บทที่ 480 ที่แท้เธอรู้อยู่แล้ว
“นรมน ฉัน…..”
“ถ้างั้นฉันจะไปหาป้อง”
เมื่อนรมนเห็นอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของโพนี่ เธอลุกขึ้นยืน แต่กลับถูกโพนี่รั้งเอาไว้
“เธออย่าไปเลย”
“เธอเองก็เป็นผู้หญิง โพนี่ เธอต้องรู้สิ ว่าฉันมีความรู้สึกยังไงที่ได้เห็นเหตุการณ์แบบนี้ ฉันไม่อยากพูดอะไรไปมากกว่านี้ ฉันไม่มีข้อดีอะไร สิ่งเดียวที่ฉันมีคือความเพียร เพราะงั้นเธอไม่บอกฉันก็ได้ แต่หวังว่าเธอจะไม่ขัดขวางฉันหาคำตอบ”
นรมนเอ่ยอย่างใจเย็น แต่กลับทำให้โพนี่พูดอะไรไม่ออก
“ฉันไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนจริงๆ เพราะที่นี่มีเพียงป้องคนเดียวเท่านั้นที่รู้ แต่ฉันยืนยันกับเธอได้ ว่าประธานบุริศร์ไร้อันตรายถึงชีวิต เธอเชื่อฉันได้ไหม!”
“มาถึงขนาดนี้แล้ว ฉันไม่เชื่อใครทั้งนั้น ฉันเชื่อแค่สิ่งที่ตาเห็น นอกเสียจากพวกเธอจะพาฉันไป”
ประโยคของนรมนทำให้โพนี่นิ่งเงียบไป
“สองวันก็รอไม่ได้งั้นเหรอ?”
“สองชั่วโมงฉันก็รู้สึกว่ามันยากเย็น เธอว่าไงล่ะ?”
นรมนไม่ปิดบังความร้อนรนของตนแม้แต่น้อย
โพนี่จับจ้องเธอนิ่ง ก่อนที่จะถอนหายใจออกมา “ฉันตกลงกับเธอ ว่าจะพาป้องเข้ามา มีอะไรเธอก็ถามเขาเอาเอง แต่เธอต้องตกลงกับฉันก่อน ว่าเธอจะไม่ใช้อารมณ์ เธอต้องรู้ ว่าร่างกายของเธอเป็นยังไง ห้ามได้รับการกระทบกระเทือน เราปิดบังเธอก็เพื่อตัวเธอเอง และเพื่อประธานบุริศร์เองด้วย แต่ก็ถูกของเธอ เขาเป็นสามีของเธอ เธอมีสิทธิ์ที่จะรับรู้ทุกอย่าง แต่เธอต้องเข้มแข็ง หากร่างกายเธอได้รับผลกระทบต่อเรื่องนี้ ฉันบอกตามตรง ว่าฉันไม่มีความมั่นใจที่จะควบคุมโรคของเธอได้”
“ฉันเข้าใจ ไม่ว่าผลที่ตามมาจะเป็นยังไง ฉันจะไม่โทษเธอเลย ฉันไม่เสียใจแม้แต่น้อย ตอนนี้ฉันแค่อยากรู้เรื่องของเขาเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่นฉันไม่สนใจอะไรทั้งนั้น”
ความมุ่งมั่นของนรมนทำให้โพนี่ลำบากใจ
“เธอนั่งลงก่อน ฉันจะโทรหาป้อง”
ท้ายที่สุด เขาก็หลบหลีก หากแต่โพนี่ยังคงหนักแน่น
สุดท้ายพวกเขาก็ไม่สามารถปิดบังเธอได้ ไม่รู้ว่าเธอไปได้คลิปนี่มาจากไหนกัน
เมื่อป้องรับสายจากโพนี่เขากำลังยุ่งอยู่กับการวิจัย เมื่อได้ยินโพนี่ให้เขาไปหาที่โรงพยาบาล เขาไม่รู้สึกถึงความผิดปกติแต่อย่างใด
“มีเรื่องอะไรงั้นเหรอ? ไปคุยกันที่บ้านไม่ได้เหรอ?”
ป้องผลักประตูห้องออก เขานิ่งไปเมื่อเห็นร่างของนรมน
“คุณนายโตเล็ก? ทำไมถึงมาอยู่นี่ได้?”
นรมนจ้องมองป้องที่อยู่ข้างหน้า พลอยนึกถึงคำพูดของเจตต์ เธอไม่อยากจะเชื่อว่าคนแบบนี้จะเป็นคนกักขังบุริศร์
ระหว่างพวกเขาคงมีเรื่องเข้าใจผิดรึเปล่านะ?
เมื่อเห็นนรมนนิ่งเงียบ พร้อมกับจับจ้องมาที่ตนอย่างมีความนัย เขาฉงนใจอยู่บ้าง จึงหันไปทางโพนี่เพื่อเอาคำตอบ
โพนี่กระแอมไอ “นรมนรู้หมดแล้ว คุณคุยกับเธอแล้วกัน”
“คุยเรื่องอะไร?”
สีหน้าของป้องหมองลงทันที
นรมนเห็นอะไรบางอย่างจากสายตาของป้อง เมื่อเห็นอาการของเขา นรมนยื่นคลิปวิดีโอไปตรงหน้าของเขา “ฉันอยากรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน และฉันต้องได้เจอเขาเดี๋ยวนี้”
เธอเอ่ยอย่างไม่เกรงอกเกรงใจ แต่กลับทำให้ป้องขมวดคิ้วแน่น
“นี่มันอะไร? มีความเกี่ยวข้องอะไรกับผม? คุณนายโตเล็ก เกิดอะไรขึ้นกับคุณชาบุริศร์?”
นรมนไม่คาดคิดถึงการยืนกรานอย่างหนักแน่นของป้อง
เธอลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ พร้อมเอ่ยอย่างเย็นชา “คุณชายป้อง ฉันเห็นแก่ความสัมพันธ์ของคุณและบุริศร์ ฉันถามคุณดีๆ ฉันเองก็รู้สึกว่าคุณคงไม่ทำอันตรายต่อเขา ในนี้อาจจะมีเรื่องเข้าใจผิดที่ฉันยังไม่รู้ แต่ถ้าหากคุณยังคิดจะปิดบังฉันต่อไป ฉันจะไปสทบหาคำตอบด้วยตัวเอง ฉันหาคลิปนี่ได้ ฉันก็ต้องมีวิธีหาที่ตั้งของเขาจนเจอ ฉันไม่ได้มาเพื่อฟังคำหลอกลวงของคุณ ฉันเพียงต้องการพบสามีของฉันเดี๋ยวนี้!”
ป้องคิเว่านรมนเป็นผู้หญิงที่บอบบาง แต่เมื่อได้เห็นเธอในตอนนี้ อดที่จะมองเธอด้วยความอึ้งไม่ได้
“คุณนายโตเล็ก คุณกำลังข่มขู่ผมอยู่หรือเปล่า?”
“หากคุณคิดว่าใช่ ก็ใช่แล้วกัน”
นรมนไร้ทีท่าถดถอยเลยแม้แต่น้อย
ป้องเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “อย่างคุณเนี่ยนะ? คุณคิดว่าคุณมีอะไรที่ข่มขู่ผมได้อย่างนั้นเหรอ?”
“ฉันข่มขู่คุณไม่ได้ แต่ถ้าหากฉันบอกคุณว่า ฉันเป็นนายหญิงของอาณาจักรรัตติกาล ฉันจะนำฐานะนี้ข่มขู่คนที่อยู่เมืองหลวงได้ไหม? ฉันรู้ว่าคุณมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้บังคับบัญชาสักคนในกองทหาร แต่ถ้าหากเมืองหลวงออกคำสั่ง ไม่ว่าจะเป็นหน่วยรบพิเศษอะไร ก็ต้องไว้หน้าคนที่เมืองหลวงใช่ไหม? พอดีเลย เหมือนว่าฉันจะรู้จักคุณชายธเนศพล”
นรมนพลิกไพ่ใบเด็ดของตน
ป้องสีหน้าไม่สู้ดี
ฐานะของธเนศพลป้องรู้ดี อย่ามาแต่หน่วยรบพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ต้องให้เกียรติธเนศพลทั้งนั้น แถมนรมนยังเป็นนานหญิงของอาณาจักรรัตติกาลอีกด้วย
ป้องคิดไม่ถึงเลย
เขาตระหนกกับสิ่งที่ได้รับรู้ แต่เมื่อนึกถึงสถานะของเธอ เขาก็เข้าใจทุกสิ่งทันที
“ที่แท้เธอรู้แต่แรกอยู่แล้ว ถ้างั้นฉันจะบอกเธอ เธอรู้เรื่องที่บุริศร์ไปที่คลับCrownไหม?”
“เคยได้ยินมาบ้าง”
นรมนมีคำถามในเรื่องนี้มาโดยตลอด แต่กลับหาคำตอบที่ชัดเจนไม่ได้ เธอให้พฤกษ์ไปถามข้อมูลกับทางตำรวจ
แต่การตายของแก้ม ทางตำรวจไม่ได้ให้คำตอบที่ชัดเจน
บัดนี้ป้องเอ่อยถึงเรื่องที่คลับCrownขึ้นมา นรมนจึงนิ่งไปโดยอัตโนมัติ
ป้องเอ่ยเสียงต่ำ “บุริศร์ไปดื่มที่คลับCrown แต่พนักงานบริการแก้มที่เก็บไวน์ให้กับบุริศร์เสมอวางยาที่เหมือนที่คุณนายทวีทรัพย์ธาดาให้เขาดื่ม ส่วนร่างกายที่ผิดปกติของบุริศร์ เราอยากจะสืบหาผู้อยู่เบื้องหลัง แต่แก้มกลับเสียชีวิตไปกะทันหัน การตายก็ประหลาดมาก สาเหตุมาจากเสพยาเกินขนาดเช่นเดียวกัน ผมตรวจสอบแล้ว แก้มถูกฆาตกรรม แล้วถูกฉีดยาเสพติดเข้าร่างหลังเสียชีวิต”
เมื่อได้ยินประโยคของป้อง หัวของนรมนระเบิดตูม
“คุณว่าไงนะ? คุณบอกว่าบุริศร์เขา…..”
“ใช่! นี่เป็นสาเหตุที่เขาออกจากเมืองชลธีไป แม้ว่าเขาจะรู้ว่าพวกเด็กๆ ต้องการการปกป้อง รู้ว่าพวกเธอจะเกิดอันตรายขึ้น แต่เขาไม่มีเวลาแล้ว หากข่าวที่เขาเสพยาแพร่ออกไปในเมืองชลธี ตระกูลโตเล็ก แม้แต่พวกเธอเองก็จะได้รับอันตรายไปด้วย เพราะงั้นผมถึงได้ให้เขาไปจากที่นี่ ไปในที่ลับตาเพื่อเลิกยา เขาดื่มไวน์ไปไม่มาก แต่ยาเสพติดหลอมละลายเข้ากับไวน์ได้ดี ฤทธิ์ของมันจึงแรงมาก เพราะงั้นถึงได้ให้เขาเปลี่ยนเลือดทุกวัน คลิปที่เธอเห็นคืออาการที่ฤทธิ์ยากำเริบและการเปลี่ยนเลือด หากเป็นข้างนอกไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีใดก็มีอันตรายทั้งนั้น ผมก็เลยส่งเขาไปปฏิบัติการที่เกาะลับแห่งหนึ่งของกองทับ เพราะกลัวว่าเธอจะเป็นกังวล เขาก็เลยปิดเครื่อง แล้วก็สั่งผมห้ามบอกเธอเรื่องที่เกิดขึ้นกับเขา ถ้าหากยุติการล้างพิษลง อนาคตของเขาจบเห่กัน”
ทุกคำพูดของป้องเป็นเสมือนกับมีดคมที่กรีดเฉือน ที่กลางใจของนรมนจนเกิดแผลเหวอะ
ที่แท้นี่ต่างหากเป็นความจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น!
นรมนรู้สึกเย็นหนาวเหน็บไปทั่วร่าง แขนขาเย็นเยือก
เธอสูญสิ้นเรี่ยวแรง ล้มตัวลงนั่งบนโซฟา
“นรมน เธอไม่เป็นไรใช่ไหม?”
โพนี่คอยสังเกตอาการของเธออยู่ตลอด เมื่อเห็นปฏิกิริยาของเธอ หญิงสาวจึงเกิดความกังวลขึ้น
นรมนส่ายหน้า พร้อมจับจ้องป้องนิ่ง “เป็นความต้องการของเขาใช่ไหม? เขาไม่ใช่คุณบอกกับฉัน เขาสั่งให้คุณปิดบังฉันใช่ไหม?”
“ใช่!”
คำพูดของป้องทำให้นรมนน้ำตาไหลอาบอย่างหักห้ามไม่อยู่
เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ขึ้น แต่ภรรยาอย่างเธอเพิ่งจะรับรู้เมื่อสักครู่นี้!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
650 ตอนยังไม่จบเลยค่ะ...
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...