็นชาก็ตาม เพียงแต่ว่าขี้น้อยใจมาก แม้แต่ผมนอนกับท่านเขาก็ยังทนไม่ได้เลย ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นคนนอกอย่างคุณอาเจตต์แบบนั้นอีกด้วย"
"พูดเหลวไหลอะไรเนี้ย?ฉันกับเจตต์ไม่ได้ติดต่อกันตั้งนานแล้ว ต่อให้หึงหวง เขาก็ไม่ควรมาหึงหวงตอนนี้หรอกนะ หรือว่าศิลปะการสะท้อนของเขามันยาวขนาดนั้นเลย?ถึงมีปฏิกิริยา ณ ตอนนี้?"
"ก็ใช่นะครับ!"
กานต์รู้สึกว่านรมนพูดมีเหตุผล
"อ้อ ผมรู้แล้วครับ"
"อะไร?"
ทันทีนั้นนรมนมองหน้ากานต์ด้วยหน้าตาที่แบบเข้าอกเข้าใจ ซึ่งตั้งใจฟังโดยไม่รู้ตัว
กานต์พูดอย่างหัวเราะว่า:"คุณบุริศร์เข้าสู่วัยทองแล้วแน่ๆเลยครับ!"
"ไอ้เด็กบ้าคนนี้ พูดเหลวไหลอะไร"
นรมนตบไปที่หัวของกานต์โดยตรง
"อุ๊ยยย หม่ามี้ เจ็บนะครับ หากไม่ได้เข้าสู่วัยทอง ทำไมเขาถึงโกรธแบบไม่มีเหตุผลแบบนี้หรอกครับ?”
กานต์รู้สึกว่าตัวเองเดาไม่ผิด
นรมนกลับถอนหายใจพูดว่า:"ไปเลยไป อย่าพูดเหลวไหล แด๊ดดี้นายเพิ่งอายุเท่าไหร่เอง ยังมีอีกนะ วันๆก็เรียกแต่คุณบุริศร์คุณบุริศร์ เรียกแด๊ดดี้ดีๆสักคำจะได้มั๊ย?"
"ครับ รู้แล้วครับ จริงๆซะด้วยสิผู้หญิงมีสามีแล้วไม่ต้องการลูกแล้วจริงๆ
กานต์ผิดหวังเล็กน้อยทั้งถอนหายใจและส่ายหน้า เหมือนกับคนแก่แดด ทำให้นรมนหัวเราะออกมาโดยตรง
"ผีน้อยผู้ฉลาด"
เขาจับหัวของกานต์อย่างยิ้มแย้ม ตัวเองก็ยังหดหู่ใจอยู่บ้าง วันนี้บุริศร์ลงมือกับเจตต์ประหลาดใจอยู่บ้าง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรกันแน่
ในขณะนี้ พฤกษ์กลับมาจากข้างนอกแล้ว ขณะที่เห็นนรมนอึ้งไปแป๊บนึง
"คุณนายครับ ท่านกลับมาแล้ว?"
"อืม นี่นายไปซื้อของกินมาให้กับทิพย์หรอ?"
"น่าจะได้นะ ประธานสั่งไว้แล้ว เมื่อกี้ผมก็ไปทักทายกับนักข่าวเรียบร้อยแล้วด้วย ข่าวสารที่ไม่ดีต่อบ้านตระกูลโตเล็กล้วนไม่ปรากฏออกมาในข่าว สบายใจได้เลย"
ได้ยินพฤกษ์พูดแบบนี้ คมทิพย์สบายใจขึ้นมาจนได้
"บุริศร์หมายความว่าไง?ไปต่อสู้กับเจตต์ รู้สึกว่ารูปถ่ายใบนั้นเจตต์เป็นคนถ่ายหรือ?"
"ไม่รู้สิ เพียงแต่ว่าน่าจะประมานนี้แหละ ยังไงซะประธานบุริศร์เป็นถึงผู้ชาย"
ขณะที่พฤกษ์พูดคำนี้ระมัดระวังมาก กลัวจะไปสัมผัสบาดแผลของคมทิพย์
คมทิพย์เห็นเขาแบบนี้ คิดถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่พฤกษ์ได้ทำเพื่อเธอในช่วงนี้ กัดริมฝีปากล่างและพูดโดยไม่รู้ตัวว่า:"คุณไม่แคร์เรื่องของฉันที่คลับจริงๆหรือ?"
"ผมพูดว่าไม่แคร์ คุณไม่เชื่อแน่นอนอยู่แล้ว เป็นไปไม่ได้ที่ผมไม่แคร์ คุณเป็นผู้หญิงที่ผมชอบ ผู้หญิงของตัวเองถูกคนอื่นทำแบบนั้น ผมย่อมมีปมในใจอยู่แล้ว"
ขณะที่พฤกษ์พูดถึงตรงนี้ คมทิพย์รีบหันหน้าไป สีหน้าขาวซีดเล็กน้อย
เขาเดินเข้าไปหนึ่งก้าว ไม่สนการดิ้นรนของคมทิพย์ จับมือของเธอเอาไว้โดยตรง คุกเข่าลงไปและพูดว่า:" ผมแคร์ผมไม่ปกปิดคุณ แต่ว่านี่ไม่ใช่ความผิดคุณ ผมเองที่ปกป้องคุณไม่ดี ผมไร้ความสามารถ เพราะฉะนั้นผมไม่ควรให้คุณฝืนทน เอาหล่ะ เรื่องนี้ไม่ว่าผลสรุปเป็นยังไงก็ตาม ผมต้องให้คำตอบคุณอยู่แล้ว แต่ว่าสำหรับคุณ ชาตินี้ผมต้องได้คุณอย่างแน่นอน ไม่ว่าตอนนี้คุณจะยอมรับผมรึเปล่า ผมก็ไม่ละทิ้ง ผมค่อนข้างเป็นคนเลว สิ่งของและคนที่ชื่นชอบมีไม่มาก แต่ว่าในเมื่อชื่นชอบแล้ว ผมก็จะไม่ปล่อยมือ คุณไม่ยอมรับผม ผมขอรอก็แล้วกัน ถ้าคุณอยากหาคนอื่น ขอโทษด้วยนะ มาคนนึงผมก็สู้คนนึง มาคู่นึงผมก็สู้คู่นึง ยังไงซะชาตินี้คุณอย่าคิดหนีผมไปไหนเลย"
"ทำไมคุณถึงขี้โกงแบบนี้นะ?"
คมทิพย์ฟังถึงตอนสุดท้าย จนคำพูดไปเลยทีเดียว
เธอเห็นภายนอกของพฤกษ์สุภาพเรียบร้อย ยังไงก็คิดไม่ถึงว่าเขาถึงขั้นขี้โกงขนาดนี้
พฤกษ์กลับพูดอย่างยิ้มแย้มว่า:"ผู้หญิงดีๆแพ้ผู้ชายตื้อไม่ใช่หรอ?ขอแค่ผมไม่ล้มเลิก คนอื่นก็ไม่มีโอกาส คุณจะลากเวลาไปอีกสักกี่ปี ผมก็ขออยู่เป็นเพื่อนคุณ
พูดว่าคมทิพย์ไม่ซาบซึ้งเลยก็โกหกแล้ว นอกจากเรื่องแบบนี้ เธอคิดจริงๆว่าตัวเองจบแล้วแน่ๆเลย ตอนนี้เห็นความจริงใจของพฤกษ์ เธอหวั่นไหวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
"คุณว่าบุริศร์คิดเหมือนคุณมั๊ย?เขาเห็นรูปถ่ายใบนั้น จะเข้าใจนรมนผิดไหม?"
"ไม่เลย!ความรักที่ประธานบุริศร์มีต่อคุณนาย ลึกซึ้งกว่าที่ผมมีต่อคุณเสียอีก ย่อมไม่เชื่ออยู่แล้ว"
คมทิพย์กลับส่ายหน้าพูดว่า:"ถ้าเขาไม่เชื่อจริงๆ ทำไมถึงโกรธนรมนหล่ะ?แล้วเป็นไปได้ไงที่เสียสติและไปต่อสู้กับเจตต์?เขาคือบุริศร์เชียวนะ!บุริศร์ผู้เย็นชาและไร้หัวใจซึ่งโด่งดังมาโดยตลอด ตอนนี้ไม่สนภาพพจน์เพื่อรูปถ่ายใบหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าแค้นใจแค่ไหน ฉันกลัวจริงๆระหว่างพวกเขาจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาอีก ไม่ง่ายเลยนะกว่านรมนจะมีชีวิตที่สงบสุขแบบนี้"
เห็นคมทิพย์กังวลใจ พฤกษ์พูดเสียงทุ้มต่ำว่า:" ประธานบุริศร์ต้องจัดการให้เรียบร้อยอยู่แล้ว วางใจเถอะนะ"
"ขอให้เป็นแบบนั้นเถอะ"
คมทิพย์ยังคงไม่สบายใจ
นรมนกลับยังไม่รู้ว่าทุกคนต่างลังเลและทรมานใจเพื่อเธอ เธอเล่นกับกานต์ในห้องรับแขกอย่างมีความสุข
บุริศร์คิดว่านรมนจะขึ้นมาง้อตัวเองบ้าง คิดไม่ถึงเลยว่าขึ้นมาตั้งนานแล้วก็ไม่ได้ยินเสียงเคาะประตูเลย ในที่สุดโมโหซะจนเขานั่งไม่ติดอีกแล้ว เปิดประตูห้องนอน เจอกับนรมนและกานต์ที่เล่นกันอย่างสนุกสนาน พริบตาเดียวนั้นเขาโมโหจะแย่อยู่แล้ว
"นรมน!"
"อ้อ?"
นรมนถูกบุริศร์ตะโกนเรียกจนเบลอๆ หันหน้ากลับไปปุ๊บ ผู้ชายคนนั้นยืนอยู่ที่บันไดชั้นสองจ้องหน้าเธอด้วยสีหน้าที่เข้มขรึม
เธอไปทำท่าไหนถึงได้ยั่วโมโหเทวดาพิฆาตองค์นี้อีกแล้ว?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
650 ตอนยังไม่จบเลยค่ะ...
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...