แค้นรักสามีตัวร้าย นิยาย บท 521

บทที่ 521 นรมนกำลังป้องกันใครอยู่

“กานต์!”

หัวใจของธรณีแทบจะแตกเป็นเสี่ยงๆ

เขารีบอุ้มเด็กชายขึ้นมาแล้วติดต่อไปยังรถพยาบาลโดยรอบทันที จากนั้นพากานต์ตรงไปที่โรงพยาบาลทหาร

เรนนี่ไม่ยอมไปที่อื่น

ธรณีเห็นว่าในเมื่อเธอปกป้องกานต์ถึงขนาดนี้แล้ว เขาจึงปล่อยเธอไว้ตามลำพัง ทว่าก็ยังคงให้คนเตรียมชุดสะอาดไว้ให้เธอชุดหนึ่ง

กานต์ถูกส่งไปที่โรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว

ตอนที่ป้องได้ยินข่าวนี้ สีหน้าก็เย็นเยียบเป็นอย่างมาก

“ใครเป็นคนทำร้ายเขา”

ป้องเกลียดคนที่ทำร้ายเด็กมากที่สุด

เพราะเรื่องบางอย่างในอดีต ทำให้เขากับโพนี่มีลูกยาก โพนี่ชอบเด็กมากกว่าใคร แต่จนปัญญาที่เธอไม่เคยตั้งท้องได้เลยสักครั้ง

เมื่อเห็นว่าลูกชายของบุริศร์ถูกคนทำร้ายจนกลายเป็นแบบนี้ ก็รู้ได้ทันทีว่าป้องจะต้องโกรธมากแค่ไหน

ธรณีไม่มีเวลาอธิบายให้เขาฟัง

“รีบมาดูก่อนเถอะ เรื่องอื่นค่อยพูดกันทีหลัง”

เจตต์เองก็คอยตามอยู่ข้างหลัง

กานต์ถูกพาเข้าห้องฉุกเฉินอย่างรวดเร็ว

ตอนที่โพนี่ได้ยินว่ากานต์บาดเจ็บ ก็รีบมาทันที

ในตอนนั้นเอง คุณนายตระกูลโตเล็กก็ได้รู้เรื่องนี้แล้ว

หลังจากที่เธอรู้ว่ากานต์ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก็รีบมาเช่นกัน

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”

เจตต์มองไปที่คุณนายตระกูลโตเล็ก แล้วกล่าวเสียงทุ้มต่ำว่า “ผมเองก็อยากรู้ว่าเรื่องมันเป็นมายังไงกานต์ของพวกคุณถึงต้องตกอยู่ในอันตรายและความเจ็บปวด จนถึงกับต้องขอความช่วยเหลือจากผม คุณนายตัวเล็ก เกิดอะไรขึ้นกับตระกูลโตเล็กของพวกคุณกันแน่”

คุณนายตระกูลโตเล็กผงะเล็กน้อย เธอเองก็ค่อนข้างที่จะสงสัยเช่นกัน

ทำไมกานต์ถึงได้ไม่ไปขอความช่วยเหลือจากนรมนและบุริศร์ แต่กลับไปขอความช่วยเหลือจากเจตต์กันนะ

จะบอกว่ากานต์ถูกพวกค้ามนุษย์ลักพาตัวไปขายอย่างนั้นเหรอ

บุริศร์กำลังไล่ตามเบาะแสนี้อยู่ตลอด กมลกับนรมนก็อยู่ที่บ้านใหญ่ตระกูลโตเล็ก ขอแค่เด็กคนนี้ต้องการความช่วยเหลือ จะส่งข่าวให้ใครก็ได้ทั้งนั้น ทำไมถึงเอาแต่ผลักไสคนของตระกูลโตเล็กแล้วไปขอความช่วยเหลือจากเจตต์แทนกันนะ

คุณนายโตเล็กไม่เข้าใจเรื่องนี้เลยจริงๆ ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าการที่ตัวเองถูกพามาฟื้นร่างกายอยู่ที่โรงพยาบาลนั้นเต็มไปด้วยลับลมคมใน

สภาพร่างกายของเธอดีพอที่จะกลับไปพักฟื้นต่อที่บ้านได้ตั้งนานแล้ว แต่ทำไมโพนี่ถึงยังต้องรั้งตัวเธอเอาไว้ หรือเป็นความตั้งใจของนรมนกันนะ

สมองของคุณนายตระกูลโตเล็กทำงานอย่างรวดเร็ว

นรมนกำลังป้องกันใครอยู่

ใครกันที่ทำให้กานต์ไม่อาจวางใจคนของตระกูลโตเล็กได้

ความจริงคุณนายตระกูลโตเล็กก็มีอยู่ในใจแล้วชื่อหนึ่ง เพียงแต่เธอไม่ค่อยอยากจะเชื่อสักเท่าไหร่

“ไม่มีอะไรหรอก พ่อของกานต์อย่างบุริศร์ได้ยินว่าลูกชายของตัวเองถูกพวกค้ามนุษย์ลักพาตัวไป จึงเอาแต่คอยไล่ตามเบาะแสอยู่ตลอด ไม่ได้กลับบ้านมาสักพักแล้ว นรมนก็สุขภาพไม่ค่อยจะแข็งแรง เด็กคนนี้คงไม่อยากทำให้เธอต้องกังวลใจน่ะ ดังนั้นเลยลำบากแล้วคุณชายเจตต์แล้ว ครั้งนี้ต้องขอบคุณคุณมากจริงๆ”

เรื่องที่เกิดขึ้นกับนรมนครั้งก่อนเจตต์ก็เป็นคนช่วยไว้ ตอนนี้พอเป็นกานต์ก็ยังเป็นเขาที่ช่วยเอาไว้อีก คุณนายโตเล็กรู้สึกติดหนี้บุญคุณเจตต์มากขึ้นเรื่อยๆ ครั้งนี้จะสามารถตอบแทนได้ไหมนะ

และก็ไม่รู้ว่าลูกโง่ที่บ้านของตัวเองจะรับรู้ได้ถึงอันตรายนี้หรือเปล่า

โชคดีที่นรมนมีความรักลึกซึ้งต่อบุริศร์ เพราะถ้าหากเธออึดอัดใจหรือหวั่นไหวสักนิดละก็ ไม่แน่ว่าอาจจะถูกเจตต์แทรกแซงเข้ามาก็ได้

คุณนายตระกูลโตเล็กได้แต่ลอบถอนหายใจ ทว่ากลับไม่ได้แสดงอะไรออกมาทางสีหน้า

เจตต์รู้ดีว่าข้ออ้างพวกนี้ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ แต่ในเมื่อคุณนายตระกูลโตเล็กไม่อยากพูด เขาจึงไม่ถามต่อ

“คุณนายตระกูลโตเล็ก ครั้งนี้กานต์ต้องเจอกับเคราะห์หนักมากจริงๆ”

เจตต์เล่าทุกสิ่งที่ตัวเองเห็นให้คุณนายตระกูลโตเล็กฟังทั้งหมด หญิงชราได้ฟังก็ปวดใจไม่น้อย

“คนพวกนั้นเป็นใครกันแน่ ทำไมถึงได้ชั่วช้าขนาดนี้กันนะ”

“ยังไม่แน่ใจเหมือนกันครับ แต่ตอนนี้ก็ถูกพาตัวไปที่สถานีตำรวจแล้ว จะต้องตรวจสอบให้ชัดเจนได้แน่ พวกเขากล้าทำเรื่องเลวร้ายอย่างโจ่งแจ้งแบบนี้ สู้ไม่ได้แม้กระทั่งสัตว์เดรัจฉาน! กานต์บอกว่าเด็กที่นั่นถูกตัดลิ้นกันหมด ตอนนั้นผมกลัวมากจริงๆ ว่าเขาจะถูกวางยาพิษด้วย ยังดีที่ไม่เป็นไร”

ธรณีกำมือแน่น แทบจะจับคนพวกนั้นโยนลงไปในหม้อน้ำมัน

ทันใดนั้นเองคุณนายตระกูลโตเล็กจึงสังเกตเห็นเรนนี่ที่ยืนอยู่ข้างกาย

“เด็กคนนี้คือ...”

ธรณีมองไปที่เธอแล้วพูดว่า “กานต์บอกว่าเธอชื่อเรนนี่ หลังจากที่ถูกจับเข้าไปก็เป็นคนที่คอยปกป้องเด็กคนนั้นมาตลอด เขาจึงบอกให้ผมดูแลเธอดีๆ ”

“เรนนี่อย่างนั้นเหรอ”

คำพูดของคุณนายตระกูลโตเล็กทำให้เรนนี่ทั้งหวาดกลัวและเขินอาย

เธอไม่เคยเห็นคนเหล่านี้มาก่อน ทุกคนล้วนแปลกหน้าเป็นอย่างมาก จึงเผลอรู้สึกต่อต้านอยู่หน่อยๆ

แต่คนพวกนี้ก็เป็นครอบครัวของกานต์

เด็กหญิงจึงรีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว

“เด็กดี หนูไม่เจ็บตรงไหนใช่ไหมจ๊ะ”

เมื่อคุณนายตระกูลโตเล็กเห็นว่าเธออายุไล่เลี่ยกับกมล แล้วนึกไปถึงเรื่องที่เธอเผชิญมา ก็รู้สึกเห็นใจไม่น้อย

เมื่อโพนี่ที่อยู่ข้างในเห็นบาดแผลของกานต์ก็ปวดใจเป็นอย่างมาก ป้องจึงพาเธอออกมา

ตอนที่ได้ยินว่ามีเด็กอีกคนได้รับบาดเจ็บ เธอก็รีบมาทันที

กานต์ถูกเข็นออกมาและนำตัวไปส่งที่ห้องไอซียู

เรนนี่ยืนกรานที่จะรั้งอยู่ที่นี่ ใครพูดอะไรก็ไม่มีประโยชน์ นอกเสียจากว่ากานต์จะตื่นขึ้นมา

เห็นเธอเป็นแบบนี้คุณนายตระกูลโตเล็กและคนอื่น ๆ ก็พูดอะไรไม่ออก

ธรณีและเจตต์ไม่รู้ว่าหญิงชราจะบอกเรื่องนี้กับนรมนและบุริศร์ไหม พวกเขาจึงอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา

คุณนายตระกูลโตเล็กกล่าวเสียงเบาว่า “รอกานต์ฟื้นขึ้นมาแล้วก็ค่อยว่ากัน ถามเขาให้ชัดเจนว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ข่าวการหายตัวไปของเด็กคนนี้ทำให้สุขภาพของนรมนทรุดลงมาก ยังดีหน่อยที่ผอ.โพนี่คอยไปให้น้ำเกลือให้ทุกวัน บุริศร์เองก็อยู่ไกลเกินไป ไว้ฉันจะส่งคนไปแจ้งเขา ส่วนกานต์ก็ให้อยู่ที่นี่ต่อสักพักเถอะ”

เมื่อได้ยินคุณนายตระกูลโตเล็กพูดว่านรมนสุขภาพไม่ดี เจตต์ก็รู้สึกเป็นกังวลขึ้นมา

“ทำไมถึงอาการถึงทรุดลงอีกแล้วล่ะ ครั้งก่อนไม่ใช่บอกว่าดีขึ้นแล้วอย่างนั้นเหรอ ทำไมตระกูลโตเล็กของพวกคุณถึงได้มีปัญหามากมายขนาดนี้ ปล่อยให้นรมนพักผ่อนดีๆ ไม่ได้เลยบ้างหรือยังไง”

คำพูดพวกนี้ไม่เหมาะที่จะให้เจตต์พูดจริงๆ แต่นิสัยใจคอของเจตต์เป็นอย่างไรน่ะเหรอ เขาไม่สนใจหรอกนะว่าคนอื่นจะว่ายังไง

คำถามนี้ทำให้คุณนายตระกูลโตเล็กอับอายไม่น้อย

ถึงอย่างไรตระกูลโตเล็กก็ทำให้นรมนต้องรับความทุกข์ทรมานมากเกินไปแล้วจริงๆ

โพนี่ได้ยินพวกเขาพูดถึงนรมน ก็อยากจะพูดจริงๆ ว่าร่างกายของนรมนนั้นเหมือนระเบิดที่ไม่สามารถตั้งเวลาได้ และยังมีสิ่งที่สำคัญกว่านั้นซึ่งเธอยังไม่ได้บอกพวกเขา แต่เธอก็รับปากกับนรมนไว้แล้วว่าจะไม่พูดเรื่องนี้

แต่พอเห็นเจตต์ร้อนรนแบบนี้ โพนี่จึงพูดว่า “คุณชายเจตต์ ไม่สู้คุณไปสถานีตำรวจพร้อมกับคุณชายธรณี คนพวกนั้นเป็นมายังไงกันแน่ ทำไมถึงได้ใจกล้าขนาดนั้น ฉันไม่เชื่อว่าสโมสรเล็กๆ พวกนี้จะสามารถก่อเรื่องได้โดยไม่มีคนบงการอยู่เบื้องหลัง”

คำพูดนี้ช่วยเตือนสติธรณีและเจตต์

“คุณพูดถูก คิดไม่ถึงเลยว่าสโมสรเล็กๆ จะเหี้ยมโหดและไร้มนุษยธรรมขนาดนี้ ถ้าไม่มีคนคอยช่วยปกปิดไว้ล่ะก็ ไม่มีทางที่จะทำอย่างนี้ได้แน่ ทางที่ดีพวกเรารีบไปก่อนจะดีกว่า ฉันกลัวว่าถ้าสายเกินไปคนพวกนั้นจะ...”

เจตต์ยังไม่ทันพูดจบ ธรณีก็เข้าใจความหมายของเขาในทันที

ตอนนี้กานต์ไม่ได้รับอันตรายถึงชีวิตอีกต่อไปแล้ว คุณนายตระกูลโตเล็กเองก็อยู่ที่นี่ ทั้งยังมีป้องคอยดูแลความปลอดภัยของพวกเขา สิ่งที่พวกเขาต้องทำก็คือการสืบหารายละเอียดของสโมสรเล็กๆ แห่งนี้ให้ชัดเจน

ในตอนนั้นเอง คนของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาก็วิ่งเข้ามา

“คุณชายธรณีครับ พวกเราจับตัวใครบางคนเอาไว้ได้”

“ใคร”

“นาครครับ”

ทันทีที่คนตระกูลทวีทรัพย์ธาดาพูดประโยคนี้ออกมา ทุกคนในห้องก็พากันตกตะลึง โดยเฉพาะคุณนายตระกูลโตเล็ก

นาครอย่างนั้นเหรอ

เธอรู้ดียิ่งกว่าใครเสียอีกว่าคนคนนั้นถูกบุริศร์จับส่งไปให้ตรินท์ดูแล แต่วันนี้เขากลับมาปรากฏตัวที่สโมสร และยังถูกคนจับได้อีกครั้งเสียด้วย

นี่มันหมายความว่ายังไง

นัยน์ตาของเจตต์หรี่ลงทันที ธรณีเองก็มองคุณนายตระกูลโตเล็กอย่างประหลาดใจ

หรือว่านี่เป็นเรื่องของตระกูลโตเล็ก หรือนี่ก็คือเหตุผลที่กานต์ไม่ได้ขอความช่วยเหลือจากตระกูลโตเล็ก แต่กลับมาขอความช่วยเหลือจากเจตต์แทน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย