แค้นรักสามีตัวร้าย นิยาย บท 502

บทที่ 502 บางทีทั้งหมดนี่อาจเป็นเพียงการคาดการณ์ของเรา

กิจจารู้สึกไม่ค่อยสบายใจ อดไม่ได้ที่จะเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว

กานต์จับเขาไว้แล้วถามขึ้น “นายจะไปทำไม?”

กิจจาถึงได้สติกลับมา

“เปล่า”

เขายิ้ม ไม่ได้พูดว่าเห็นตรินท์ออกมา แต่ในใจมีความสงสัยเพิ่มขึ้น

แด๊ดดี้ออกไปข้างนอกเวลานี้ แผนการพวกเขาจะถูกค้นพบตอนกลางคืนไหม? หรือว่าคืนนี้แด๊ดดี้จะไม่กลับมา?

กิจจาไม่แน่ใจ ค่อนข้างกังวลอยู่บ้าง

กานต์และกมลโวยวายกันสักพักหนึ่ง ทั้งสามคนก็กลับบ้าน

บุริศร์และนรมนกำลังคุยเป็นเพื่อนคุณนายตระกูลโตเล็ก บรรยากาศค่อนข้างกลมกลืน

เมื่อเด็กสามคนกลับมา กมลก็พุ่งเข้าใส่อ้อมแขนบุริศร์ทันที

“แด๊ดดี้ พี่ชายรังแกหนู”

มุมปากกานต์กระตุก

“กมล พูดดีๆ นะ ใครรังแกใครกันแน่?”

“พี่รังแกฉัน!”

กมลแลบลิ้นใส่กานต์ขณะที่อยู่ในอ้อมแขนบุริศร์ ท่าทางซนๆ นั้นทำให้ทุกคนหัวเราะขึ้นมา

กิจจาถามขึ้นเสียงทุ้ม “คุณย่า แด๊ดดี้ผมออกไปข้างนอกเหรอฮะ?”

“อืม ใช่ บอกว่ามีธุระที่บริษัทต้องจัดการนิดหน่อย วันนี้ไม่รู้จะกลับมากี่โมง เดี๋ยวถ้าหลานอยู่คนเดียวแล้วกลัว ก็ไปหากานต์ได้นะ พวกหลานสองพี่น้องไม่ได้อยู่ด้วยกันมานานมากแล้ว จะได้คุยกันเยอะๆ”

คำพูดคุณนายตระกูลโตเล็กทำให้กานต์ดีใจทันที

“ว้าว! คุณย่าใจดีจัง”

“เจ้าเด็กแสบ!”

คุณนายตระกูลโตเล็กอุทานอย่างดีใจเพราะคำชมเขา

นรมนและบุริศร์ก็หัวเราะขึ้นมา

กานต์ไม่เคยพูดปากหวานกับใคร ทำกับคุณนายตระกูลโตเล็กคนเดียวเป็นพิเศษ

“งั้นคุณย่าฮะ ผมกับกิจจาขึ้นไปก่อนนะ พวกคุณค่อยๆ เล่นกัน”

ขณะที่พูด กานต์ก็พากิจจาเดินไป

กมลรู้สึกค่อนข้างอ้างว้าง

“พี่ เราเล่นกับพวกพี่ด้วยได้ไหม”

คำพูดของกมลทำให้สีหน้ากานต์พังทลายเล็กน้อย

“เธอกลับไปเล่นที่ห้องเองสิ”

“ไม่เอา ฉันอยากเล่นกับพวกพี่ ฉันอยากให้พี่กิจจาเล่านิทานให้ฉันฟัง”

กมลไม่รู้ว่าคืนนี้กานต์กับกิจจามีแผนการที่ยิ่งใหญ่ ตอนนี้จึงไปรบกวนพวกเขา

กานต์หาเหตุผลให้กมลไม่ตามมาไม่ได้ ก็ได้ยินนรมนพูดขึ้น “พาน้องสาวลูกไปเล่นด้วยเถอะ เธออยู่คนเดียวเหงานะ”

ประโยคนี้ทำให้กานต์ไม่มีทางคัดค้านทันที

เขาจ้องมองกมลแล้วพูดขึ้น “ตามมาสิ”

“ฉันไม่ตามพี่ไปหรอก ฉันจะไปกับพี่กิจจา ใช่ไหม?”

กมลพูดพร้อมควงแขนกิจจา

กิจจายิ้ม เขาชอบกมลมากจริงๆ

“ก็ได้ เราไปเล่นกัน”

คำพูดของกิจจาทำให้กานต์ค่อนข้างกลัดกลุ้มแล้ว

เจ้าเด็กนี่ลืมไปแล้วเหรอว่าพวกเขายังทำธุระไม่เสร็จ

แต่ตอนนี้สถานการณ์ไม่มีทางทิ้งกมลไปได้

ทั้งสามคนจึงเดินไปที่ห้องนอนชั้นสองแบบนี้

คุณนายตระกูลโตเล็กเห็นพวกเขาไปแล้ว ก็พูดกับบุริศร์ว่า “ลูกก็พานรมนกลับไปพักผ่อนเถอะ สุขภาพนรมนไม่ค่อยดี อย่านอนดึกเกินไปล่ะ”

คำพูดนี้ ทำให้นรมนใบหน้าร้อนผ่าวเล็กน้อยทันที

“ฉันไม่เหนื่อยค่ะ ฉันจะอยู่ที่นี่คุยกับแม่”

“คุยกับแม่อย่างฉันทำไม? ไม่ได้เห็นสามีมาตั้งหลายวัน ตอนนี้จะมาอยู่เป็นเพื่อนฉันเหรอ? งั้นแม่ก็ไม่รู้จักวางตัวแล้วสิ! ใช่ไหม?”

คุณนายตระกูลโตเล็กยิ้มเรียบๆ ทำให้หน้านรมนยิ่งแดง

บุริศร์พูดขึ้นอย่างหน้าไม่อาย “ใช่ แม่อยู่มานาน รู้ทุกอย่าง”

“เจ้าเด็กแสบ รีบไปเลยนะ!”

คุณนายตระกูลโตเล็กขี้เกียจทะเลาะกับเขา ไล่ไปทันที

บุริศร์ยิ้มพร้อมพูดกับนรมนว่า “แม่ไล่แล้ว คุณยังไม่ไปอีกเหรอ?”

“คุณเงียบเลย!”

นรมนรู้สึกบุริศร์ไม่รู้จักอายขึ้นเรื่อยๆ แล้ว

เธอรีบลุกและเดินขึ้นไปชั้นสอง

บุริศร์ตามขึ้นไปอย่างสุขใจ

ได้ยินบุริศร์พูดความเกี่ยวข้องพวกนี้รู้เรื่องแล้ว นรมนก็เข้าใจในที่สุด

“ฉันเข้าใจแล้ว ดังนั้นคนที่รู้ว่าแก้มเป็นคนดูแลเหล้าให้คุณโดยเฉพาะ นอกจากผู้จัดการล็อบบี้ก็คือตรินท์?”

“อืม!”

บุริศร์พยักหน้า

นรมนมองเขา จู่ๆ ก็ถามขึ้น “ที่คุณบอกฉันเรื่องพวกนี้ คุณกำลังสงสัยตรินท์ใช่ไหม? หรือจะบอกว่าฉันเดาผิด?”

“ฉันกับแม่ก็สงสัยนิดหน่อย ยังจำตังเมได้ไหม?”

“จำได้!”

นรมนจะลืมตังเมลงได้อย่างไร?

เธอแค่ไม่ค่อยเข้าใจ จู่ๆ บุริศร์พูดถึงตังเมหมายความว่าอย่างไร

บุริศร์พูดเสียงทุ้ม “สถานที่ที่ฉันกักขังตังเมเอาไว้มีแค่ฉันกับแม่และตรินท์เท่านั้นที่รู้วิธีเปิด แต่ตังเมหนีไปได้แล้ว”

คิ้วนรมนขมวดเล็กน้อย

“คุณสงสัยว่าตรินท์ปล่อยตังเมไปเหรอ? แต่ทำไมเขาต้องทำแบบนี้ล่ะ? เขาเป็นพี่น้องแท้ๆ กับคุณนะ!”

“ใช่ พี่น้องแท้ๆ!”

บุริศร์รู้สึกเสียใจอยู่บ้าง

“ถ้าไม่ใช่เรื่องกิจจาในวันนี้ บางทีฉันอาจจะไม่รู้ตลอดไปว่าในใจตรินท์คิดอะไร วันนี้เพราะเรื่องกิจจา ฉันถึงได้รู้ว่าหลายปีที่ผ่านมานี้ เขาใช้ชีวิตอยู่ในเงาฉันตลอดเลย”

ประโยคนี้ของบุริศร์ทำให้นรมนเข้าใจอยู่บ้าง

“คุณหมายถึงเขาถูกคนอื่นเปรียบเทียบกับคุณตลอดเลยเหรอ?”

“ใช่ ฝาแฝดก็ไม่ดีตรงจุดนี้ ตั้งแต่เล็กจนโต ทุกเรื่องของเราจะมีคนเอามาเปรียบเทียบ พ่อแม่ฉันไม่ทำ แต่คนอื่นๆ ชอบยกย่องฉันเพราะฉันมีความสามารถและฉลาดกว่าตรินท์ จนตรินท์เปลี่ยนไป เมื่อก่อนยังเด็ก แค่รู้สึกว่าเรื่องแบบนี้พอโตก็จะดีขึ้น แต่เรายังไม่ทันได้จบมหาวิทยาลัย ตรินท์ก็ต้องออกจากบ้านไปเพราะเรื่องอื่น ตอนนั้นฉันคิดว่าในใจเขาคงมีความสุขล่ะมั้ง ยังไงก็ไม่ต้องใช้ชีวิตใต้เงาฉันอีก และไม่ต้องมีใครมาเปรียบเทียบกับฉัน”

เมื่อบุริศร์พูดถึงตรงนี้ ก็รู้สึกเสียใจนิดหน่อย

ตอนอยู่ยูนนาน เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นตรินท์ยิ้มอย่างสดใส ยิ้มอย่างมีความสุขแบบนั้น ดูจากรูปที่เขาส่งมา เขายิ่งชอบยูนนาน ฉันเลยทิ้งความคิดที่จะรับเขากลับมา ฉันคิดว่าทั้งหมดนี้อาจจะเพราะการแยกจากกันมันทำให้เรามีช่วงเวลาที่ดีต่อกัน

“แต่สิ่งที่ฉันไม่คาดคิดคือ ตรินท์เกิดอุบัติเหตุ ตอนนั้นฉันคิดว่าเขาตายแล้วจริงๆ ฉันเสียใจด้วยซ้ำว่าฉันไม่ควรปล่อยให้เขาใช้ชีวิตโดยไม่มีตระกูลโตเล็กปกป้อง ฉันเสียใจกับความรู้สึกผิดนี้มาตลอดห้าปี รู้ว่าเขมิกาท้องลูกของเขา ฉันก็เลี้ยงเขาไว้เป็นลูกของฉันจริงๆ”

“ฉันรู้”

นรมนจับมือบุริศร์

เธอรู้สึกได้ถึงความเสียใจของบุริศร์ พูดปลอบเสียงทุ้ม “บางทีนี่อาจจะเป็นเพียงการคาดการณ์ของเราเองก็ได้นะ อาจจะไม่เกี่ยวกับตรินท์ก็ได้ ไม่ว่ายังไง พวกคุณก็เป็นพี่น้องกันแท้ๆ ความสัมพันธ์ก็ดีมากตั้งหลายปี ตอนที่ฉันเจออันตราย คุณตกอยู่ในที่นั่งลำบาก ตรินท์ก็เป็นคนแรกที่ออกมาช่วยเราไม่ใช่เหรอ? ฉันไม่เชื่อว่าตรินท์เป็นคนที่คิดจะทำร้ายเรา บางทีทั้งหมดนี่อาจจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญ บางทีอาจจะมีเบาะแสอื่นๆ ที่เราคิดไม่ถึงพลาดไปก็ได้นะ”

บุริศร์มองนรมน ทั้งๆ ที่รู้ว่าเธอกำลังปลอบตน แต่ในใจก็รู้สึกดีขึ้นมาก

“ใช่ ตอนนี้ไม่มีหลักฐานอะไร แค่อาศัยการคาดเดาของเราเท่านั้น ห้ามใส่ร้ายตรินท์แบบนี้ ฉันเองก็เชื่อใจพี่น้องท้องเดียวกัน เขาจะไม่เล่นงานฉัน”

“ใช่ เรื่องนี้เราต้องค่อยๆ สืบ บางทีตอนนี้สิ่งที่เห็นจะไม่ใช่ความจริง บุริศร์ ฉันรู้ว่าคุณเสียใจ แต่ถ้าคุณไม่อยากสืบ ตอนนี้เราหนีไปเลยก็ได้นะ หนีไปจากที่นี่โดยไม่ต้องสนใจอะไรทั้งนั้น”

เห็นท่าทางกังวลของนรมน บุริศร์ก็ยิ้มแล้วพูดขึ้น “ยัยทึ่ม เราไปได้ แต่จะทำยังไงกับคุณแม่? จะทำยังไงกับตระกูลโตเล็ก? ทางนี้ยังจัดการไม่เรียบร้อย เราหนีไปจากที่นี่อย่างสบายใจไม่ได้หรอก อีกอย่าง ฉันเองก็อยากรู้มากๆ ว่าครั้งนี้คนที่ลักพาตัวคุณไปมันคือใคร? มีจุดประสงค์อะไร? ทำไมให้คุณมีชีวิตรอดออกมาหลังจากจับตัวคุณไปแล้ว?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย