บทที่ 460 เขาต้องผ่านมันไปให้ได้
การเคลื่อนไหวของนรมนชะงักลงเล็กน้อย ตอนนี้อีกฝ่ายกระชากข้อมือนรมนกะทันหัน ความรู้สึกชาทำให้เธอไร้เรี่ยวแรงทันที
“แก……”
นรมนเพิ่งพูดได้คำเดียว อีกฝ่ายก็เอาข้อมือสับทำให้นรมนหมดสติทันที
ร่างกายเธอล้มลงอย่างช้าๆ
อีกฝ่ายรับนรมนไว้อย่างรวดเร็ว มองซ้ายขวา พบว่าไม่มีคนสังเกตเห็นทางนี้ ก็อุ้มนรมนในท่าเจ้าสาว โยนเข้าไปในรถตู้โดยตรง จากนั้นก็ขับรถออกไปอีกด้านหนึ่งจากตรอกซอยเล็ก
เมื่อครู่นี้คมทิพย์ยังเห็นนรมน ในพริบตาเดียวนรมนก็หายไปแล้ว
เธออดไม่ได้ที่จะกระวนกระวายใจ
“นรมน! นรมน! เธออยู่ไหนเนี่ย?”
เธอจำได้ว่ามันโกลาหล แต่คนรอบๆ ก็เยอะเกินไปจริงๆ เยอะจนเธอขยับไม่ได้เลย
ช่วยไม่ได้ คมทิพย์ต้องตะโกนขึ้นมาเสียงดัง “ฆ่าคน! มีคนฆ่าคน!”
เมื่อพูดคำนี้ออกไป คนรอบๆ ก็กระจายตัวทันที
ฉวยโอกาสจากช่องว่างนี้ คมทิพย์รีบวิ่งไปยังจุดที่นรมนอยู่เมื่อครู่นี้ แต่ไม่มีเงานรมนเลย?
คมทิพย์ร้อนรนใจจนร้องไห้ขึ้นมาทันที
“พฤกษ์ ฉันทำนรมนหายไปแล้ว ทำยังไงดี? เมื่อกี้ยังอยู่เลย ทำไมจู่ๆ เธอก็หายไปแล้วล่ะ?”
คมทิพย์รีบโทรหาพฤกษ์
เมื่อพฤกษ์ได้ยินคำนี้ ก็สับสนวุ่นวาย
“คุณนายหายไปที่ไหน?”
“นายรีบมา!”
พฤกษ์ได้ยินเสียงร้องไห้แทบขาดใจของคมทิพย์ ก็รีบทิ้งรถ วิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว แต่ตอนนี้เงานรมนอยู่ที่ไหน?
และเวลานี้ตำรวจก็มาที่นี่
เหตุการณ์ยิ่งวุ่นวาย
เพราะสถานะพิเศษของนรมน พฤกษ์จึงไม่สนใจคนอื่นๆ โทรหาอธิบดีกรมตำรวจโดยตรง หวังว่าจะใช้กล้องวงจรปิดโดยรอบหาเบาะแสนรมนได้
เมื่อได้ยินว่าภรรยาบุริศร์เกิดเรื่อง อธิบดีก็ไม่กล้าชักช้า รีบให้ตำรวจสองสามนายมาช่วยเหลือในที่เกิดเหตุ
แต่มีจุดบอดกล้องวงจรปิดที่นี่ ก็คือซอยเล็กๆ ด้านหลังคลับCrown ที่นั่นไม่มีกล้องวงจรปิด
พฤกษ์วิ่งมา พบล้อรถตู้อยู่บนพื้น ดูแล้วน่าจะเพิ่งออกไปได้ไม่นาน
“รีบขึ้นรถ!”
พฤกษ์พาคมทิพย์ขึ้นรถไป ไม่สนว่ารถจะติดหรือไม่ ขับตรงไปที่แปลงดอกไม้ข้างๆ ออกไปตามล้อยางรถในซอยเล็กๆ
แต่ที่น่าเสียดายคือ ออกจากซอยเล็กๆ ไม่ไกลก็เป็นสี่แยก ที่นี่ไม่มีร่องรอยรถตู้อีกแล้ว อย่างไรแล้วรถที่สี่แยกมันก็เยอะเกินไป เป็นเรื่องยากมากที่จะตามหารุ่นของรถ
พฤกษ์ประหม่าและกังวลอย่างมาก
ทำอย่างไรดี?
ก่อนออกเดินทางประธานบุริศร์กำชับครั้งแล้วครั้งเล่า ว่าต้องดูแลความปลอดภัยของคุณนายคุณชายและคุณหนูให้ดี ตอนนี้เขากลับทำคุณนายหายตัวไป!
พฤกษ์ตำหนิตัวเองอย่างมาก ต้องโทรหาบุริศร์ แต่บุริศร์ปิดเครื่อง
นี่เป็นเรื่องที่พฤกษ์ไม่เคยประสบมาก่อน อาจจะบอกได้ว่าตั้งแต่อยู่กับบุริศร์มา เขาไม่เคยติดต่อบุริศร์ไม่ได้ ไม่คิดว่าบุริศร์จะปิดเครื่องตอนนี้
พฤกษ์ร้อนรนใจกระวนกระวายหาทางออกไม่ได้ และคมทิพย์ตำหนิตัวเองอย่างต่อเนื่อง
โทรติดต่อกันเป็นสิบๆ ครั้ง ไม่สามารถโทรหาบุริศร์ติดได้ พฤกษ์ต้องโทรหาป้อง
“คุณชายป้อง รู้วิธีติดต่อประธานบุริศร์ของเราไหม?”
“ไม่แน่ใจ เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”
ป้องเพิ่งกลับบ้าน ยังไม่ได้พูดอะไรกับโพนี่ ก็ได้รับสายจากพฤกษ์
มาถึงตอนนี้แล้ว พฤกษ์ก็ไม่ปิดบังอย่างแน่นอน
“คุณนายของเราหายตัวไป ฉันโทรหาประธานบุริศร์ แต่โทรศัพท์เขาไม่มีคนรับตลอดเวลา คุณชายป้อง ฉันไม่รู้นะว่าคุณกับประธานบุริศร์ของเรากำลังทำอะไรกันอยู่ แต่ถ้าคุณติดต่อเขาได้ กรุณาติดต่อประธานบุริศร์ของเราให้สำเร็จได้ไหม?”
พฤกษ์เกือบร้องไห้แล้ว
คิ้วป้องขมวดเข้าหากันแน่น
“อะไรคือคุณนายของคุณหายตัวไปแล้ว? ไม่ได้อยู่ที่ตระกูลธนาศักดิ์ธนเป็นอย่างดีเหรอ?”
“ใช่ ตอนแรกก็อยู่เป็นอย่างดี แต่จู่ๆ ตังเมก็หนีออกไปจากตระกูลโตเล็ก คุณนายเป็นห่วงคุณนายตระกูลโตเล็กและคุณชาย คิดจะกลับไปเยี่ยมตระกูลโตเล็ก แต่เจอรถติดบนถนน ทางคลับCrownก็เกิดเรื่องอีก คุณนายลงไปดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น ผลสุดท้ายคนมันเยอะเกินไป ก็……”
พฤกษ์พูดพลางตำหนิตัวเอง เขาไม่ควรให้นรมนกับคมทิพย์ลงรถไปเลย
แต่ในนั้นมีเรื่องของแก้ม เขาไม่รู้ว่าควรพูดเรื่องนี้กับป้องอย่างไร
ป้องได้ยินถึงตรงนี้ ก็รีบหยิบเสื้อโค้ตขึ้นมาแล้วพูดขึ้น “ติดต่อสถานีตำรวจหรือยัง?”
“ติดต่อแล้ว แต่ทางนี้มีตรอกมืดเป็นจุดบอดกล้องวงจรปิด เราเสียเบาะแสไป”
“นายอย่าเพิ่งกังวล ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”
ป้องวางสายแล้วก็กำลังจะออกไป
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”
โพนี่เห็นสีหน้าเขาตื่นตระหนก ก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้น
ป้องเล่าเรื่องนรมนให้ฟังอีกครั้ง สีหน้าของโพนี่ค่อนข้างแย่
“ทางที่ดีรีบตามหานรมนให้เร็วที่สุด”
เขาหอบหายใจหนัก เหมือนปลาขาดน้ำ
เขาไม่รู้ว่ารอบนี้ตัวเองผ่านไปนานแค่ไหน แต่เขารู้ว่า นี่เป็นแค่เริ่มต้น เวลาที่เหลืออยู่อาจจะยิ่งลำบากยากเข็ญ
ตอนที่สติสัมปชัญญะหายไป ในหัวสมองเขามีเพียงใบหน้ายิ้มแย้มของนรมนและเด็กๆ เท่านั้น แต่เขาช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย
“ช่วยฉันหน่อย”
เสียงบุริศร์แทบจะเสื่อมทรุด เสื่อมทรุดจนคนปกติไม่ได้ยินเสียงเขาพูด แต่ยังมีบางคนปรากฏตัวในสายตาเขาอย่างรวดเร็ว
“คุณชายบุริศร์ เป็นอะไรครับ?”
“เอารูปภรรยาในโทรศัพท์ฉันล้างออกมาให้ฉัน แล้วแปะไว้รอบๆ กรงเหล็กให้หน่อย”
เสียงเขาอ่อนแอ กำลังสะสมความแข็งแกร่ง เพื่อพบกับความทรมานในรอบถัดไป
คนที่เดินมารีบตอบตกลง หาโทรศัพท์บุริศร์ตามคำสั่งของบุริศร์ ทันทีที่เปิดโทรศัพท์ก็เห็นสายที่ไม่ได้รับสิบยี่สิบกว่าสาย และทั้งหมดเป็นคนที่ชื่อพฤกษ์โทรมา
คนที่เดินมากำลังจะบอกเรื่องนี้กับบุริศร์ แต่จู่ๆ ก็ได้รับสายจากป้อง
“บุริศร์เป็นยังไงบ้าง?”
“เพิ่งผ่านรอบแรกครับ พักผ่อนได้ประมาณสิบนาที กำลังจะเจอรอบสอง ผมเคยบอกแล้วว่าจะฉีดยาระงับความเจ็บปวดให้คุณชายบุริศร์ แต่คุณชายบุริศร์ไม่เห็นด้วย”
ชายคนนั้นตอบด้วยเสียงทุ้มต่ำ
คิ้วของป้องไม่คลายออกตั้งแต่ต้นจนจบ
“ไม่ฉีดยาก็ไม่ผิด เขาไม่ใช่คนปกติ เลิกได้โดยไม่พึ่งยาได้ จะดีกับเขามากที่สุด แต่มีเรื่องหนึ่งที่นายห้ามบอกเขาตอนนี้”
“เรื่องอะไรครับ?”
“ไม่ว่าใครจะโทรหาเขากี่สายก็ตาม ห้ามให้เขารู้ตอนนี้ และห้ามให้เขาปลดล็อกโทรศัพท์ รู้ไหม? พิษชนิดนี้รุนแรงเกินไป ถ้าเริ่มแล้วห้ามหยุด ถ้าหยุดกลางคัน เขาคนนี้จะแย่ไปตลอดชีวิต! ทางนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันจะแก้ไขมันอย่างเต็มที่ แต่ตอนนี้ไม่ว่าใคร ก็ห้ามรบกวนเขา เข้าใจไหม?”
เสียงของป้องเย็นชามาก เย็นชาจนไม่เหมือนหมอคนหนึ่ง
ผู้ชายคนนั้นเข้าใจทันที
“ครับ คุณชายป้อง ผมรู้แล้ว”
ชายคนนั้นลบการโทรเข้าจากพฤกษ์อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ทำตามคำสั่งของบุริศร์ หารูปนรมนจากในโทรศัพท์ แล้วพิมพ์ออกมาเป็นรูปแล้วแปะไว้รอบๆ กรงเหล็ก
เห็นรูปภาพนรมนแล้ว บุริศร์ก็ยิ้มขึ้นมาอย่างอ่อนแรง
ราวกับมีแค่วิธีนี้ เขาถึงรู้สึกได้ว่านรมนอยู่เคียงข้างเขา
เขาต้องผ่านมันไปให้ได้!
นรมน รอฉันนะ!
รอฉันกลับไป ฉันจะบอกคุณทุกอย่าง ฉันจะไม่ปิดบังอะไรคุณทั้งนั้น!
บุริศร์แอบพูดในใจ ต้อนรับการต่อสู้อันโหดเหี้ยมรอบที่สองอย่างช่วยไม่ได้ ตอนนี้เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นกับนรมน ยิ่งไม่รู้ว่าตอนนี้นรมนอยากให้เขาปรากฏตัวขึ้นมากแค่ไหน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
650 ตอนยังไม่จบเลยค่ะ...
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...