บทที่ 508 แกหยุดนะ
นรมนรีบรับสายอย่างรวดเร็ว
เธอคิดว่าบุริศร์โทรมา
“บุริศร์ คุณรีบออกมาจากที่นี่ มีคนกลับมา เข้าไปในคลับแล้ว”
หลังจากนรมนรับสายก็พูดประโยคนี้ขึ้นมาทันที
เมื่อกิจจาได้ยินนรมนพูดแบบนี้ก็ตกตะลึงทันที จากนั้นก็ถามโดยไม่รู้ตัว “หม่ามี้ แด๊ดดี้เข้ามาเหรอ?”
“กิจจา? เธออยู่ข้างในเหรอ?”
นรมนกังวลใจอย่างมาก
“อืม ผมกับกานต์อยู่ที่นี่ เราอาจจะติดกับดัก เลยอยากบอกคุณกับคุณลุงให้มาช่วยพวกเราออกไปฮะ”
กิจจารีบบอกนรมนเกี่ยวกับสถานการณ์ในปัจจุบัน
“พวกเธออยู่ที่ไหน? ฉันจะบอกบุริศร์ ให้เขาไปรับพวกเธอ”
ตอนนี้นรมนไม่คิดจะตำหนิกิจจาและกานต์ หลักๆ คือให้เด็กสองคนปลอดภัย
กิจจารีบบอกที่อยู่นรมน
หลังจากวางสายไปแล้ว กานต์ก็ถามขึ้นเสียงทุ้ม “หม่ามี้ว่ายังไงบ้าง?”
“หม่ามี้บอกว่าแด๊ดดี้เข้ามาแล้ว แต่เธอก็บอกว่า คนในคลับกลับมาแล้วเหมือนกัน เข้ามาแล้วด้วย เราจะทำยังไงดี? อยู่ที่นี่รอคุณลุง หรือว่าออกไป?”
กิจจาไม่ค่อยแน่ใจแล้ว
กานต์ได้ยินเสียงฝีเท้าด้านนอก ก็รีบดึงกิจจามาซ่อนใต้โต๊ะ
ตอนนี้อยากจะปีนขึ้นไปช่องระบายอากาศก็เป็นไปไม่ได้แล้ว
หัวใจกิจจาเต้นระรัว
หวังว่าอีกฝ่ายจะไม่เข้ามาในห้องทำงาน
อีกด้านหนึ่ง นรมนกำลังติดต่อบุริศร์ น่าเสียดายโทรศัพท์บุริศร์ไม่รู้ไปแตะโดนโหมดเครื่องบินตอนไหน โทรหาไม่ติดเลย
นรมนร้อนรนใจอย่างมาก และไม่สามารถเข้าไปได้ด้วย
ประตูห้องทำงานเปิดออกแล้ว
มือกานต์และกิจจาจับกันแน่น รู้สึกค่อนข้างประหม่า
คนที่มาเดินมาด้านหน้าโต๊ะทำงาน ต้องการเปิดลิ้นชักเพื่อหาอะไรบางอย่าง
สุดท้ายกิจจาก็รู้สึกกลัวนิดหน่อย หดตัวเข้าไปข้างในอย่างอดไม่ได้ ไม่คิดว่าจะโดนโต๊ะ
แย่แล้ว!
กานต์แอบพูดกับตัวเอง จากนั้นก็ขยิบตาให้กับกิจจาทันที
คนที่มาก็รู้สึกว่าใต้โต๊ะมีใครบางคน อดไม่ได้ที่จะโน้มตัวลงไปตรวจสอบ
ในตอนนี้ กิจจาก็ต่อยไปทันที โดนที่ดวงตาคนคนนั้นพอดีอย่างเที่ยงตรง
“โอ๊ย! เจ้าเด็กแสบคนไหนมันชกฉัน?”
คนที่มาตะโกนร้อง กานต์รีบออกไปต่อยและเตะ ถึงขนาดเอาผ้าขนหนูมาปิดปากคนคนนั้นเลยด้วยซ้ำ
“รีบวิ่ง!”
กานต์กำลังวุ่นวายกับคนมาเยือน ตะโกนบอกกิจจาที่ค่อนข้างตกตะลึง
“แล้วนายล่ะ?”
“ไม่ต้องสนใจฉัน ฉันออกไปได้ นายรีบไปซะ!”
นึกได้ว่ากานต์ฉลาดขนาดนั้น ตัวเองอยู่ก็อาจจะเป็นภาระของเขา กิจจาจึงรีบยกเท้าวิ่ง
มาถึงทางเข้าประตูห้อง เขาพูดเสียงทุ้ม “ฉันจะไปตามหาคุณลุง ให้คุณลุงมาช่วยนายออกไป”
“รีบไป!”
กานต์รู้สึกว่าผู้มาเยือนมีปืนบนตัว
ตอนที่เขาต้องการสัมผัส คนมาเยือนก็ตอบสนอง หลุดพ้นจากพันธนาการของกานต์
ถึงแม้เด็กคนนี้จะมีทักษะบางอย่าง แต่อย่างไรก็เป็นเด็ก ความแข็งแกร่งจะเทียบกับผู้ใหญ่ได้อย่างไร
โดนผู้ชายคนนั้นโยนออกไปทันที
ศีรษะกานต์กระแทกบนโต๊ะ เจ็บปวดแสบปวดร้อน
เขาไม่กล้ายืดเยื้อ ลุกขึ้นแล้ววิ่งออกไปข้างนอก
ผู้ชายคนนั้นไม่คิดว่าเด็กคนนี้จะฉลาดได้แบบนี้ ถึงขนาดไม่สนใจความเจ็บปวดของร่างกายตัวเองด้วยซ้ำ
เขารีบกดสัญญาณเตือนภัย
สัญญาณเตือนภัยทั้งคลับก็ดังขึ้นมาทันที
บุริศร์ที่เพิ่งเข้ามาในคลับ ก็ได้ยินสัญญาณเตือนดังขึ้น อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว รู้สึกว่าอาจจะมีบางอย่างผิดปกติ
เขารีบเคลื่อนตัวไปยังจุดสัญญาณเตือนที่หนาแน่นที่สุด
เมื่อกานต์ยังวิ่งไม่ถึงประตูห้องก็โดนผู้ชายคนนั้นคว้าคอเสื้อเอาไว้ทันที
“เจ้าเด็กแสบ ดูสิแกจะวิ่งไปไหน”
ในขณะที่กานต์รีบร้อน ก็ถอดเสื้อโค้ตของตัวเองออกโดยตรง ใช้กลยุทธ์จักจั่นลอกคราบ ออกมาเหมือนปลาไหล
“ไอ้บ้าเอ๊ย! เจ้าเด็กแสบ แกหยุดนะ!”
ชายคนนั้นรู้สึกว่าตัวเองโกรธแทบบ้าแล้ว
เป็นแค่ไอ้เด็กเมื่อวานซืน ไม่คิดว่าจะหลอกเขาทีละอย่าง นี่มันเกินความคาดหมาย!
ชายคนนั้นโยนเสื้อโค้ตกานต์ทิ้งไปด้วยความโกรธ จากนั้นก็ตามออกไป
กานต์ก็ไม่รู้ว่าตัวเองควรวิ่งไปทางไหน เลือกวิ่งไปทางขวาโดยไม่รู้ตัว
“เร็ว! จับมัน!”
ชายคนนั้นตะโกนเสียงดังอยู่ด้านหลัง
มีชายร่างหนาใหญ่สองสามคนวิ่งมาหาเขา
กานต์รู้สึกตื่นตระหนกอย่างสมบูรณ์แล้ว
เขาสู้กับคนพวกนี้ไม่ได้จะทำอย่างไร?
กานต์ลังเลว่าต้องกระโดดออกจากที่นี่ไหม?
ถ้าตามท่อน้ำด้านนอก น่าจะปีนลงไปได้
กำลังคิดแบบนี้ กานต์ก็โยนของข้างกายใส่คนที่เดินมา และไม่สนว่ามันคืออะไร แค่หยิบขึ้นมาได้ก็จับแล้วโยนมันไปทันที
ฉวยโอกาสตอนที่คนพวกนี้หลบ กานต์รีบวิ่งไปที่หน้าต่างอย่างรวดเร็ว
“อย่าให้มันวิ่งไป! เจ้าเด็กนี้มันแอบเข้าไปในห้องทำงานผู้จัดการ ไม่รู้ว่าทำอะไรไปบ้าง”
ประโยคหนึ่งของชายที่ตามมาด้านหลังทำให้การกระทำอื่นๆ ของทุกคนยืดตรง ไล่ตามกานต์ไปกันหมด
ตามความฉลาดของเจ้าเด็กนั่นก็อาจจะเป็นไปได้ แต่บุริศร์ก็อยากตามหาอีกครั้ง
ตามหาอีกสิบกว่านาทีแล้ว คนของอีกฝ่ายกลับมายิ่งเยอะขึ้นเรื่อยๆ บุริศร์ไม่กล้ายืดเยื้อ รีบวิ่งกลับไปที่ถนน
ตอนที่เจอนรมนที่ร้านกาแฟ กิจจาและนรมนก็ต่างมองไปที่ด้านหลังบุริศร์
“กานต์ล่ะ?”
บุริศร์เมื่อได้ยินพวกเขาถามแบบนี้ จิตใจก็หดหู่ทันที
“กานต์ไม่ได้กลับมาเหรอ?”
“เปล่า คุณเจอกานต์ไหม?”
นรมนไม่วางใจทันที
สีหน้าบุริศร์ค่อนข้างแย่แล้ว
“ฉันไม่เจอเขา คนในคลับก็ไม่เจอเขา ฉันคิดว่าเจ้าเด็กวิ่งออกมาแล้ว”
ได้ยินบุริศร์พูดแบบนี้ นรมนก็พูดขึ้นอย่างเป็นห่วง “เราอยู่ที่นี่ดูอยู่ตลอดเวลา ไม่เห็นกานต์ออกมาเลยนะ”
“ตอนนี้กลับไปไม่ได้แล้ว คนของพวกมันกลับมาหมดแล้ว นรมน คุณพากิจจากลับไปก่อน ฉันจะดูอีกทีว่ามีวิธีอะไรเข้าไปตามหากานต์ได้อีกไหม”
บุริศร์ก็ร้อนรนใจอย่างมาก
ถ้ากานต์ไม่ได้ออกมา เจ้าเด็กแสบจะอยู่ที่ไหนได้นะ?
แต่กิจจาคว้าแขนเสื้อบุริศร์ไว้ แล้วพูดเสียงทุ้ม “คุณลุง คุณต้องตามหากานต์ให้เจอนะฮะ ไม่งั้นเขาจะตาย”
“เธอพูดอะไร?”
ประโยคนี้ของกิจจาทำให้นรมนและบุริศร์ตกใจมาก
“กิจจา อย่าพูดไร้สาระ หม่ามี้ขี้ขลาดนะ”
สีหน้านรมนเปลี่ยนไปแล้ว
กิจจาเงียบไปชั่วขณะหนึ่ง ราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่าง แต่หยุดสักพักแล้วพูดขึ้น “ผมกับกานต์อยากเรียนคลับนี้มากจริงๆ กานต์บอกว่า ที่นี่จะสร้างท้องฟ้าของเรา แต่เรายังไม่ทันเข้าร่วม แด๊ดดี้ของผมก็มา”
“แด๊ดดี้ของเธอเหรอ?”
บุริศร์และนรมนก็ค่อนข้างประหลาดใจ
ทำไมตรินท์ถึงรู้ทันทีว่าพวกเด็กๆ จะมาที่นี่?
และในเมื่อเขารู้แล้ว ทำไมไม่โทรหาพวกเขา?
กิจจาพยักหน้าแล้วพูดขึ้น “ใช่ แด๊ดดี้ของผม เขาคุ้นเคยกับผู้จัดการคลับนี้มาก ผมกับกานต์ซ่อนในช่องระบายอากาศในห้องทำงานผู้จัดการ ได้ยินกับหูว่าแด๊ดดี้ผมบอกว่า ให้พวกเขาออกตามหาผมกับกานต์ หาผมเจอให้ทำผมสลบกลับไป ตามหากานต์เจอให้ฆ่าทันที”
คำพูดเหล่านี้เพิ่งพูดจบ นรมนก็เย็นวาบไปทั่วทั้งตัว
“เขาพูดอะไร? ทำอะไรกานต์นะ?”
สีหน้าบุริศร์จมลงเช่นกัน
ถึงจะไม่อยากเชื่อว่านี่เป็นเรื่องจริง แต่เด็กๆ คงไม่โกหกหรอกใช่ไหม? และกิจจาเป็นลูกชายของตรินท์ ต้องไม่ใส่ความพ่อของตัวเองหรอก?
“กิจจา เธอแน่ใจนะว่าเธอไม่ได้ฟังผิด?”
“ผมเปล่า! กานต์ก็ได้ยินเหมือนกัน พวกเราเลยซ่อนในช่องระบายอากาศอยู่ตลอดไม่กล้าออกมา ไม่รู้ว่าหลับไปได้ยังไง พอเราตื่นขึ้นมา เพิ่งลงมาก็โดนขังไว้ด้านใน”
ต้องบอกว่า โชคพวกเขาไม่ค่อยดีนัก
สีหน้าบุริศร์ยิ่งแย่แล้ว
นรมนมองเขา ถามขึ้นเสียงทุ้ม “คุณวางแผนจะทำยังไง? ถ้าสิ่งที่กิจจาพูดเป็นเรื่องจริง เรายังพากิจจากลับไปได้ไหม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
650 ตอนยังไม่จบเลยค่ะ...
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...