แค้นรักสามีตัวร้าย นิยาย บท 428

บทที่ 428 ผมจะดูแลคนรักของคุณให้ดี

กานต์สามารถมองเห็นว่าบุริศร์ท่าทางรีบร้อน แต่เขากลับจงใจพูดว่า:“อันที่จริงท้องฟ้าข้างนอกก็ยังไม่มืด ผมสามารถนอนกับหม่ามี้ได้อีกสักหน่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกมลก็ยังไม่ตื่นเลย”

มุมปากของบุริศร์ตกลงทันที

“ไอ้เด็กหน้าเหม็นคนนี้ แกจงใจใช่ไหม?”

“ใช่แล้ว จงใจจะอยู่กับหม่ามี้ หม่ามี้ไม่ใช่ของคุณเพียงคนเดียว คุณมีสิทธิ์อะไรไม่ให้พวกเราอยู่กับหม่ามี้เยอะๆ?”

กานต์ถามแบบนี้ นึกไม่ถึงว่าบุริศร์จะไม่รู้ว่าควรตอบอย่างไรดี

“อย่างไรเสียพวกแกก็รีบกลับไปเถอะ นี่เมียของฉันนะ”

“ก็เป็นหม่ามี้ของผมเหมือนกัน!”

คำพูดของกานต์ไม่มีผิด แต่กลับทำให้บุริศร์พูดไม่ออก

จู่ๆเขาก็รู้สึกว่าไอ้เด็กหน้าเหม็นคนนี้เกิดมาเพื่อต่อต้านเขา คิดไปคิดมาจึงพูดว่า:“คุณย่ารออยู่ข้างล่างนานแล้ว พวกแกไม่สงสารเหรอ?”

พูดถึงคุณนายตระกูลโตเล็ก กานต์นิ่งไปเล็กน้อย

คุณย่าของเขาดีกับพวกเขามากๆ วันนี้ก็เพราะคุณย่าบอกว่าจะพาพวกเขามาหาหม่ามี้ ไม่อย่างนั้น ถ้ารอให้บุริศร์บอกให้พวกเขามาหาหม่ามี้ ยังไม่รู้ว่าต้องรอถึงปีไหน

นึกถึงตรงนี้ กานต์เหลือบมองบุริศร์อย่างดูถูก:“ผู้ชายใจแคบ หึงแม้กระทั่งลูกของตัวเอง คุณไม่กลัวจะหึงจนเป็นบ้าตายเหรอ”

บุริศร์คิดไม่ถึงว่ากานต์จะตอบกลับตนเองแบบนี้ เขาอึ้งไปทันที และตอบกลับไปตามจิตใต้สำนึก:“ฉันยินดีที่จะหึงตาย แกยุ่งอะไรด้วย?”

“ชิ!”

กานต์ปีนขึ้นมา ตัดสินใจที่จะไม่เถียงกับผู้ชายที่ทำตัวเหมือนเด็กยิ่งกว่าเขา

เขาจูบลงไปบนใบหน้าของนรมน มองเห็นมุมปากของบุริศร์กระตุกอย่างชัดเจน ถ้าเขาไม่ใช่ลูกชายของเขา เดาว่าคงถูกเขาคว้าคอเสื้อโยนออกไปแล้ว

ไม่ได้เห็นสีหน้าแบบนี้ของบุริศร์มานาน กานต์รู้สึกมีความสุขอย่างปฏิเสธไม่ได้

“ผมรักหม่ามี้ที่สุด ได้ยินว่าสำหรับคนที่ชอบที่สุดต้องจูบลงบนปาก”

กานต์พูดจบก็ก้มตัวลงไป กลับรู้สึกว่ามีคนดึงคอเสื้อของตนเองอย่างไม่ทันตั้งตัว ทันใดนั้นเองใบหน้ามืดดำเหมือนกับก้นหม้อของบุริศร์ก็ปรากฏตรงหน้าของเขา

“กานต์ แกพอได้แล้วนะ!ถ้าแกกล้าก็ลองจูบผู้หญิงของฉันดูสิ!”

“นี่คือหม่ามี้ของผม!”

“ก็จูบปากไม่ได้!จูบแก้มสำหรับฉันก็มากพอแล้ว แกเชื่อไหมว่าฉันสามารถโยนแกลงไปจากชั้นสองได้?”

บุริศร์รู้ว่ากานต์จงใจ แต่ตนเองไม่สามารถควบคุมความหึงที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดได้

ไอ้เด็กคนนี้จงใจก่อกบฏ!

คิดไม่ถึงว่าจะอยากจูบปากเมียของเขา?

คิดว่าเขาไม่กล้าแตะต้องใช่ไหม?

กานต์กลับพูดด้วยรอยยิ้ม:“คุณไม่กล้าหรอก ถ้าคุณจับผมโยนลงจากชั้นสอง หม่ามี้จะเกลียดคุณ ในเมื่อผมคือเลือดเนื้อเชื้อไขของเธอ ผมมีค่าสำหรับเธอ”

“แก……”

บุริศร์ถูกกานต์ยั่วโมโห จึงคว้าคอเสื้อของเขาลากลงมาจากเตียงด้วยความโกรธ

“โอ้ย ผู้ชายที่โกรธเพราะความอับอายมักจะหยาบคายแบบนี้!”

กานต์ไม่รู้สึกอะไรแม้แต่เล็กน้อย ยังคงยั่วยุบุริศร์เหมือนเดิม

บุริศร์เอาแต่บอกตนเองว่า อย่าไปเถียงกับไอ้เด็กหน้าเหม็นคนนี้ เขาจึงเลิกเถียง เพียงแต่ท่าทางกัดฟันกรามนั้นกลับมองเห็นกานต์เรียกได้ว่าสบายใจมาก

ลากกานต์ออกมาได้อย่างยากเย็น และส่งให้กับพฤกษ์ที่รออยู่ด้านนอก บุริศร์ไม่แม้แต่เหลียวมองเขา อุ้มกมลที่ยังหลับใหลขึ้นมาต่อ

กมลไม่รู้ว่าที่นอนของตนเองได้เปลี่ยนไปแล้ว เธอควานหาตำแหน่งหลับสบายในอ้อมแขนของบุริศร์อย่างไม่รู้ตัว นอนน้ำลายไหล หลับฝันหวาน

ร่างนุ่มๆในอ้อมแขนของบุริศร์ขยับไปมาเล็กน้อย เหมือนกับมีขนนกมาเขี่ยที่หัวใจของบุริศร์

เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ลูกสาวคือคนรักในชาติที่แล้วของเขา

ความเอาอกเอาใจส่องแสงในแววตาของบุริศร์ คิดไม่ถึงว่าจะอาลัยอาวรณ์ไม่อยากให้กมลกลับไป

พฤกษ์เห็นท่าทางหลงลูกสาวของบุริศร์แบบนี้ จึงอดกล่าวด้วยรอยยิ้มไม่ได้:“ประธานบุริศร์ ถ้าตัดใจไม่ได้จริงๆ ไม่สู้ให้คุณหนูค้างที่คฤหาสน์สักสองวันล่ะครับ?”

“ช่างเถอะ ให้กลับไปกับแม่ของฉัน น่ารักน่าเอ็นดูแบบนี้ แม่ของฉันก็ชอบอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องที่คฤหาสน์ยังไม่ได้จัดการให้เรียบร้อย พวกเขาอยู่ที่นี่คงจะไม่เหมาะสม”

ในที่สุดบุริศร์จึงอุ้มกมลลงไปชั้นล่าง

กานต์เห็นท่าทางระมัดระวังของบุริศร์ จึงพูดเสียงเบา:“คุณอย่าถูกความอ่อนหวานของกมลหลอกนะ ตอนนี้เธอชั่วร้าย”

“นั่นก็ดีกว่าแก”

บุริศร์มองอย่างไรก็รู้สึกว่ากานต์กำลังอิจจา จึงยิ่งรู้สึกรักและเอ็นดูกมลเพิ่มมากขึ้นอย่างห้ามไม่ได้

“ลูกสาวของฉันเป็นเด็กดีเชื่อฟังที่สุด ไม่เหมือนคนบางคน วันๆเอาแต่อกตัญญูกับผู้ใหญ่ ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร”

กานต์มองเห็นบุริศร์มีความคิดเหมือนเด็กเช่นนี้ จึงหันไปถามพฤกษ์ที่อยู่ด้านข้าง:“คุณอาพฤกษ์ ผมได้ยินมาว่าวอลนัทช่วยบำรุงสมองเหรอครับ?”

“ครับ ถ้านายน้อยชอบทาน เดี๋ยวผมจะให้คนซื้อกลับมาให้คุณเยอะๆ”

พฤกษ์คิดว่ากานต์อยากกิน

กานต์กลับพยักหน้าและพูดว่า:“ครับ ควรจะซื้อกลับมาเยอะๆเลย เอาไว้ให้ประธานบุริศร์ของพวกคุณบำรุงสมอง ไม่งั้นผมกลัวว่าบริษัทร่วมทุนภายใต้ชื่อของเขาจะถูกเปลี่ยนเจ้าของในเร็วๆนี้ ถึงตอนนั้นผมกับหม่ามี้แถมยังมีน้องสาวอีกคนคงต้องเกาะคุณย่ากิน”

พูดจบ เขายังเลียนแบบท่าถอนหายใจ เหมือนกับเรื่องนี้กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า

มุมปากของบุริศร์กระตุกขึ้นอีกครั้งหนึ่ง

ไอ้เด็กหน้าเหม็นคนนี้ถ้าไม่กวนประสาทเขาสักพักมันจะอึดอัดมากเลยใช่ไหม?

“กานต์ แกอยากโดนตีก้นเหรอ?”

“นอกจากคุณจะใช้ความรุนแรงกับผม ยังจะทำอะไรได้อีก?”

กานต์ไม่กลัวบุริศร์สักนิดเดียว เขาเหลือบมองและลงไปชั้นล่าง จู่ๆเขาก็พูดกับคุณนายตระกูลโตเล็กว่า:“คุณย่าครับ แด๊ดดี้บอกว่าเดี๋ยวจะไปส่งพวกเรา”

“จ๊ะ พวกเรากลับบ้านกัน!”

คุณนายตระกูลโตเล็กมองหลานชายที่รู้จักคิดของตนเอง เธอยิ้มจนแก้มปริ

หลังจากย่าหลานออกมาจากคฤหาสน์ บุริศร์ก็รออยู่ข้างนอกแล้ว กลัวว่ากมลจะถูกลมพัดแรง เขาจึงถอดเสื้อคลุมห่อให้เธอ โดยไม่สนใจว่าชุดสูทอิตาลีตัดเย็บด้วยมือจะมีรอยยับหรือเปล่า

คุณนายตระกูลโตเล็กขึ้นไปบนรถ กานต์ก็ตามขึ้นไป ส่วนบุริศร์ส่งกมลให้กับแม่ของตนเอง

“เธอยังหลับอยู่ ไม่เป็นไรใช่ไหม?”

บุริศร์รู้สึกเป็นห่วงอยู่ไม่น้อย

“วางใจเถอะ ไม่เป็นไรหรอก มีแม่อยู่”

คุณนายตระกูลโตเล็กยิ้ม ส่งสายตาที่รู้กันเพียงแค่สองคนให้แก่บุริศร์ จากนั้นจึงกอดกมลไว้ในอ้อมแขนของตนเอง

กานต์เห็นบุริศร์มีท่าทางเป็นห่วง จึงเอ่ยเสียงเบาว่า:“คุณวางใจเถอะ ผมจะดูแลคนรักของคุณให้ดี แล้วค่อยให้ค่าตอบแทนผมก็พอ”

“นั่นน้องสาวของแกนะ! ไอ้เด็กหน้าเหม็น สมองของแกวันๆคิดแต่เรื่องอะไร?”

ความอาลัยอาวรณ์ของบุริศร์ถูกคำพูดของกานต์ขัดจังหวะไม่น้อย

ไอ้เด็กหน้าเหม็นคนนี้คิดจะเป็นศัตรูกับเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ กวนตีนจริงๆเลย เพียงแต่มองพวกเขากำลังจะกลับไป บุริศร์ยังคงรู้สึกเป็นทุกข์อยู่เล็กน้อย

“แม่ครับ ช่วงนี้ฝากดูแลพวกเขาด้วย รอเรื่องนี้จบลง ผมจะรับพวกเขากลับมา”

“อืม เข้าใจแล้ว กลับไปเถอะ เดี๋ยวนรมนตื่นมาแล้วไม่เจอใครอยู่ข้างๆ”

คุณนายตระกูลโตเล็กพูดจบ จึงให้พฤกษ์ขับรถกลับไป

บุริศร์กลับมาถึงคฤหาสน์ นรมนยังคงหลับพักผ่อน เขาขึ้นไปบนเตียงด้วยความรักสุดหัวใจ ดึงนรมนมาไว้ในอ้อมกอด

นรมนหาตำแหน่งที่สบายซบลงไปอย่างไม่รู้ตัว ในตอนแรกก็นอนหลับสนิท แต่ทันใดนั้นดูเหมือนว่าจะตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่าง เธอเงยหน้าขึ้นทันที มองเห็นใบหน้าระยะประชิดของบุริศร์อยู่ตรงหน้าของตนเองในตอนนี้

เธอผลักบุริศร์ออกไป มองซ้ายมองขวาและถามว่า:“เด็กๆล่ะคะ?”

บุริศร์รู้สึกเจ็บปวดจากการกระทำของเธอ

“คุณภรรยา คุณทำแบบนี้กับผมเหรอ?”

นรมนไม่สนใจสีหน้าน้อยใจของบุริศร์ ช่วงนี้ผู้ชายคนนี้ทำตัวเหมือนถูกผีดราม่าควีนเข้าสิง เอาแต่เรียกร้องความสนใจจากเธอ และเบี่ยงเบนหัวข้อสนทนาของเธอ “ฉันถามคุณว่า เด็กๆล่ะคะ?“

เห็นนรมนมีท่าทางร้อนใจจริงๆ บุริศร์ถึงจะตอบว่า:“มืดแล้ว แม่พาพวกเขากลับบ้านไปเรียบร้อย ถ้าคุณคิดถึงพวกเขา อีกสักวันสองวันผมจะให้พวกเขามาหาใหม่ก็ได้”

ได้ยินบุริศร์พูดแบบนี้ นรมนรู้สึกหงอยเหงาทันที

“กลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ?ทำไมถึงไม่ปลุกฉัน? ฉันเองก็นะ คิดไม่ถึงว่าจะนอนหลับสนิทแบบนี้ แม้แต่ลูกกลับไปยังไม่รู้เรื่อง”

พูดจบ แววตาของเธอก็ปรากฏความเศร้าสลดเล็กน้อย

บุริศร์อยากจะปลอบโยนสักคำสองคำ แต่ทันใดนั้นเอง โทรศัพท์ในบ้านก็ดังขึ้น เสียงนั้นดังก้องกังวาน ทำเอานรมนกับบุริศร์ตกใจหมด

ไม่รู้ว่าทำไม นรมนถึงได้รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาอย่างกระทันหัน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย